- 24 ม.ค. 2562
วันนี้ 24 ม.ค. 2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีมิตรไมตรียิ่ง
วันนี้ 24 ม.ค. 2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีมิตรไมตรียิ่ง
โดย พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้เข้าเยี่ยมคำนับ นายเหวียน ฝู จ่อง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่ทำเนียบประธานาธิบดี กรุงฮานอย ทั้งนี้ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ นายเหวียน ฝู จ่อง ที่ได้รับตำแหน่ง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ขณะเดียวกันทั้งสองต่างกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยาวนานและความก้าวหน้าในกิจกรรมต่างๆ ทั้งผ่านกลไกการประชุมทวิภาคีระดับต่างๆ โดยเฉพาะความร่วมมือทางทหารที่มีพัฒนาการจากกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันมากขึ้น
พร้อมกับหารือร่วมถึงการเพิ่มความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งด้านความมั่นคงและด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการประมงและการส่งออกสินค้าประเภทรถยนต์ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ยินดีให้ความร่วมมือระหว่างกันเพื่อผลักดันเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและเกื้อกูลกัน
ในวาระนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2562 โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำนโยบาย การก้าวไปข้างหน้าด้วยกันของสมาชิก เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และจะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง เพื่อก้าวสู่อนาคตที่มั่นคง โดยเสาหลักคือเน้นการเมืองและความมั่นคง พร้อมส่งเสริมมการบริหารจัดการชายแดน ความเป็นแกนกลางของอาเซียนและส่งเสริมความร่วมมือทางทะเลอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งรัฐบาลไทย จะให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ที่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เศรษฐกิจและความมั่นคงของภูมิภาคร่วมกัน
ทางด้านนายเหวียน ฝู จ่อง ได้กล่าวแสดงความขอบคุณไทยอย่างจริงใจ ที่พร้อมสนับสนุนและเลือกเยือนเวียดนามเป็นลำดับแรกซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากขึ้นในปี 2562 โดยได้กล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยพยายามแก้ปัญหาสำคัญๆ ของชาติจนประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะการแก้ปัญหา IUU และเน้นย้ำว่าไทยมีบทบาทสำคัญในอาเซียน ซึ่งเวียดนามพร้อมให้การสนับสนุน และเชื่อว่าการเป็นประธานอาเซียนของไทย จะสามารถขับเคลื่อนพัฒนาความร่วมมือของอาเซียนไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน ซึ่งมีความสำคัญต่อเวียดนามในการรับหน้าที่ประธานอาเซียนต่อจากไทยในปี 2563
ถัดนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปเยี่ยมคำนับ พล.อ.โง ซวน หลิก รมว.กห.เวียดนาม ที่กระทรวงกลาโหม ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมหารือกัน ในเรื่องความร่วมมือทางการทหารระหว่างสองประเทศที่เป็นไปในทิศทางที่ดีมาโดยตลอดโดยเฉพาะในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีพัฒนาการความร่วมมือกันของกองทัพเรือและกองทัพอากาศระหว่างสองประเทศอย่างชัดเจน อันเกิดจากการส่งเสริมความเชื่อมั่นและไว้ใจกันจากการแลกเปลี่ยนการเยือนและความร่วมมือในการฝึก ศึกษาร่วมกันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นชอบในการที่จะเพิ่มความร่วมมือให้มากขึ้น ในส่วนของการดูแลแก้ปัญหาการทำประมงรุกน่านน้ำระหว่างกัน โดยจะให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและไม่ให้เกิดมีความรุนแรงระหว่างกัน สำหรับความร่วมมือกันด้านการต่อต้านการก่อการร้ายนั้น ได้กำหนดให้มีการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและข่าวสารร่วมกัน โดยประสานงานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานมากขึ้น ทั้งนี้ความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เห็นชอบร่วมกัน ขอให้ขยายผลนำไปสู่การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.โง ซวน หลิก ได้กล่าวย้ำว่า กลาโหมเวียดนาม พร้อมให้การสนับสนุนการเป็นประธานการประชุม รมว.กลาโหม อาเซียนของไทย
พล.อ.ประวิตร ทิ้งท้ายว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย IUU ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญร่วมกันของภูมิภาคที่ต้องอาศัยความร่วมมือกันแก้ปัญหา โดยในการประชุม รมว.กห.อาเซียน (ADMM ) จะผลักดันเอกสารเพื่อการหารือถึง การทำประมงผิดกฎหมาย ผลกระทบด้านความมั่นคงและบทบาทของฝ่ายทหารในการแก้ปัญหา ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุนและแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาคต่อไป