อุตตมนำเปิดนโยบาย3พันธกิจพลังประชารัฐ 4รมต.โชว์สปิริต แย้มแล้ว1บัญชีชื่อนายกฯ

จากกรณีที่วันนี้(24ม.ค.) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงนโยบายพรรค โดยเปิด 3 พันธกิจประชารัฐ เพื่อสร้างชาติให้ยั่งยืน ได้แก่ สวัสดิการประชารัฐ สังคมประชารัฐ และเศรษฐกิจประชารัฐ โดยสวัสดิการประชารัฐ เน้นการขจัดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ประชาชนได้รับโอกาสที่ขาดมานาน นำไปสู่การสร้างสังคมประชารัฐคือสังคมที่สงบสุข เข้มแข็ง และรู้จักแบ่งปัน การสร้างความมั่งคั่งในโลกดิจิทัล ประเทศไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ด้วยนโยบายเศรษฐกิจประชารัฐ ซึ่งหัวใจสำคัญคือการสร้างความสามารถเพื่อให้แข่งกับโลกได้และสร้างโอกาสที่เท่าเทียมไปด้วยกัน โดย นายอุตตม ยืนยันพร้อมสู้เต็มที่ เนื่องจากพร้อมด้วยบุคลากร และนโยบายที่จะเร่งพัฒนา และตอบโจทย์ประเทศให้มากที่สุด

 

ขณะที่นายสุวิทย์ เมษินทรีย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และในฐานะรองหัวหน้าพรรค ก็ได้ชี้แจงถึงรายละเอียดนโยบาย 7:7:7 ด้วย โดยบอกว่า เริ่มจาก 1.การตอบโจทย์สวัสดิการประชารัฐ คือ บัตรประชารัฐ สวัสดิการรายกลุ่ม หมดหนี้มีเงินออม โครงการบ้านล้านหลัง บ้านสุขใจวัยเกษียณ สิทธิที่ดินทำกิน 2.การตอบโจทย์สังคมประชารัฐ คือ การศึกษา 4.0 การกระจายศูนย์กลางความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างเมืองน่าอยู่ ใกล้บ้าน มีงานทำ การมีชุมชนประชารัฐ ร่วมพัฒนาบ้านเกิด ชุมชนเข้มแข็งการมีเมืองอัจฉริยะสีเขียว เพื่อความสุขของทุกคน สังคมประชารัฐสีขาว Bangkok 5.0 และ 3.การตอบโจทย์เศรษฐกิจประชารัฐ อาทิ ยกระดับความสามารถผู้ผลิต การก้าวสู่เกษตรกรประชารัฐ 4.0 การกระจายรายได้ กระจายโอกาสด้วยการท่องเที่ยวชุมชน

 

นอกจากนี้ นายอุตตม ยังได้กล่าวถึงแนวทางของพรรคหลังจากที่พระราชกฤษกีฎาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้ ว่า ได้เตรียมพร้อมในการส่งรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 350 เขตแล้ว ซึ่งรายชื่อจะได้ครบ และเรียบร้อยทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า โดยการส่งรายชื่อทั้งหมดจะมีชื่อของผู้ที่ถูกเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคด้วยเช่นกัน

 

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ 4 รัฐมนตรีลาออกจากตำแน่งนั้น นายอุตตม ยืนยันว่า จะรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อดำเนินตามกฎหมายแน่นอน ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน และคาดว่าจะมีความชัดเจนก่อนวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ ที่จะต้องส่งรายชื่อให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง แน่นอน

 

 

 

 

“ขณะที่การทาบทามบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีการทาบทามบุคคลใดจนถึงขณะนี้ แม้ทางภาคเหนือจะมีการเรียกร้องให้ดัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอีกหนึ่งในบุคคลที่มีรายชื่อถูกเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม ทั้งนี้ ทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม รวมถึงการรับฟังความเห็นของสมาชิกภายในพรรค รวมทั้งองค์ประกอบหลายๆ ด้าน โดยทั้งหมดนี้ กรรมการผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้กลั่นกรองอีกที

 

ส่วนการที่หลายฝ่ายยังคงตั้งข้อสังเกตว่า การผลักดันนโยบายหลายๆ ด้านรวมถึงแนวโน้มการเสนอชื่อบุคคลมาเป็นรัฐมนตรีนั้น เข้าข่ายการสืบถอดอำนาจหรือไม่นั้น ส่วนตัวของยืนยันว่า ไม่มีการสืบทอดอำนาจเพื่อใครแน่นอน เพราะพรรคพลังประชารัฐเกิดจากกลุ่มคนหลากหลายกลุ่ม และบุคคลที่ไม่มีอำนาจ หรือมียศ”

 

 

อย่างไรก็ตามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวถึงที่มีกระแสข่าวว่า ทางพรรคอาจมีการทาบทาม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ มาร่วมทีม ขอยืนยันว่า มีการหารือในที่ประชุมจริง แต่ยังไม่มีการทาบทามเช่นเดียวกับคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ยังต้องมีการเคารพการตัดสินใจของบุคคลที่ทาบทามด้วย