"บิ๊กป้อม" สั่งการทุกเหล่าทัพรับมือพายุ "ปาบึก" "ทบ.-ทร." หัวหอก ระดมสรรพกำลังเตรียมช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน

 

วันนี้ 3 ม.ค. 2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และรมว.กห. ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ เฝ้าติดตามสภาพอากาศ และเตรียมพร้อมรับมือกับ พายุโซนร้อน "ปาบึก" ที่พัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ ระหว่าง 3-5 ม.ค. นี้ ในเบื้องต้นทางกรมอุตุฯ คาดการณ์ว่า จะเกิดคลื่นลมรุนแรง ฝนตกหนักมาก และน้ำท่วมฉับพลัน จนสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรจึงสั่งการให้ทุกเหล่าทัพเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์และเครื่องมือช่าง รวมทั้งชุดแพทย์สนาม และสถาปนาระบบสื่อสารสำรองในพื้นที่ให้พร้อม โดยให้ประสานกับฝ่ายปกครอง พร้อมเร่งอพยพประชากรพื้นที่เสี่ยง ไปยังพื้นที่ปลอดภัยและวางแผนกระจายกำลังจากหน่วยทหารในพื้นที่ เร่งให้การช่วยเหลือเร่งด่วนขั้นต้นแก่ประชาชนในทุกพื้นที่ให้ทั่วถึง โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชายฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย สำหรับกองทัพเรือเตรียมการเป็นฐานช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวริมชายฝั่งทะเล พร้อมทั้งให้เตรียมพร้อมอากาศยาน สำหรับการลำเลียงสิ่งของยังชีพจากส่วนกลาง สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

 

ขณะเดียวกันวานนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก โดยเฉพาะศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ ๔ ประสานงานและบูรณาการกับทุกภาคส่วน เตรียมรับสถานการณ์ ป้องกันและลดผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับให้น้อยที่สุด โดยได้มีการเตรียมกำลังพล เครื่องมือ แผนการปฏิบัติ การช่วยเร่งระบายน้ำ ดำรงการติดต่อสื่อสาร ติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหน่วยทหารในพื้นที่ภาคใต้จะตั้ง "จุดบริการประชาชนส่วนหน้า" ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยประชาชนเตรียมรับสถานการณ์และให้การช่วยเหลือได้ทันที ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ผู้บัญชาการทหารบกได้เคยมอบให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการบรรเทาสาธารณภัย

ทางด้าน พล.ร.ท.เดชดล ภู่สาระ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ได้สั่ง เตรียมพร้อมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ เรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เตรียมนำกำลังพล และเครื่องมือเพื่อเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือ โดยมีทีมแพทย์ และกำลังพล รวมทั้งอากาศยาน ที่พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้หากเกิดเหตุ ทางกองทัพเรือจะได้รวบรวมข้อมูลข่าวสาร เพื่อประมวลเหตุการณ์ เพื่อจะได้เข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเรือหลวงอ่างทอง เตรียมความพร้อม 3 ม.ค. ที่ท่าเรือแหลมเทียน สัตหีบ ชลบุรี

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานเพิ่มเติมว่า ตำแหน่งการเคลื่อนตัวของพายุเปลี่ยนแปลง จากเดิมที่คาดว่าจะเคลื่อนผ่านดอนสัก เกาะสมุย ผ่านสุราษฎ์ธานี รอยต่อชุมพร ไปเข้าทางนครศรีธรรมราช ซึ่งเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราช และวิ่งตัดเข้าแผ่นดินลึก ขึ้นฝั่งที่ หัวไทร อ.ปากพนัง สอดคล้องกับแบบจำลองพยากรณ์ของญี่ปุ่น