- 17 ม.ค. 2562
ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน...เหนียมกันอีกต่อไป...ไม่ต้องแทงกั๊กมีอะไรใส่กันให้หมด! ว่าด้วยกลยุทธ์อันประหนึ่ง "เทหมดหน้าตัก" ของ "พรรคเพื่อไทย" ที่กำลังดำเนินมาสู่โค้งสุดท้าย แต่ใช่ว่าจะเป็นโค้งราบรื่นนัก ด้วยเกรงว่าจะเป็นโค้งหักศอกเสียมากกว่า! เมื่อเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากระแสข่าวลือการสลับสับเปลี่ยนตัว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแบบสายฟ้าแล่บ
ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน...เหนียมกันอีกต่อไป...ไม่ต้องแทงกั๊กมีอะไรใส่กันให้หมด! ว่าด้วยกลยุทธ์อันประหนึ่ง "เทหมดหน้าตัก" ของ "พรรคเพื่อไทย" ที่กำลังดำเนินมาสู่โค้งสุดท้าย แต่ใช่ว่าจะเป็นโค้งราบรื่นนัก ด้วยเกรงว่าจะเป็นโค้งหักศอกเสียมากกว่า! เมื่อเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากระแสข่าวลือการสลับสับเปลี่ยนตัว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแบบสายฟ้าแล่บ จากอิสตรีหมายเลขหนึ่งของพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาเป็นบุรุษร่างกำยำบริบูรณ์พร้อมด้วยวาทศิลป์และภาพลักษณ์แบบ "ใจถึงพึ่งได้" นั้นเป็นความจริง
เอาเท่านี้ก่อน...ผลงานไว้ค่อยว่ากันทีหลัง เมื่อไม่ปรากฏว่าตัวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ที่กำลังโลดแล่นหลังจากก้าวขึ้นมาเป็นหัวเรือของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้ จะมีผลงานครั้งเมื่อได้รับโอกาสดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม เป็นชิ้นเป็นอันกับเขาบ้าง...อย่างไรก็ดีจากแรกแต่เดิมที่หลายคนหลงคิดไปว่า ผลการเจรจาที่ควรจะออกมาในรูป "บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น" ระหว่างคุณหญิงสุดารัตน์ กับนายชัชชาติ อาจมิได้เป็นเช่นนั้น...ด้วยเพราะพบว่าสถานะของคุณหญิงสุดารัตน์ กำลังถูกลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัด
จะด้วยภาวะ "จำยอม" หรือ "เต็มใจ" ก็สุดแล้วแต่จะคาดเดากันไป หากทว่าเมื่อคาดการณ์ถึงผลลัพธ์ในระยะยาวภายหน้าการวางยุทธ์ศาสตร์ที่ "ทำอย่างไรก็ได้ให้ชนะ" แล้วค่อยมาแบ่งสันปันส่วนหรือสมนาคุณกันในภายหลังย่อมมีความเป็นไปได้สูง ดังนั้นการที่จะมีคนยอม "กินน้ำใต้ศอก" ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!
กลับมาที่ตัวนายชัชชาติ ที่นับแต่หนหลังเป็นต้นมาทางพรรคเพื่อไทยก็ช่วยกันเข็นเต็มที่ ทั้งปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ...สร้างฐานแฟนคลับให้เหนียวแน่น...ยัดเยียดสมญารัฐมนตรีผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี...เหนืออื่นใดกับท่าทีของนายชัชชาติเอง จากแต่เดิมที่คงความแข็งกร้าวพอตัว หากล่าสุดดูเสมือนว่าจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามต่อนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยการกดเงินสดของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน ที่พรรคอื่นหรือแม้กระทั่งพรรคตนก็ยังโพนทนาว่าเป็นนโยบายเชิงประชานิยมที่จงเกลียดจงชังกันนักหนา...แต่นายชัชชาติกลับบอกว่าเป็นเรื่องดี มองในแง่หนึ่งทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินได้เร็วขึ้น
นี่แหละที่เขาเรียกว่านักการเมืองต้องมี "ลูกล่อลูกชน" หวังหว่านแหจับปลามาเข้าคูหากากบาทให้ได้มากที่สุด! แต่ก็ยังไม่หนีการเหน็บชวนให้คิดต่อไปว่า "ตนไม่ได้เห็นด้วยกับการแจกเงิน แต่ถ้าจะแจกก็ไม่อยากให้แจกเฉพาะร้านธงฟ้าประชารัฐ และไม่อยากให้นำเงินอนาคตมาแจก อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าประชาชนเขาแยกออกว่าไม่ใช่การใช้เงินของพรรคการเมืองมาแจก เป็นเงินภาษีของประชาชนนั่นเอง"
กับอีกคำถามไฮท์ไลท์หมัดเด็ดเมื่อถามถึงความพร้อมในการเปิดตัวเป็น 1 ใน 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ที่ดูเหมือนว่านายชัชชาติ ยังคงกั๊กคำตอบด้วยระบุว่า "ผมไม่รู้เรื่องครับ อันนี้ต้องแล้วแต่ทางพรรคเพื่อไทย หากทางพรรคเพื่อไทย เห็นว่า เหมาะสม ผมก็พร้อม" แต่ไม่เกินสติปัญญาที่ไม่ต้องถึงขั้นปราดเปรื่องนักก็เข้าใจได้ความว่า การวางหมากของพรรคเพื่อไทยนั้นทำเสมือนให้นายชัชชาติมีความพร้อมที่จะเป็นนายกฯ มาโดยตลอด...เพราะเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วความนิยมของนายชัชชาติ มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณหญิงสุดารัตน์...ดีไม่ดีห้วงโมงยามนี้อาจเหนือกว่าด้วยซ้ำ
โจทย์และคำตอบทั้งหมดทั้งมวลจึงตกมาอยู่ที่ประชาชน...เหมาะควรมากน้อยเพียงใดที่จะให้อดีต รมว.คมนาคม ผู้นี้ก้าวกระโดดขึ้นเก้าอี้นายกฯ...ด้วยเพราะแท้จริงใครต่างก็ทราบดีว่า มัดกล้ามและวาจาอันสวยหรูอาจมิได้ช่วยให้ประชาชนท้องอิ่ม ยิ่งครั้นจะฝากผีฝากไข้กับคนที่ไม่มีแม้ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันยิ่งต้องคิดแล้วคิดอีก!