- 05 ม.ค. 2562
"หญิงหน่อย" โปรดทราบ ปาร์ตี้ลีสต์เบอร์ 1 ก็ไม่มีความหมาย ถ้า "ทักษิณ" จะเสนอ "ชัชชาติ" ให้เป็นนายกฯ
จากกรณีกระแสข่าวว่า "พรรคเพื่อไทย"จะมีการเสนอให้ "นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์" เป็นหนึ่งในสามรายชื่อบุคคลผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แทนนักการเมืองรุ่นเก๋าภายในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะหากไม่ลืมว่า "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" เองก็เคยถูกคาดหมายว่าจะได้รับโอกาสนี้ เพราะถึงขั้นถูกไว้วางใจให้ทำหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
ประเด็นสำคัญคือต้องไม่ลืมว่า "สำนักข่าวทีนิวส์" ก็เคยพูดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้วว่าให้ระวังว่า "คุณหญิงสุดารัตน์"จะพลาดโอกาสดังกล่าว แต่ไม่ว่าความพลาดหวังนี้จะเป็นจังหวะทางการเมืองแบบ"รู้เขาหลอก" หรือ "ให้ใครคนนั้นที่อยู่แดนไกลหลอกใช้" เท่านั้นเอง ... อย่างไรก็ตาม บริบทต่อไปที่ต้องจับตาแรงกระเพื่อมภายในพรรคเพื่อไทย จะมีการสั่นไหวในระดับไหนเป็นเรื่องไม่มีใครตอบได้ แม้จะมีการยืนยันจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เมื่อ 1 มกราคม ที่ผ่านมาว่า "เรื่องการผลักดันนายชัชชาตินไม่ใช่กระแสข่าว แต่เป็นเรื่องที่ในที่ประสูชุมของพรรค มีการพูดคุยกันแล้ว โดยจะทำงานส่งเสริมซึ่งกันและกัน"
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปดูบทบาทของ "คุณหญิงสุดารัตน์"แล้วนั้น เธอเองเคยถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบ เนื่องจากได้ขึ้นรถที่มีชื่อตัวเองติดอยู่ปราศรัยชวนประชาชนร่วมถวายดอกดาวเรือง เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ " จากข่าวนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเธอเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะอย่างไร "คุณหญิงสุดารัตน์" ยังคงได้รับการสนับสนุนจาก"คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร" อยู่
ทว่า..เรื่องของ"คุณหญิงสุดารัตน์" ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะหลายปีก่อนก็เคยเผชิญกับความบาดหมาง กับ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" คีย์แมนสำคัญในพรรคเพื่อไทย ถึงขั้นไม่มองหน้ากัน จากภาษาคำพูดที่อีกฝ่ายเลือกใช้กับอีกฝ่าย ถึงขั้นมีรายงานข่าวหลุดรอดออกมาระหว่างมีประชุมกลุ่มย่อย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 61 ที่ผ่านมา ว่า "ในช่วงที่คณะอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย 7 - 8 คน อาทิ "ร.ต.อ.เฉลิม" "นายสามารถ แก้วมีชัย" อดีต ส.ส.เชียงราย "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" อดีต ส.ส.น่าน เป็นต้น กำลังล้อมวงสังสรรค์คุยถึงสถานการณ์การเมืองอย่างออกรส แต่จู่ๆ "คุณหญิงสุดารัตน์" เดินเข้ามาในวงพร้อมกับชี้ไปทาง "ร.ต.อ.เฉลิม" พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า "ได้ข่าว ยังด่าชั้น อยู่ทุกวัน"
ทำให้ "ร.ต.อ.เฉลิม" สวนกลับไปทันที "ทีชม ไม่เห็นเอาไปพูดบ้าง" ก่อนที่จะมีการปะทะคารมอีกเล็กน้อย ก่อนที่ "คุณหญิงสุดารัตน์" เดินออกไปด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นัก ท่ามกลางอาการตกตะลึงของอดีต ส.ส.ของพรรคฯ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ... ขณะที่ล่าสุด ช่วงเดือนธันวาคม ปี 2561 "ร.ต.อ.เฉลิม" มั่นใจการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะได้ส.ส.มากกว่าเดิม ทั้งยืนยันพร้อมร่วมงานทางการเมืองกับ"คุณหญิงสุดารัตน์" แม้ต่างคนจะมีแนวทางการเมืองต่างกัน ทั้งระบุด้วยซ้ำว่า"พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ และพร้อมสนับสนุนให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี..."
ไม่ว่าจะอย่างไร หากถามว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถึงเวลานี้มีความชัดเจนในบางส่วน ประกอบด้วย "นายชัชชาติ " , "คุณหญิงสุดารัตน์" และ "พล.ต.อ.วิโรจน์ เปาอินทร์" ขณะที่ถ้าพิจารณาจาก "รัฐธรรมนูญ 2560" กำหนดไว้ คือ ให้พรรคการเมืองส่งชื่อบุคคลที่พรรคนั้นจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ได้ไม่เกิน 3 ชื่อ หรือพรรคใดจะไม่ส่งก็ได้ แต่พรรคที่จะเสนอชื่อผู้ที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ต่อสภาผู้แทนฯ (ครั้งนี้เสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา) จะต้องมีส.ส.ไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ของ ส.ส.ทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่า 25 คน และในการเสนอชื่อนายกฯ จะต้องมี ส.ส.รับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของ ส.ส.ทั้งหมด หรือไม่น้อยกว่า 50 คน
ทั้งนี้ ชื่อบุคคลทั้ง 3 ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกนำเสนอโดยพรรคเพื่อไทย แต่บทจบจะเป็นอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตามแล้วแต่การตัดสินใจของ ผู้นำพรรคตัวจริงอย่าง "นายทักษิณ ชินวัตร" ที่เคยทำให้ "นายสมัคร สุนทรเวช" เจ็บช้ำหัวใจอย่างหนักจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายแห่งชีวิต ... ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมรายชื่อผู้เหมาะสมตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในโควต้าพรรคเครือข่ายระบอบทักษิณอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งล้วนแต่มีผลกระทบต่อโอกาสหรือความฝันของคุณหญิงสุดารัตน์ทั้งสิ้น
และด้วยบทบัญญัติกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า… ในการเลือกตั้งทั่วไป ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เกินสามรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง และให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งประกาศรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบ และให้นําความในมาตรา 87 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม และพรรคการเมืองจะไม่เสนอรายชื่อบุคคลตามวรรคหนึ่งก็ได้ ยิ่งเป็นช่องทางสำคัญที่ ทักษิณ ชินวัตร จะเลือกใครอื่นใดได้ในอนาคตมาทำหน้าที่เป็นผู้นำถ้าชนะการเลือกตั้ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อที่อยู่ใน 3 รายชื่อ ที่วันนี้มีคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งคาดหมายว่าจะนั่งอยู่ในผู้สมัครบัญชีรายชื่อ หรือ ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 รวมอยู่ด้วยก็ได้ ...