- 31 ม.ค. 2562
วันนี้ 31 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บรรยายพิเศษ หัวข้อ "เยาวชนคนหนุ่มสาวกับอนาคตประเทศไทยหลังจากการเลือกตั้ง : ความฝัน ความหวัง และความจริง" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีความตอนหนึ่งกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ว่า
วันนี้ 31 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บรรยายพิเศษ หัวข้อ "เยาวชนคนหนุ่มสาวกับอนาคตประเทศไทยหลังจากการเลือกตั้ง : ความฝัน ความหวัง และความจริง" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีความตอนหนึ่งกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ว่า
จนถึงตอนนี้หลายคนน่าจะรู้แล้วว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งต่างก็หวังจะไปใช้สิทธิเพื่อผลักดันให้ความฝันเป็นจริง โดยการเลือกตั้งในครั้งนี้ขอพูดว่ามีอะไรที่เป็นอุปสรรค เพราะการเลือกตั้งที่จะบรรลุเป้าหมายหรือทำให้ฝันเป็นจริงได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวพาดพิงถึงบุคคลโดยที่ไม่เอ่ยนามว่า ต้องจับตาคนคนหนึ่ง ซึ่ง 1-2 วันจะประกาศท่าทีทางการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิและดุลยพินิจของคนคนนั้น ซึ่งตนฟังดูก็เหมือนว่าไม่อยากจะลาออก เพราะยังต้องการที่จะใช้อำนาจพิเศษไปจนถึงวันที่มีรัฐบาลใหม่
ดังนั้น หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีสิทธิ์ในการตรวจสอบการทุจริต แต่หากว่าไม่เป็นที่ถูกใจผู้มีอำนาจ ก็ถูกคำสั่งตาม ม.44 ดำเนินการได้ เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีคำสั่งให้มีการยุบกกต.ทั้งคณะมาแล้ว และกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์และกฎหมายซึ่งถือเป็นเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ว่า เราจะคาดหวังได้หรือไม่ว่าการใช้อำนาจของคนที่มีอำนาจในปัจจุบันจะทำให้การเลือกตั้งเสรีเป็นธรรม
"การเลือกตั้งรอบนี้ดูเหมือนว่าจะมีความพยายามทุกวิถึทางให้พรรคการเมืองไม่ค่อยเข้มแข็ง ทั้งกติกา ที่กำหนดกฎระเบียบรูปแบบใหม่ รวมถึงการออกแบบระบบเลือกตั้งที่ทำให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีเสียงข้างเด็ดขาด เป็นไปได้ยาก เช่น พรรคเพื่อไทยที่พยายามแตกเครือข่ายเป็นพรรคย่อยในสังกัด อีกทั้งในการหาเสียงซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการกำหนดเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ แต่ปัจจุบันนี้ต้องจับเบอร์กันคนละเขต ซึ่งถือเป็นกติกาที่มีความพยายามให้ความสำคัญกับตัวบุคคล แต่กลับเป็นการสร้างความสับสน เพราะถ้าข้ามเขตไปจะกลายเป็นคนละเบอร์ ข้อที่เป็นเรื่องใหญ่ คือ ก่อนหน้านี้ใครได้ 251 เสียงก็สบายแล้วสามารถตั้งรัฐบาลได้ แต่เที่ยวนี้เลือกตั้งเสร็จ คนที่เลือกนายกรัฐมนตรี คือ ส.ส. กับ ส.ว. เป็นคนเลือกนายกฯ หมายถึงว่าคนที่จะเป็นนายกฯ จะต้องได้เสียง 375 เสียง บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายก็ต้องการถึง 375 เสียง ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย ทำให้บางคนบางพรรคมีเป้าหมายของเขาว่าต้องการแค่ 125 เสียง เพื่อจะไปรวมอีก 250 ส.ว." หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นล้วนขึ้นอยู่กับประชาชน เพราะตามกระบวนการทุกฝ่ายต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนถ้าพรรคใดรวบรวมเสียงเกิน 250 เสียงได้ ก็ต้องให้พรรคนั้นได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตนก็หวังว่าส.ว. 250 คน ถ้าประชาชนเป็นผู้เลือก ก็ไม่ควรเป็นขัดขวางหรือฝืนความรู้สึกประชาชน และขอยืนยันว่า "หากพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่ำร้อยจะลาออก"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวนน้อย เพราะมีความรู้สึกว่าไปแล้วเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือไม่ หรือบางกลุ่มเชื่อว่าระบบการเมืองไทยไม่น่าเชื่อถือ ตนจึงขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวังหรือสิ้นหวัง ขอให้ใช้สิทธิที่ได้นี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อประเทศ