- 05 ม.ค. 2562
สืบเนื่องจากกรณีกระแสข่าวประเด็นรายชื่อนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย จากเดิมที่คาดว่าคุณหญิงสุดารัตน์ แต่ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างหาเสียง โดยดูจากผลสำรวจความนิยมในช่วงนั้นอีกครั้ง เนื่องจากผลโพลภายในล่าสุด สะท้อนออกมา หากชูคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี
สืบเนื่องจากกรณีกระแสข่าวประเด็นรายชื่อนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย จากเดิมที่คาดว่าคุณหญิงสุดารัตน์ แต่ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างหาเสียง โดยดูจากผลสำรวจความนิยมในช่วงนั้นอีกครั้ง เนื่องจากผลโพลภายในล่าสุด สะท้อนออกมา หากชูคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี จะได้ที่นั่งราว 190-200 ที่นั่ง แต่หากเป็นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะได้ราว 220 ที่นั่ง จึงอาจมีการปรับยุทธศาสตร์ ชูนายชัชชาติ เป็นนายกรัฐมนตรี ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย
ขณะที่ตัวของ คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ตอบถึงกระแสข่าวดังกล่าวเพียงสั้นๆ โดยระบุว่า.. ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันภายในพรรคเสมอและตนเองก็จับมือทำงานร่วมกันกับนายชัชชาติมาโดยตลอดการันตีด้วย คำพูดของนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้ได้ กล่าวว่า "ความสามารถของนายชัชชาติ สามารถเป็นได้ถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี"
แต่วันต่อมากลับพบว่าทางพรรคได้ออกมาโต้ข่าวว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทว่าล่าสุด 5 พ.ค. 2562 ได้มีการยืนยันที่ทำให้ประชาชนต่างสับสนไปตามกัน เมื่อคุณหญิงสุดารัตน์ ออกมามาเปิดเผยว่าทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสทำงานเศรษฐกิจจะดีขึ้น ดังนั้น พรรคจะพาประเทศไปสู่ความหวังใหม่อีกครั้ง และยืนยันว่าไม่เคยปิดโอกาสให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม เข้ามาเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ต้องเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะเป็นคนไปเชิญเข้ามาร่วมงานเอง
"เราทำงานแบบเป็นทีม ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ก็ไม่มีปัญหา เพราะเราสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อให้พรรคประสบความสำเร็จในการทำงานและการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวได้นำมาซึ่งการค้นข้อมูลจนสืบทราบว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 2555 – 2557 ต่อมาด้วยขาดความชอบธรรมทางการเมืองนำมาซึ่งการรัฐประหาร ทำให้คณะรัฐมนตรีมีอันต้องพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองรวมถึงนายชัชชาติด้วยเช่นกัน ซึ่งภายหลังเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด เป็นเวลา 4 ปี กระทั่งลาออกเพื่อเตรียมตัวลงสนามการเมืองเต็มตัว
ก่อนหน้านี้ครั้งเมื่อยังอยู่ในตำแหน่ง รมว.คมนาคม ตามหลักปฏิบัติจะต้องแจ้งทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ได้ปรากฏต่อสาธารณะ ซึ่งพบว่าภายหลังถูกรัฐประหารครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2558 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมรสกับ นางปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์ มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 106,309,812 บาท ไม่มีหนี้สิน
ตามรายงานระบุว่ายนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มีทรัพย์สิน 73,295,186 บาท ได้แก่
1. เงินฝาก 10,182,723 บาท
2. เงินลงทุน 1,187,163 บาท
3. ที่ดิน 55,145,000 บาท
4. บ้าน 2,820,300 บาท
5. รถยนต์ 1.9 ล้านบาท
6. ทรัพย์สินอื่น 2,060,000 บาท และไม่มีหนี้สิน
โดยมีรายได้ 2,625,899 บาท เป็นเงินเดือนและเงินปันผล-ดอกเบี้ยโบนัส และรายจ่าย 2,577,870 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต
สำหรับนางปรมินทร์ทิยา สิทธิพันธุ์ ภรรยา มีทรัพย์สิน 33,014,626 บาท ได้แก่
1. เงินฝาก 19,186,009 บาท
2. เงินลงทุน 10,138,616 บาท
3. ที่ดิน 6 แสนบาท รถยนต์ 2.2 ล้านบาท
4. ทรัพย์สินอื่นๆ 8.9 แสนบาท และไม่มีหนี้สิน
โดยมีรายได้ 1,121,903 บาท เป็นเงินเดือน 6 แสนบาท และเงินปันผล-ดอกเบี้ยโบนัส 521,903 บาทมี และรายจ่าย 9.6 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากนี้บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะยังมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน 618,200 บาท
เบ็ดเสร็จทรัพย์สินของทั้งคู่รวมทั้งสิ้น 106,309,812 บาท ไม่มีหนี้สิน