- 30 ม.ค. 2562
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลก หากเต็มไปด้วยข้อกังขาจากกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันมีฐานะเป็นนักโทษหลบหนีคดี อาศัยอยู่ต่างแดน ก้าวสู่ตำแหน่ง CEO ท่าเรือซัวเถา และถูกถอนชื่อออกในเวลาอันรวดเร็ว จนได้รับ ฉายาเป็น CEO ที่อายุงานน้อยที่สุด กระทั่ง ปรากฏข่าวเชิงลึกการสาเหตุที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง อาจเป็นเพราะ หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์พัวพันหนีภาษี
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลก หากเต็มไปด้วยข้อกังขาจากกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันมีฐานะเป็นนักโทษหลบหนีคดี อาศัยอยู่ต่างแดน ก้าวสู่ตำแหน่ง CEO ท่าเรือซัวเถา และถูกถอนชื่อออกในเวลาอันรวดเร็ว จนได้รับ ฉายาเป็น CEO ที่อายุงานน้อยที่สุด กระทั่ง ปรากฏข่าวเชิงลึกการสาเหตุที่ถูกปลดออกจากตำแหน่ง อาจเป็นเพราะ หุ้นส่วนชาวสิงคโปร์พัวพันหนีภาษี
เรื่องราวทั้งเกิดขึ้นปลายเดือนธันวาคม ต่อเนื่องจนถึงเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 62 ที่ผ่านมา ชนิดที่เรียกว่า สดๆร้อน หลังจากที่มีการโหมกระพือข่าว เจ้าแม่ซัวเถา อย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธาน และผู้แทนโดยชอบธรรมของ บริษัท ซัวเถา อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัลส์ จำกัด (Shantou International Container Terminal) หรือ เอสไอซีที บริษัทบริหารท่าเรือในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน แต่ทว่าเพียงชั่วพริบตาเดียววิมานในอากาศก็สลาย มลายลงในพริบตา
ภายหลังการเปิดเผยของ สำนักข่าว เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกง ได้ออกมาเปิดเผยหลักฐานภาพเอกสารยืนยันว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ถือหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ต สัญชาติกัมพูชาในการจัดตั้งบริษัท
ทางการประเทศกัมพูชา ต้องออกมาปฏิเสธพันวัล รัฐบาลไม่ได้ออกหนังสือเดินทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดีไม่ดี..พาสปอร์ตดังกล่าวอาจจะเป็นของปลอมด้วยหรือไม่ ตามมาด้วยคำสั่งสุดด่วน ของ สมเด็ขฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ได้ลงนามในคำสั่งยกเลิกการออกหนังสือเดินทางทางการทูตให้ชาวต่างชาติที่มาเป็นที่ปรึกษา หรือผู้ช่วยข้าราชการระดับสูงของกัมพูชา
โดยให้เก็บคืนหนังสือเดินทางทูตที่ออกแก่ชาวต่างชาติที่ไม่ได้เกิดในกัมพูชา แล้วให้ส่งคืนกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศภายในเวลา 1 เดือน เพื่อยกเลิกหนังสือเดินทางทูตเหล่านี้ ไม่เพียงเท่านั้นในเวลาต่อเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2562 ในเว็บไซต์บริษัทซ่านโถว เปิดเผยว่าได้เปลี่ยนตัวประธานกรรมการคนใหม่ จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายเฉิน อุยตง ชาวจีนเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2561 นับรวมระยะเวลาไม่ถึงเดือน
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวบนเฟสบุ๊ก "Sermsuk Kasitipradit" ซึ่งเป็นของนักข่าวอาวุโสสายทหารเกาะติดความเคลื่อนไหวของกลุ่มชินวัตรมาโดยตลอดได้โพสต์ข้อความต่อกรณีดังกล่าวระบุว่า
เบื้องหลังนางแดะแดะถูกกดดันให้ออกจากประธานบริหารท่าเรือซัวเถาของจีนหลังทางการจีนรับรู้ถึงความผิดปกติ
เพิ่งได้จังหวะคุยกับฝ่ายความมั่นคงหลังนางแดะแดะ ถูกถอดจากตำแหน่งประธานบริหารบริษัทซัวเถา คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล ซึ่งบริหารท่าเรือซัวเถาของจีน เกิดอะไรขึ้นและนางแดะแดะไปเกี่ยวข้องอย่างไร ถึงได้ถูกเลือกให้เป็นประธานบริหารของบริษัท ก่อนที่ทางการจีนจะเข้ามาตรวจสอบนำไปสู่การปรับเปลี่ยนประธานบริหารอีกครั้ง
มีข่าวก่อนหน้านี้ นางแดะแดะ นักโทษหนีคดีจำนำข้าว อาจงานเข้าถึงขั้นโดนทางการจีนอายัดทรัพย์ที่ไปลงทุนในจีน หลังให้กองเชียร์ตีปี๊ปกระจายข่าวนั่งประธานบริหาร"บริษัทซัวเถา คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล" บริหารท่าเรือซัวเถา หวังส่งสัญญาณบอกกองเชียร์ยังมีเสบียงอู้ฟู่ ปฏิเสธข่าวที่ลือสะพัดเงินสะดุด ส่งผลต่อเสบียงค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคมที่เร่ิมไม่ไหลลื่น ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ได้ปรับเปลี่ยนตัวประธานกรรมการบริหารอีกครั้งจากนางแดะแดะ เป็นนายเฉิน อุยตง ชาวจีน
จนท.ความมั่นคงระบุ นายพลระดับสูงของจีนนายหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับไทยได้ผลักดันให้มีการสอบสวนในเรื่องนี้ โดยผู้ใหญ่ในรัฐบาลจีนเปิดไฟเขียว นำไปสู่การปรับเปลี่ยนตัวประธานบริหารอย่างรวดเร็วในรอบหนึ่งเดือน
นายพลท่านนี้รับรู้ถึงความไม่โปร่งใส่จากธุรกิจการเมืองของนักโทษหนีคดี ได้สั่งให้มีการตรวจสอบข่าวการขนเงินมาลงทุนในจีน และพบว่าแหล่งที่มาของเงินลงทุน เป็นหุ้นส่วนที่จัดตั้งบริษัทร่วมกับนางแดะแดะ ชื่อ “ถัง อี้กัง” นักธุรกิจชาวสิงคโปร์
ฝ่ายความมั่นคงที่ติดตามเรื่องนี้ให้ข้อมูลว่า ถัง อี้กัง ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ฮ่องกง และสหรัฐฯ ร่ำรวยอันดับที่ 32 ในสิงคโปร์ และสนิทสนมกับตระกูลชิน ถึงขนาดที่บ้านพักของนักโทษหนีคดีในฮ่องกงก็เป็นที่อยู่เดียวกับถัง อี้กังถัง
ถัง อี้กังและภรรยาที่ชื่อว่า เฉิน หวายตัน สนิทกับตระกูลชินวัตร ตระกูลบุช และคนเด่นคนดังมากมาย มีข้อสังเกตว่าโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจต่าง ๆ ซับซ้อนไม่ตรงไปตรงมา
ช่วงปี 2001-2002 บริษัทของ ถัง อี้กัง เคยถูกรัฐบาลจีนตรวจสอบคดีสินค้าหนีภาษีที่เมืองซัวเถา พนักงานของบริษัทหลายคนถูกดำเนินคดี บริษัทถูกยึดทรัพย์ แต่ ถัง อี้กังรอดพ้นการถูกดำเนินคดี
คดีหนีภาษีที่หุ้นส่วนของนางแดะแดะเกี่ยวข้อง เกิดขึ้นในช่วงปี 2001 รัฐบาลจีนที่กรุงปักกิ่ง ตั้ง “ชุดเฉพาะกิจ 815” เดินทางลงใต้ไปเมืองซัวเถา เพื่อตรวจสอบขบวนการหนีภาษี 4 บริษัทใหญ่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทของถัง อี้กัง
บริษัทของ ถัง อี้กังลักลอบนำสินค้าหนีภาษีเป็นมูลค่าสูงนับพันล้านหยวน หลังจากนั้นในปี 2007 ได้ยอมรับผิดต่อศาลงจีน และถูกตัดสินโทษรอลงอาญา อย่างไรก็ตามทางจีนได้ยึดทรัพย์สินที่คนพวกนี้มาลงทุนแบบไม่โปร่งใส ทางการจีนถือว่าการทุจริตคือสิ่งที่ทำให้ชาติเกิดหายนะ เมื่อมีข่าวอดีตนักโทษหนีคดีที่มีข่าวฉาวในไทยเรื่องความโปร่งใสมาลงทุนในจีนนำไปสู่การตรวจสอบและปรับเปลี่ยนประธานบริหารคนใหม่ของบริษัทซัวเถา คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล...
เลือกตั้ง 24 มีนาจะเป็นการพิสูจน์สัจธรรมการเมืองไทย เงินไม่มากาไม่เป็น จะได้เห็นกันเสียงสวรรค์ของปชช.ที่อ้างว่ามากันเองมืดฟ้ามัวดินเมื่อเงินสะดุด จะเกิดปรากฏการณ์อะไรตามมา .....