- 23 ม.ค. 2562
"สุริยะ" เช็คอินนครพนม เหน็บ "ปชป.-พท" วันๆเอาแต่ทะเลาะกันตลอด ลั่น เลือก "พปชร." ดีกว่า ยกหนี้-ตั้งกองทุนฯ มั่นใจเศรษฐกิจดีขึ้นแน่นอน
สืบเนื่องจาก วันที่ 22 มกราคม ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม เขตเทศบาลเมืองนครพนม "นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จากหลายจังหวัด เช่น หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร และ "นายเวียง วรเชษฐ์" อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด เดินทางมาปราศรัยหารือ และ แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม
ทั้งนี้ "นายสุริยะ" เปิดเผยว่า ตนเคยมาจังหวัดนครพนม 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ตนได้แต่งงานและไม่มีบุตร ไปหาหมอทำกิฟท์ก็ไม่สำเร็จ มีคนแนะนำให้มาไหว้พระธาตุพนม จึงเดินทางมา จ.นครพนมเพื่อขอบุตรตามคำแนะนำ แม่ชีในวัดพระธาตุพนมบอกว่าลูกเป็นเด็กหัวจุก ปรากฏว่า ไม่ต้องทำกิฟท์ เพราะได้ลูกตามคำอธิษฐานจากองค์พระธาตุพนม
ครั้งที่สองประมาณ 18 ปีที่แล้ว มาในนาม"พรรคไทยรักไทย" ขณะนั้นชาวนครพนมมีปัญหาเรื่องความยากจน การเกษตรไม่ดี และเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ชาวบ้านเลือก"พรรคเพื่อไทย"มาตลอด บางจังหวัดก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง 2 พรรคนี้ทะเลาะกันตลอดเวลา ฝ่ายหนึ่งกล่าวหาทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปให้กับสิงคโปร์ จึงโดนประณามว่าขายชาติ ถูกต่อต้านจนยุบสภา จึงมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ในครั้งนั้นพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตไม่ลงเลือกตั้ง ต่อมามีการขอนิรโทษกรรมให้"นายทักษิณ" ก็เกิดปัญหาอีก มีการต่อสู้ระหว่างเสื้อแดง กับ เสื้อเหลือง พรรครัฐบาลปัจจุบัน จึงต้องทำการปฏิวัติอีก จึงขอร้องให้พี่น้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
"หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาดูแลเศรษฐกิจก็ดีเรื่อยมา ถ้าเลือกพลังประชารัฐเข้ามา จะต้องแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจได้ และมีโครงการจะต้องลดหนี้กองทุนหมู่บ้านให้สำเร็จ ให้เลื่อนการจ่ายออกไป 3 ปี แต่ถ้าเข้ามาบริหารเศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ จะยกหนี้ให้หมด จากนั้นจะตั้งกองทุนประชารัฐ ให้ชาวบ้านกู้ไปทำธุรกิจ ซึ่งพรรคการเมืองที่ดี ต้องมาดูแลประชาชน ภาคอีสานหนึ่งปี ปลูกข้าวได้ครั้งเดียว แค่ 3 เดือน อีก 9 เดือน ชาวบ้านต้องไปทำงานต่างจังหวัด" นายสุริยะ กล่าว
"นายสุริยะ" กล่าวอีกว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ลงมาดูแลชาวบ้าน ถูกโจมตีว่าเอาเงินภาษีมาแจกชาวบ้านยากจน ถ้าสามารถแก้ไขความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนต้องแก้ไขความยากจน ให้กับพี่น้องชาวอีสานก่อน ทำให้ชาวบ้านกระเป๋าตุง และจะต้องมีโครงการ โรงงานอุตสาหกรรมจะต้องมาตั้งที่ภาคอีสาน โดยเฉพาะนครพนม จะเป็นแห่งแรก ชาวบ้านจะมาทำงานในพื้นที่ ถึงแม้จะมีรายได้น้อยกว่า กทม. แต่รายจ่ายก็ลดลง เป็นการแก้ปัญหาให้ชาวอีสาน มีความสุขอยู่กับครอบครัว จึงขอให้ท่านเลือก ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้งเข้าสภาเป็นปากเสียงของชาวนครพนม
นอกจากนี้ ตนได้สอบถามพี่น้องชาวบ้าน เรื่องบัตรประชารัฐ ที่รัฐบาลออกให้ชาวบ้านพอใจมากกับสวัสดิการนี้ และถ้าได้เป็นรัฐบาลก็จะดำเนินงานต่อไป ตนทราบข่าวจากสื่อมวลชน ว่า "จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม แล้วกล่าวหาว่า "พรรคพลังประชารัฐ" รู้กันกับ "กกต." ทำงานร่วมกัน ขอปฏิเสธว่า "ไม่เป็นความจริง ต่างคนต่างก็ปฏิบัติหน้าที่..."