"สู้กับทักษิณมาด้วยกัน"! "ถาวร"ยันเปิดบ้านให้ "สุเทพ" รับสมาชิกพรรค เพราะเพื่อนยิ่งใหญ่คบมา 20 ปี-อุดมการณ์เดียวกัน 

"สู้กับทักษิณมาด้วยกัน"! "ถาวร"ยันเปิดบ้านให้ "สุเทพ" รับสมาชิกพรรค เพราะเป็นเพื่อนมา 20 ปี-อุดมการณ์เดียวกัน 

 

"ถาวร  เสนเนียม" อดีต ส.ส.สงขลา ปชป. ยันเปิดบ้านให้ "กำนันสุเทพ"  ปราศรัยและรับสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพราะตนเป็นเพื่อนกับนายสุเทพมา 20 ปี และร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณและรัฐบาลทรราชมาด้วยกัน  อีกทั้งบ้านของตนมีพื้นที่กว่า 3 ไร่ มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ ห้องประชุม แต่ก็ยืนยันว่าตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

 

วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายถาวร เสนเนียม" อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่เปิดบ้านให้ "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้ร่วมก่อตั้ง "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" (รปช.) ปราศรัยและรับสมัครสมาชิกพรรคฯ ว่า ตนและนายสุเทพเป็นเพื่อนมากว่า 20 ปี ร่วมต่อสู้กับระบอบทักษิณและรัฐบาลทรราช กว่า 240 วัน มีคนตาย 24 คน บาดเจ็บ 800 คน ติดคุก 18 คน และยังถูกฟ้องคดีอื่นๆ อีกร่วม 200 คน ถือเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของมวลมหาประชาชนที่ยังคงอยู่

 

อย่างไรก็ดี แม้ตนจะไม่ได้ไปร่วมพรรครวมพลังประชาชาติไทย และยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่อุดมการณ์เดิมและความเป็นเพื่อนยังมีอยู่ เมื่อเพื่อนรักเดินทางมารณรงค์หาสมาชิกพรรค ตนจึงเชิญนายสุเทพมาใช้บ้านของตนเป็นสถานที่พบปะสมาชิกมวลมหาประชาชนใน จ.สงขลา ในฐานะคนรักกัน เพราะถือว่าความเป็นเพื่อนยิ่งใหญ่มาก และจะทำให้คนประชาธิปัตย์มีเพื่อนเพิ่มมากขึ้น คนพรรครวมพลังประชาชาติไทยก็จะได้รู้จักคนประชาธิปัตย์ดี อีกทั้งบ้านของตนมีพื้นที่ 3 ไร่ มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ ห้องนอน ห้องประชุม ที่ประกอบอาหาร และระบบไฟฟ้า ในการรับรองได้ สิ่งที่ตนทำจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงขอทำความเข้าใจกับหลายคนที่กังวล อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

 

ส่วนการเปิดบ้านให้นายสุเทพรับสมัครสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย จะเป็นการแย่งฐานสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายถาวร กล่าวว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองขณะนี้เปรียบเหมือนสินค้า ใครมีสินค้าดีนำมาวางขาย ก็เป็นสิทธิของคนซื้อที่จะเลือกซื้อ คือ ประชาชน ขณะนี้ใน จ.สงขลา มีพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งประมาณ 10 พรรค ดังนั้น หากประชาชนเห็นว่านักการเมืองคนไหน พรรคไหนดี ก็เหมือนเห็นสินค้าดี มีสิทธิเลือกซื้อได้