- 10 ก.พ. 2562
ถือว่าความผิดสำเร็จ!! ดีเดย์แล้ว 11 ก.พ."ศรีสุวรรณ"ยื่นยุบไทยรักษาชาติ "ดร.เจษฎ์"ชี้ชัดข้อกม.เข้าข่ายกกต.ต้องส่งศาลรธน.วินิจฉัย
จากกรณีสร้างความฮือฮา หลังคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อลงมติกันก่อนว่าพรรคจะมีมติเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรค ก่อนที่ ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค จะยื่นต่อ กกต. ในเวลา 09.10 น. และมีรายงานว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติมีเพียงคนเดียว คือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ในเวลาต่อมา จากสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ได้เผยแพร่พระราชโองการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ความดังนี้ ประกาศ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย
พระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงดำรงสถานะอยู่เหนือการเมือง และทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด ดังเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งว่าตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อความผาสุกและความอยู่ดีกินดีของประชาชนทรงปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรม และนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภัยก่อการร้าย ภัยพิบัติ และภัยที่เกิดจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขและดูแลปกป้องประชาชนด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระมหากรุณาอย่างมิอาจประมาณได้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าเคารพรัก และเทิดทูนพระองค์เสมือนด้วยบิดา จึงทรงเป็น“พ่อแห่งแผ่นดิน” โดยแท้จริง
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งยังเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ แม้จะทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้วตามกฎมณเฑียรบาล โดยได้กราบบังคมทูล พระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังทรงสถานะและดำรงพระองค์ในฐานะสมาชิกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นที่รักใคร่ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ตลอดจนเป็นที่เคารพยกย่องของพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์และประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ด้วยทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
โดยในการดำรงพระองค์และการประกอบพระกรณียกิจต่างๆนั้น ทรงปฏิบัติด้วยการถวายงานของข้าราชการในพระองค์ และหน่วยราชการต่างๆของหน่วยราชการในพระองค์ตลอดมา การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าหน้า ๑ เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ จะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
อนึ่ง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกฉบับรวมทั้งฉบับปัจจุบัน มีหมวดว่าด้วยพระมหากษัตริย์ เป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่รองรับสถานะพิเศษของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่เหนือการเมืองและทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิด กล่าวหา หรือฟ้องร้อง พระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ ซึ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญดังกล่าวย่อมครอบคลุมถึงพระราชินี พระรัชทายาทและพระบรมราชวงศ์ ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ ดังที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกับพระองค์หรือแทนพระองค์อยู่เป็นนิจ ดังนั้นพระราชินีพระรัชทายาท และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ จึงอยู่ในหลักการเกี่ยวกับการดำรงอยู่เหนือการเมืองและความเป็นกลางทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ด้วย และไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ในทางการเมืองได้เพราะจะเป็นการขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เตรียมยื่น กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญยุบไทยรักษาชาติ ระบุว่า " ตามที่มีการเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ โดยพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)ตามมาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ ที่เรียกว่าบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี เมื่อเช้าวันที่ 8 ก.พ. 2562นั้น
ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย ซึ่งก่อให้เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชนทั่วไป ด้วยคำถามใหญ่ที่ว่า “การเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ” ซึ่งเป็นพระบรมจักรีวงศ์สามารถทำได้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือไม่ ซึ่งทางพรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่าทำได้และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการเนื่องจากไม่มีบทกฎหมายใดห้ามไว้ และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 89 ทุกประการนั้น แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการ โปรดเกล้าฯเมื่อคืนวันที่ 8 ก.พ.62 ว่า มิให้ "ทูลกระหม่อมหญิง" ลงเล่นการเมือง เนื่องจากเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ รวมทั้งขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ โดยพรรคไทยรักษาชาติจึงเป็นการเสนอผู้ที่ขาดคุณสมบัติหรือ มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 13 วรรคสอง ประกอบมาตรา 14(2) ของพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ที่สำคัญเป็นการดำเนินการที่ละเมิดต่อข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 โดยชัดแจ้ง
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมหลักฐานไปเป็นต้นเรื่องแจ้งต่อ กกต. เพื่อให้วินิจฉัยว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติเังกล่าวขัดต่อกฎหมาย และระเบียบการหาเสียงของ กกต. ข้อ 17 อันเข้าข่ายองค์ประกอบมาตา 92(2) ของ พรป.พรรคการเมือง 2560 จึงเห็นว่า กกต.ควรจะต้องนำกรณีดังกล่าวเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรัษาชาติต่อไป โดยสมาคมฯจะไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.62 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B หลักสี่ กทม. นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ทางด้าน ดร.เจษฎ์ โทณวณิก นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ และที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แสดงความเห็นว่า ข้อกม.ต่างๆ ในขณะนี้ถือว่าสอดคล้องกับพระราชโองการ โดยเฉพาะระเบียบของกกต.ว่าด้วยข้อห้ามการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ประกอบการหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้นกกต.ก็ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 92 ซึ่งระบุว่า เมื่อ กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ส่วนการวินิจฉัยความผิดถือเป็นดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะสั่งยุบพรรคหรือสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งหากมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ทางด้านกรรมการบริหารพรรคก็จะถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 10 ปี ด้วย
ขอบคุณที่มาเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตอกกลับศรีสุวรรณ ! กองทัพเปิดสเปค เทียบจะๆ ระหว่าง ฮ.ทหาร vs. ฮ.เจ้าสัววิชัย!
- กลาโหมกวักมือเรียกศรีสุวรรณ มาฟังให้ตาแจ้ง ฮ.รุ่นAW139 ซื้อสมัยรบ.ยิ่งลักษณ์
- ศรีสุวรรณจัดให้! บุกกกต.พรุ่งนี้ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบทษช.ชี้ชัดผิดมาตรา92(2)