- 10 ก.พ. 2562
"ดร.สังศิต" จวก นายทุน "พรรคตระกูลเพื่อ..." ระส่ำ ส่อขาดน้ำเลี้ยง หลัง "ทักษิณ" เดินหมากผิด!
สืบเนื่องจากเมื่อเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ได้เกิดปรากฎการณ์ช็อค! วงการการเมืองไทย สำหรับการเปิดบัญชีนายกฯ ของ "พรรคไทยรักษาชาติ" ที่มีการเสนอชื่อ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ" หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมไทย ซึ่งก่อให้เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชนทั่วไป ด้วยคำถามใหญ่ที่ว่า "การเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ" ซึ่งเป็นพระบรมจักรีวงศ์สามารถทำได้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือไม่? ซึ่งทางพรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่าทำได้และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญทุกประการเนื่องจากไม่มีบทกฎหมายใดห้ามไว้ และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 89 ทุกประการนั้น
แต่เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการ โปรดเกล้าฯ เมื่อคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ว่า "มิให้ "ทูลกระหม่อมหญิง" ลงเล่นการเมือง เนื่องจากเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ใกล้ชิดพระมหากษัตริย์ รวมทั้งขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การเสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ โดยพรรคไทยรักษาชาติจึงเป็นการเสนอผู้ที่ขาดคุณสมบัติหรือ มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 13 วรรคสอง ประกอบมาตรา 14(2) ของพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ที่สำคัญเป็นการดำเนินการที่ละเมิดต่อข้อ 17 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 โดยชัดแจ้ง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ 10 กุมภาพันธ์ "รองศาสตราจารย์ สังศิต พิริยะรังสรรค์" คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต, สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.), กรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ, อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ,อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ได้วิเคราะห์ถึงกรณีดังกล่าวเอาไว้ว่า สถานการณ์ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการเมืองและการเลือกตั้งของไทยในขณะนี้ค่อนข้างสูง กล่าวคือ
1.พรรคไทยรักษาชาติต้องยุติบทบาททางการเมืองในแง่พฤตินัยอย่างน้อยที่สุดเป็นการชั่วคราว แต่มีความโน้มเอียงสูงว่าพรรคการเมืองพรรคนี้อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายด้วย ดังนั้นพรรคไทยรักษาชาติคงไม่สามารถรณรงค์หาเสียงต่อไปได้แล้ว ยุทธศาสตร์ของคุณทักษิณที่กำหนดไว้ให้ทษช.เป็นพรรคที่เก็บคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อจึงไม่เป็นจริงอีกต่อไป
2.ผลกระทบของทษช.ส่งผลให้พรรคการเมืองของคุณทักษิณทำงานได้ลำบาก พรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อไทยและพรรคที่เหลือทั้งหมดต่างต้องถอยหลังหรือประกาศยุติการหาเสียงในบางพื้นที่แล้ว การต้องเสียงเวลากับการปรับกลยุทธ์ในการหาเสียงใหม่หมดเป็นตัวกำหนดให้เกิดกระแสนิยมของคุณทักษิณทั้งหมดตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว
3.พลังสำคัญที่ไปเร่งให้พรรคการเมืองของคุณทักษิณตกต่ำหนักลงไปอีกคือความหวาดระแวงและความกลัวของบรรดานายทุนที่สนับสนุนทางด้านการเงินให้แก่พรรคของคุณทักษิณจะถอยห่างออกมา พรรคการเมืองที่ขาดน้ำเลี้ยงในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เหมือนกองทัพที่มีทหารแต่ไม่มีข้าวปลาอาหารจะบริโภค ขวัญของทหารจะตกต่ำและค่อยๆพากันหนีทัพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และ
4.คะแนนนิยมส่วนตัวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและพรรคพลังประชารัฐจะตีกลับ คนจะตัดสินใจเลือกพลเอกประยุทธ์เพราะเห็นว่าการกระทำความผิดของคุณทักษิณในครั้งนี้โจ่งแจ้งและมิบังควรเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้คนไทยทั้งประเทศตกอยู่ในความไม่แน่นอนของอนาคตอยู่ตลอดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พฤติกรรมของ ทษช.ในครั้งนี้ได้ทำให้ภูมิรัฐศาสตร์ของไทยเปลี่ยนแปลงไปหมด ฝ่ายรุกตกเป็นฝ่ายรับ และฝ่ายรับกลับมาเป็นฝ่ายรุก เพราะคนได้เห็นภาวะความเป็นผู้นำของพลเอกประยุทธ์ในการรับมือและการเผชิญหน้ากับการก่อตัวของวิกฤติการเมืองไทยครั้งใหม่อย่างสงบนิ่ง รวมทั้งยังมาจากกลยุทธ์ที่ผิดพลาดของคุณทักษิณที่ทำให้คนเห็นว่าคุณทักษิณทำได้ทุกอย่างเพียงแค่ได้อำนาจกลับคืนเท่านั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ถลกหนัง-กระชากหน้ากากกันไปเลย!! "ดร.สังศิต" แนะรัฐฯ คุย "โรลส์-รอยซ์" เปิดชื่อไอ้โม่งงาบสินบน เชื่อยกระดับเรื่องธรรมาภิบาลแน่
- "ดร.สังศิต" ตีแผ่ ความเสื่อมถอย"ระบอบทักษิณ" ยันหลังเลือกตั้งถึงคราวอวสานแน่ !!!