แนวโน้มสูง 24 มี.ค.วันลต.!!! รอง วิษณุ แจงยิบวันลต.ที่เหมาะสม ไม่ควรเกินมีค.บอกหากเลื่อนแล้วต้องจบ ไม่มีเลื่อนแล้วเลื่อนอีก

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุเครืองาม รองนายกรัฐมนตี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการเลื่อนวันเลือกตั้ง ภายหลังที่มีการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่คาดว่าจะเลื่อนจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ว่า ระหว่างการประชุมพิจารณากำหนดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถามผลหาการหรือร่วมกับกกต.เมื่อวานนี้ ( 3 ม.ค.) โดยตนชี้แจงเนื้อหาที่พูดคุยให้ท่านทราบแล้ว ซึ่งรายละเอียดก็เหมือนกับที่ตนแถลงไปเมื่อวานนี้

สรุปคือ ได้ชี้แจงกกต.ว่าจะมีกิจกรรมเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทั้งก่อนและหลังวันพระราชพิธีฯเมื่อตนบอกรายละเอียดต่างๆกับกตต.ไปแล้ว เขาจะคิดว่ายังเหมาะสมหรือไม่ก็แล้วแต่กกต.แต่รัฐบาลยืนยันไปว่า หากวันเลือกตั้งเกิดก่อนวันพระราชพิธีฯก็ไม่มีปัญหาในการดูแลความเรียบร้อย รวมถึง ชี้แจงว่าการเลือกตั้งจะเป็นวันใดก็ตาม เมื่อรู้เรื่องวันพระราชพิธีฯแล้วก็ต้องจัดให้มีก่อนวันพระราชพิธีอยู่ดี ภายในกรอบ 150 วัน แต่หากวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงคือกิจกรรมทางการเมืองหลังจากนั้น ที่จะเกิดขึ้น อาทิ การประกาศผลการเลืกตั้ง การดำเนินการเกี่ยวกับสมาชิกวุฒิสภา การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรก การเลือกประธานสภา การจัดตั้งรัฐบาล เมื่อกกต.รับทราบอยากให้กกต.เอากิจกรรมที่ต้องดำเนินการเหล่านี้มาเทียบกับกิจกรรมในส่วนของพระราพิธีฯ เข้าพิจารณาด้วย ส่วนกกต.จะดำเนินการอย่างไร คงแล้วแต่เขา ซึ่งเขาบอกว่าจะขอไปคิดและตัดสินใจเอง เพราะไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

 

รองนายกฯ กล่าวว่า ในการพูดคุย หากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ แล้วเกิดปัญหาและในความเห็นส่วนตัวตนเห็นว่าจะเกิดจริง หากเลื่อนวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 3,10 ,17 ,24,31 เดือนมีนาคม ได้หรือไม่แต่ถึงอย่างไร การเลือกตั้งไม่ควรเกินเดือนมีนาคม  และหากยกตังอย่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงหากเลือกตั้งวันที่ 24กุมภาพันธ์ กกต.คาดว่าจะประกาศผลวันที่ 24 เมษายนตามกรอบ 60 วัน แต่ระหว่างวันที่ 24 เมษายน เป็นต้นมา จะมีพระราชพิธีฯต่างๆขึ้นแล้ว แต่ถ้าขยับออกไป ก็ต้องดูว่ากรอบการประกาศผล 60 วันจะตรงกับวันไหน ถ้าเป็นวันที่ 3มีนาคม ก็จะตรงกับวันที่ 3พฤษภาคม ซึ่งก็อยู่ในช่วงของพระราชพิธีฯ แต่ถ้าขยับออกไปก็ควรให้พ้นออกไปเลย หากเลือกวันที่ 10 มีนาคม ก็จะประกาศผลวันที่ 10พฤษภาคม ก็เริ่มพ้นออกไปแล้ว แต่ถ้าขยับไปเป็นวันที่ 24หรือ 31 มีนาคม ก็จะประกาศผลวันที่ 22 หรือ 31พฤษภาคม ก็จะพ้นงานพระราชพิธีฯทั้งหมด ทั้งในส่วนของรัฐบาล และประชาชน ต่อจากนั้นจะเดินหน้าทำอะไรต่อก็ทำ ดังนั้น จะขยับวันเลือกตั้งออกไปอย่างไรก็ขออย่าให้ยาวเกินไป จนอธิบายเหตุผลไม่ได้ฉะนั้น การเลือกตั้งจึงไม่ควรเกินจะเดือนมีนาคม 

เมื่อถามว่า หากมีการปรับโรดแมพเลือกตั้งแล้ง การประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ต้องขยับออกด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าเมื่อรัฐบาลยังไม่ประกาศก็จบเพราะการประกาศพระราชกฤษฎีกานั้นมีความหมายเพราะเป็นวันเริ่มหาเสียงครั้งแรก ค่าใช้จ่ายของผู้สมัครและพรรค ก็เริ่มนับในวันนั้น จึงต้องเข้าใจว่า ต้องให้เวลาเขาหาเสียงอย่างเพียงพอ ยกตัวอย่าง หากประกาศพ.ร.ฎ ฯ วันที่ 2 มกราคม ซึ่งเลยมาแล้วแล้วการเลือกตั้งเกิดขึ้นวันที่24 กุมภาพันธ์ จะมีเวลาหาเสียง 52 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังดี แต่หากประกาศวันนี้ไม้ได ซึ่งเป็นวันไหนตนไม่รู้ แต่ต้องให้เวลาหาเสียงไม่น้อยกว่า 52 วัน เพราะหากขยับออกไปจนเหลือเวลาหาเสียงน้อยก็จะเป็นปัญหา อย่างไรก็ตามกกต.ไม่จำเป็นต้องแจ้งมายังรัฐบาลแล้ว ว่าจะจัดการเลือกตั้งเมื่อใด แต่ในทางปฏิบัติก็ต้องมีการประสานกันเป็นการภายใน

 

นาย วิษณุ กล่าวอีกว่า เราไม่ต้องการให้กำหนดการทางการเมืองไปทำให้เกิดกระบวนการอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่24,31 มีค.จะไม่ชนพระราชพิธีใช่หรือไม่ นาย วิษณุ กล่าวว่า สื่อฟังสื่อก็รู้ว่าหากเลือกตั้ง24มีค. จะต้องประกาศผลการเลือกตั้ง22พค. ซึ่งจะปลอดโปร่ง และ พ้นไปจากงานพระราชพิธี ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเลือกตั้งวันที่17 มีค.ยังลุ่มๆดอนๆใช่หรือไม่ นาย วิษณุ กล่าวยอมรับว่า ยังลุ่มๆดอนๆเพราะงานพระราชพิธีจะกินระยะเวลาราว15วัน คือ หลังจากนี้จะปลอดภัย

“คือไม่อยากให้เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ถ้าเลื่อนแล้วจบเลย คราวที่แล้ว24กพ.ว่าจบแล้วนะ แต่เมื่อเราเข้าใจอยู่แล้วว่า บัดนี้มีสิ่งที่มากระทบขึ้น ถ้าจะปรับอีก ขอปรับหนเดียวแล้วกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดที่ว่าเป็นเดือนมีค.เหมาะสมกับการเลือกตั้ง กกต.ฟังแล้วมีความคิดอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่ นาย วิษณุ กล่าวว่า ไม่มี กกต.ไม่ได้ให้ความหวังอะไรทั้งสิ้น ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า วันเลือกตั้งที่เหมาะสมคือ เดือนมีค.ใช่หรือไม่ นาย วิษณุกล่าวว่า คือพ้นจาก24กพ.ก็ไม่มีเดือนกพ.แล้ว ก็เป็นเดือนมีค. แล้ว คือวันที่ 3,10,17,24,31 มี.ค. ซึ่งทั้งตนและ กกต. ทั้ง7คนต่างคนต่างหารือกันในเรื่องปฎิทินวันเลือกตั้ง