ไม่ยึดใบขับขี่แล้ว! สนช.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก รองรับระบบ "ดิจิทัล" ให้เข้ากับยุคเทคโนโลยี

ไม่ยึดใบขับขี่แล้ว! สนช.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก รองรับระบบ "ดิจิทัล" ให้เข้ากับยุคเทคโนโลยี

วันที่ 17 มกราคม 62 ได้มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมี "นายพรเพชร วิชิตชลชัย" ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เป็นผู้เสนอทั้งนี้ "นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า เนื่องจากจำนวนอุบัติหตุเกิดมากขึ้น โดยสาเหตุ คือ การไม่เคารพระเบีบบวินัย และไม่กลัวโทษ จึงจำเป็นต้องสร้างและควบคุมวินัยจราจรให้มีความสากล และสอดรับกับเทคโนโลยี อีกทั้งกฎหมายเก่าใช้บังคับนานแล้ว ไม่ทันสมัย ไม่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน จึงต้องแก้ไขให้สอดคล้อง มีความสากล เช่นเดียวกับนานาประเทศ

 

ไม่ยึดใบขับขี่แล้ว! สนช.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก รองรับระบบ \"ดิจิทัล\" ให้เข้ากับยุคเทคโนโลยี

 


 

โดยในร่างกฎหมายนี้มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมการขนส่งทางบกประสานจัดทำข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ บันทึกประวัติของผู้ขับขี่และการทำผิดกฎหมาย รวมทั้งข้อมูลทะเบียนรถ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมดูแล และบันทึกคะแนนความประพฤติ หากผู้ใดถูกตัดจนหมด ต้องถูกพักใบขับขี่ 90 วัน และเข้าอบรมวินัยจราจรกับกรมการขนส่งทางบก และรองรับการใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

 

ไม่ยึดใบขับขี่แล้ว! สนช.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก รองรับระบบ \"ดิจิทัล\" ให้เข้ากับยุคเทคโนโลยี

 

รวมถึงปรับแก้ไขระบบบันทึกความประพฤติให้สอดรับเทคโนโลยีให้เสมอภาค มีประสิทธิภาพ และยกเลิกอำนาจพนักงานจราจรเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ เป็นให้อำนาจพนักงานจราจร ตรวจบัตรอนุญาตแทนเพื่อแก้ปัญหาที่ต้องใช้ใบขับขี่คู่กับการขับรถ และสอดรับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังให้ชำระค่าปรับได้ทั้งทางไปรษณีย์ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคาร และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน

อย่างไรก็ตาม สตช.ได้เปิดเวทีรับฟังความเห็น ตามมาตรา 77 ซึ่งผลการรับฟังต่างเห็นด้วย ขณะเดียวกัน สตช.พร้อมทำกฎหมายรอง กำหนดระเบียบอีก 8 ฉบับให้เสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันที่ร่างนี้ใช้บังคับ  ขณะที่สมาชิกสนช. ต่างอภิปรายแสดงความเห็นด้วยที่จะมีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้เป็นสากลและเพิ่มบทลงโทษ แต่ตั้งข้อสังเกตว่าควรเพิ่มช่องทางให้ผู้ที่ถูกใบสั่ง สามารถชี้แจงหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาได้ เนื่องจากบางครั้งเป็นเหตุสุดวิสัย และเห็นควรให้ผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์เข้าอบรมความรู้รื่องการขับขี่รถ และเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับทางอิเล็กทรอนิกส์

 

ไม่ยึดใบขับขี่แล้ว! สนช.ไฟเขียวร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก รองรับระบบ \"ดิจิทัล\" ให้เข้ากับยุคเทคโนโลยี

 

นอกจากนี้สมาชิก สนช.ยังตั้งข้อสังเกตว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่า หากมีการบังคับใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์แล้วยังต้องพกใบขับขี่เดิมอีกหรือไม่ จึงเสนอให้มีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการให้ชัดเจน นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ลงมติด้วยคะแนนเอกฉันท์ งดออกเสียง 2 เสียง เห็นชอบร่างกฎหมายจราจรทางบกในวาระแรก พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นพิจารณาต่อไป