"สุริยะใส" บี้ต้องสาวไอ้โม่งคนบงการ"มือบึ้ม กปปส."ให้ได้ เหตุ "ทำเป็นขบวนการ-โหดเหี้ยมอำมหิต"

"สุริยะใส" บี้ต้องสาวไอ้โม่งคนบงการ "มือบึ้ม กปปส." ให้ได้ เหตุคำสารภาพโดยเฉพาะเรื่องเงินค่าเลี้ยงดู 30,000 นั้นสะท้อนว่า  "คนพวกนี้ทำเป็นขบวนการ-โหดเหี้ยมอำมหิต ไม่สนว่าใครจะเจ็บหรือตาย"

การจับกุมตัว "นายกฤษดา ไชยแค" อายุ 47 ปี มือบึ้ม "กปปส." เมื่อ 3 - 4 วันก่อน ดูจะมีประเด็นที่น่าสนใจหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะคำสารภาพของเขาที่บอกว่า "หลังหลบหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ปี 2557 มีบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เดือนละ 30,000 บาท โดยตนไม่ต้องประกอบอาชีพใดๆ"

นั่นย่อมสะท้อนว่า แท้จริงฉากหลังของ "นายกฤษดา" นั้นมีไอ้โม่งที่เป็นผู้บงการยืนเป็นเงาทะมึนอยู่ ยิ่งบวกรวมกับคำสารภาพของเขาอีกบางประโยคที่ว่า  "ตนเองเป็นแดงฮาร์ดคอร์" และร่วมอยู่ในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบทางการเมืองหลายต่อหลายครั้ง โดยรวมกลุ่มกันในหมู่สมาชิกสะสมอาวุธ เพื่อใช้เข่นฆ่าประหัตประหาร....อริทางการเมืองของพวกตนนั้น...ยิ่งเป็นภาพสะท้อน...ถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตที่แฝงฝังอยู่ในขบวนการเสื้อแดงของเขาอย่างแจ่มชัด

 

ต่อกรณีดังกล่าว ล่าสุด "ดร.สุริยะใส กตะศิลา" รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และเป็นผู้ติดตามความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงมานาน ได้ออกมาให้ความเห็นกรณีนี้เอาอย่างน่าสนใจว่า  เรื่องนี้ต้องขยายผลให้ถึงผู้บงการ เพราะคำสารภาพของผู้ต้องหา สะท้อนให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมอำมหิต โดยบอกว่ารับงานมาปาระเบิดใส่ ฝูงชนในที่ชุมนุมโดยไม่สนว่าใครจะเจ็บหรือตาย ที่สำคัญคำสารภาพยังบอกว่าช่วงหนีการจับกุมไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านมีคนจ่ายค่าเลี้ยงดูเดือนละ 30,000 บาทนั้น สะท้อนให้เห็นถึงขบวนการก่อเหตุที่มีความฮึกเหิม และมั่นใจในการก่อเหตุ อาจเป็นเพราะผู้บงการเป็นผู้มีอำนาจมีอิทธิพลจึงไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

 

โดยรายละเอียด ทั้งหมดที่ "ดร.สุริยะใส" โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว คือ

 

จนท.ต้องขยายผล คนบงการมือปาระเบิด กปปส.

 

กรณีการจับมือปาระเบิดช่วงชุมนุมของ กปปส.โดยเฉพาะตรงช่วงถนนบรรทัดทองและช่วงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในช่วงกลางวัน ทั้ง 2 เหตุการณ์ ทำให้มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

 

คำสารภาพของผู้ต้องหาสะท้อนให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตโดยบอกว่ารับงานมาปาระเบิดตั้งใจปาใส่ ฝูงชนในที่ชุมนุมโดยไม่สนว่าใครจะเจ็บหรือตาย ที่สำคัญคำสารภาพยังบอกว่าช่วงหนีการจับกุมไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านมีคนจ่ายค่าเลี้ยงดูเดือนละ 30,000 บาทนั้น

 

สะท้อนให้เห็นถึงขบวนการก่อเหตุที่มีความฮึกเหิม และมั่นใจในการก่อเหตุ อาจเป็นเพราะผู้บงการเป็นผู้มีอำนาจมีอิทธิพลจึงไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

 

ตำรวจจึงต้องสอบสวนขยายผลไปถึงแนวร่วมคนอื่นและผู้บงการเพราะหากกระบวนการนี้ยังดำรงอยู่ไม่ถูกจับกลุ่มถอนรากถอนโคนพวกนี้ก็พร้อมกลับมาก่อเหตุอีก

 

ตำรวจจึงต้องสอบสวนขยายผลไปถึงแนวร่วมคนอื่นและผู้บงการเพราะหากขบวนการนี้ยังดำรงอยู่ไม่ถูกจับกลุ่มถอนรากถอนโคนพวกนี้ก็พร้อมกลับมาก่อเหตุอีกและมีอีกหลายเหตุการณ์ในช่วงชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและ กปปส.ที่ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้

 

แม้ว่าหลังการรัฐประหารเจ้าหน้าที่จะจับกุมขยายผลได้บางส่วนแต่ แต่เชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวยังคงมีอยู่อีกจำนวนมากและโดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาวุธสงครามในมือ หากขบวนการนี้รับงานก่อเหตุทางการเมืองอีกในช่วงเลือกตั้งอาจจะเกิดความวุ่นวายได้

 

เราต้องยอมรับความจริงกันว่าช่วงความขัดแย้งทางการเมืองมีกองกำลังติดอาวุธเกิดขึ้นจำนวนมากการชุมนุมของประชาชนบางครั้งคนกลุ่มนี้แทรกตัวและพยายามชักใหญ่อยู่ข้างหลังอีกชั้นหนึ่งโดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ หากจะสร้างบรรยากาศปรองดองจริงๆ ต้องจัดการปลดอาวุธดำเนินคดีให้ถึงตัว คนกลุ่มนี้ให้เร็วที่สุด

 

 

อ่าน "กฤษดา" ภาพสะท้อน"ความรุนแรงชาวแดง" ที่ปัดยังไงก็ไม่พ้นตัว แถมเล่นเอา"ลูกโอ๊ค" เสียคนไปอีกรอบ