ครม.ไฟเขียว ค่ายา-ค่าหมอ เป็นสินค้าควบคุม ต้องมีมาตรฐานและโปร่งใสเป็นธรรม!

ครม.ไฟเขียว ค่ายา-ค่าหมอ เป็นสินค้าควบคุม ต้องมีมาตรฐานและโปร่งใสเป็นธรรม!

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงที่ ครม.มีมติเห็นชอบ การกำหนดราคาสินค้าและบริการควบคุมปี 2562 ที่มีการเพิ่มเวชภัณฑ์ เกี่ยวกับยารักษาโรคและบริการทางการแพทย์ เป็นรายการสินค้า และบริการควบคุมด้วยว่าส่วนใหญ่เราจะไปตีความคำว่า ควบคุม มันคงไม่ใช่ เรื่องนี้เป็นการกำหนดสินค้า และบริการหลายๆรายการด้วยกันตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ที่ต้องปรับปรุงทุก2ปีซึ่งอนุกรรมการทุกภาคส่วน ต้องพิจารณากำหนดมาตรการ เดิม มีเพียงการควบคุมสินค้าและบริการ50กว่าชนิด และที่ผ่านมาเคยมีมาตรการควบคุมราคาสินค้าเดียวคือน้ำตาลซึ่งวันนี้ ยกเลิกไปแล้ว

 

ครม.ไฟเขียว ค่ายา-ค่าหมอ เป็นสินค้าควบคุม ต้องมีมาตรฐานและโปร่งใสเป็นธรรม!

 

 

"นายกรัฐมนตรี" เปิดเผยว่า "วันนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็ได้มีการกำกับดูแลการบริการของโรงพยาบาลเอกชนในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อเป็นการดูแลทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ อีกทั้งโรงพยาบาลมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ โรงพยาบาลรัฐและเอกชน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชน ที่อยู่มานานจนได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องดูถึงความแตกต่างตรงนี้ด้วย โดยสิ่งที่เราทำตอนนี้ คือ ให้ไปกำหนดมาตรการที่เหมาะสม ไม่ใช่จะไปควบคุมราคาได้ทั้งหมด และต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม

 

 

"คือมีพระราชบัญญัติสถานพยาบาลในการควบคุมอยู่แล้ว เขียนไว้ว่าสถานพยาบาลทุกแห่ง ต้องจัดให้มีป้ายสอบถามอัตราค่าบริการได้ที่จุดประชาสัมพันธ์หรือเคาน์เตอร์และต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราค่ารักษาบริการ ค่ายา และเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆ และสิทธิผู้ป่วย ณ สถานพยาบาล ซึ่งผู้ป่วยสามารถตรวจสอบได้ก่อนเข้ารับบริการ นั่นเป็นทางเลือกของประชาชน เมื่อเข้าไปต้องสอบถามบริการให้เรียบร้อยก่อน ทั้งค่ายา ค่ารักษา ค่าหมอ ตามแต่ที่เขากำหนดไว้ ซึ่งเป็นกฎหมาย ทุกสถานพยาบาลต้องแสดงราคาตรงนี้ด้วย"

 

ครม.ไฟเขียว ค่ายา-ค่าหมอ เป็นสินค้าควบคุม ต้องมีมาตรฐานและโปร่งใสเป็นธรรม!

 

ทั้งนี้ "พลเอก ประยุทธ์" ยังกล่าวอีกว่า "ขอช่วยกันตรงนี้ก่อน หากโรงพยาบาลใดไม่ติดเรื่องเหล่านี้ไว้ตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ต้องมีการร้องเรียนขึ้นมาหรือแม้กระทั่งมีการรักษาพยาบาลไปแล้ว รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนได้ มีช่องทางการร้องเรียนอยู่ทั้งหมด ขอกล่าวแค่นี้อย่าทำให้ทุกอย่าง มันขยายความไปหมดจะได้ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างโรงพยาบาลเอกชนกับผู้รับบริการ และภาพพจน์การเป็นผู้นำโรงพยาบาลของไทยด้วย"

 

อย่างไรก็ตาม "ไม่ใช่แค่มาตรฐานรักษาพยาบาลเท่านั้น คงต้องมีมาตรฐานและความโปร่งใสเรื่องราคาด้วย เพราะเป็นกลไกสำคัญ ที่เขาต้องมาทบทวนเรื่องนี้ เพราะอยู่ในกรอบของการทำงานของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)ชุดนี้ด้วย ต้องดูหลายๆตัว อย่าไปวิตกตื่นเต้นกันตรงนี้ เพียงแต่รัฐบาล ต้องทำให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม อย่าไปขับเคลื่อน หรือเคลื่อนไหวในทางที่ไม่ถูกต้อง" นายกรัฐมนตรี ย้ำทิ้งท้าย

 

ครม.ไฟเขียว ค่ายา-ค่าหมอ เป็นสินค้าควบคุม ต้องมีมาตรฐานและโปร่งใสเป็นธรรม!

ส่วนทางด้าน "นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า "ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอการกำหนดสินคาและบริการควบคุมปี 62 จำนวน 52 รายการ โดยมีการยกเลิกสินค้าควบคุม 4 รายการ คือ เยื่อกระดาษ แบตเตอรี่รถยนต์ เม็ดพลาสติก และน้ำตาลทราย พร้อมทั้ง เพิ่มรายการสินค้า และ บริการควบคุม 2 รายการ คือ เวชภัณฑ์เกี่ยวกับการรักษาโรค (หมวดยารักษาโรคและเวชภัณฑ์) และบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาลเกี่ยวกับการรักษาโรค"

 

 "ในที่ประชุม ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ขอให้คณะอนุกรรมการที่จะตั้งขึ้นมากำหนดมาตรการที่เหมาะสมเช่นราคาแนะนำหรือการแจ้งราคาจากนั้นจึงเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ (กกร.)เห็นชอบต่อไปในอีกไม่นานนี้" รมว.พาณิชย์ กล่าวย้ำ

 

ครม.ไฟเขียว ค่ายา-ค่าหมอ เป็นสินค้าควบคุม ต้องมีมาตรฐานและโปร่งใสเป็นธรรม!

 

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังให้ตั้งคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบไปด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนภาคประชาชนและตัวแทนสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนซึ่งตั้งขึ้นเพื่อมาพิจารณาแนวทางที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายในการดำเนินงานร่วมกันที่เหมาะสมเพื่อเสนอให้กับคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ตามขั้นตอนต่อไป  "รัฐบาลไม่ได้ต้องการเข้าไปแทรกแซงราคา แต่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยจะไม่ได้กำหนดราคาเพดา นสำหรับบริการทางการแพทย์แต่อย่างไรซึ่งแนวทางข้อสรุปจะได้จากการหารือกับอนุกรรมการฯที่จัดตั้งขึ้นต่อไป" นายสนธิรัตน์ กล่าวย้ำ