โจ นูโว ลั่น "อย่าเลื่อนเลือกตั้ง" ยกเลิกไปเลย! ... ไม่ใช่ "ไม่เลือก" แต่จำเป็นต้อง "เลื่อน"

ท่ามกลางบรรยากาศที่ยังคลุมเครือ และยังมิอาจยืนยันหรือฟังธงได้ว่า "การเลือกตั้ง" จะเกิดขึ้นเมื่อใด ด้วยเพราะมีเหตุสุดวิสัยที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลเกรงว่าถ้าการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกำหนดการเดิมคือวันที่ 24 ก.พ. 2562 จะเกิดการทับซ้อนกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แน่นอนว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะควรอย่างยิ่งที่กิจกรรมทางการเมืองจะทับซ้อนพิธีมหามงคลของชาวไทยทั้งผอง ด้วยเหตุนี้จึงนำมาซึ่งความแตกแยกทางความคิดระหว่างกลุ่มที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดพร้อมประดิษฐ์วาทกรรม "ไม่เลื่อนเลือกตั้ง" และระดมพลตั้งกลุ่มก้อนนาม "คนอยากเลือกตั้ง" 

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าข่าวคร่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวเป็นเพียงกลุ่มน้อย ที่พยายามผลักดันประกาศกร้าวยกระดับการชุมนุม โดยเมื่อผ่านทัศนะของพวกเขาแล้ว จะพบว่ามิได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องอันละเอียดอ่อนหรือความสุดวิสัยอย่างใดไม่ แต่พยายามยกอ้างครรลองของประชาธิปไตยและถือมั่นกับการเลือกตั้งเป็นหลักหมาย เหนืออื่นใดเหล่าแกนนำก็เป็นคนเก่าหน้าเดิมที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลมาโดยตลอด และอุปาทานไปว่าพวกตนยืนอยู่ข้างสิทธิเสรีภาพ ซ้ำร้ายยังโพทนาการใช้อำนาจของรัฐบาลทำนองว่าเป็นเผด็จการ ตรงข้ามกับเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นควรว่าควรเลื่อนออกไปก่อน เมื่อปรากฏเสียงจากบุคคลสาธารณะอดีตนักดนตรีชื่อดัง โจ วงนูโว ออกมาแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์อย่างตรงไปตรงมาด้วยไม่ต้องการให้เลื่อนเลือกตั้งแต่ให้ยกเลิก

อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ก็ยังมิได้ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาด อาจด้วยเพราะยังเห็นว่ามิได้เป็นมวลชนขนานใหญ่และไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลายไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงจนกลายเป็นวิกฤตการณ์การเมือง ซึ่งไม่เป็นการดีในช่วงคาบลูกคาบดอกที่สถานการณ์ทั้งหมดควรจะสงบราบเรียบ ขณะเดียวกันทางแกนนำคนอยากเลือกตั้งได้ประกาศเคลื่อนไหวหวังระดมกำลังให้มากขึ้นอีกในวันที่ 19 ม.ค. 2562 นี้

ราวกับจะเป็นการส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลและกองทัพต้องขานรับและออกมาส่งนัยตอบ เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง การดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีกลุ่มอยากเลือกตั้งเคลื่อนไหวในพื้นที่ กทม. ว่า มีเคลื่อนไหวประมาณ 100 – 200 คน ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้เพราะต่างคนต่างความคิด เนื่องจากคนอยากให้เลือกตั้ง หลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกก็ยังมีอยู่ แต่หากอยากออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ต้องขออนุญาตก่อน เพราะมีกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้อยู่ พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ และย้ำว่าไม่เป็นการปิดปากประชาชน เพราะอย่างไรก็ต้องมีเลือกตั้งภายใน 150 วัน หากพระราชกฤษฎีกาประกาศออกมา จึงขอให้ประชาชนเข้าใจเพราะต้องมีงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่จำเป็นต้องดูว่ามีการทับซ้อนกับการเลือกตั้งหรือไม่ หากทับซ้อนก็ต้องเลื่อนออกไป แต่จะกี่วันต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.

ร้อนไปถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า คงไม่เป็นห่วง ถือเป็นสิทธิเสรีของเขาที่จะทำ แต่เสรีภาพการใช้ประชาธิปไตยควรจะอยู่ในกรอบ แต่ตนเป็นห่วงผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่รอบข้าง ภาพของการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาจะเข้าใจอย่างไร เพราะเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรง เคยเกิดแถวสถานที่บริเวณนั้นอยู่แล้ว สัญลักษณ์ของคนที่ไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองก็มีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกันกับสิ่งที่เกิดที่ผ่านมาในอดีต

สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจไปห้ามอะไรได้เพราะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่สิทธิเสรีภาพบนแนวความคิดที่เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงเขาได้ ขอให้เห็นใจประชาชนที่มีความสุจริตและประกอบอาชีพอยู่แถวนั้นห้างร้านต่างๆ ก็หวาดระแวง นักท่องเที่ยวผ่านไปมาคนขับรถ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ในทางกลับกันเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายความมั่นคงต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุและต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ขอให้อดทนจากการยั่วยุทุกประเภทที่จะเกิดขึ้น

แต่ที่น่าห่วงที่สุดเห็นจะเป็นทัศนะของประชาชนที่กำลังขับเคี่ยวกัน แต่เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว ส่วนใหญ่เข้าใจถึงเหตุผลของความสุดวิสัย ขณะที่มีความเคลื่อนไหวบนอิสตราแกรมของ โจ จิรายุส วรรธนะสิน นักร้องชื่อดังวงนูโว โพสต์ข้อความระบุว่า "อย่าเลื่อนเลือตั้งนะ!! แต่ขอให้ยกเลิกไปเลย(ไม่มี ก ไก่ เพราะ เล่นสำเนียง ไท ใหญ่)

กลายมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แน่นอนว่าทันทีที่ผ่านสายตาของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งย่อมถูกนำมากล่าวบริภาษอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดีตามเจตนาของรัฐบาลนั้นมิได้หวังให้เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าอย่างไรเสียการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด สำคัญที่ว่ากิจกรรมการเมืองกับกิจกรรมการพระราชพิธีที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันต้องไม่ให้เกิดการทับซ้อนกันอย่างเด็ดขาด เป็นไปตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่รับหน้าที่ประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. เน้นย้ำเสมอมา

ทั้งหมดทั้งมวลจะเห็นได้ว่าพระราชพิธีต้องมาเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นกิจกรรมทางการเมืองจึงเกิดขึ้นตามมาเป็นเรื่องรอง ซึ่งก็ต้องจับตามองต่อไปว่าความเคลื่อนไหวของสองฟากความคิดระหว่างคนอยากเลือกตั้ง และยอมรับให้มีการเลือกตั้งออกไปหรือ "ไม่เห็นด้วย" กับการเลือกตั้งเช่นเดียวกับ โจ นูโว นั้นจะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป 

แต่คงจะเป็นการดีที่สุดหากทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของพิธีมหามงคลอันเป็นอัตลักษณ์สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันละเอียดอ่อนที่ยืนยงอยู่คู่กับสังคมไทยนับแต่สยามนานมา และให้ความสำคัญกับกิจกรรมทางการเมืองที่จำต้องสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยไปพร้อมๆกัน