- 10 ก.พ. 2562
"อ.แก้วสรร" โพสต์ผ่านสื่อดังอีกครั้ง "ยุบพรรคทษช."ได้หรือไม่ คำตอบมีอยู่ในคำสารภาพสีแดง
จากกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ ขอน้อมรับพระราชโองการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ว่าด้วยเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย ดังนั้นการนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าหน้า ๑ เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๓๗ ง ราชกิจจานุเบกษา ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ จะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์
ตามที่ได้มีประกาศพระราชโองการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เรื่อง สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น พรรคไทยรักษาชาติขอน้อมรับพระราชโองการข้างต้นไว้ด้วยความจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์
พรรคไทยรักษาชาติซาบซึ้งในพระเมตตาของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล ที่ได้ให้ความเมตตาต่อพรรคฯ พรรคไทยรักษาชาติจะขอทำหน้าที่ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กฎหมายการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ ด้วยความเคารพในขนบธรรมเนียมราชประเพณี และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายเพื่อนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ด้วยความเคารพในการตัดสินใจของประชาชน ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ต่อมาทางด้านพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการพิจารณาคุณสมบัติบัญชีนายกรัฐมนตรี ของพรรคไทยรักษาชาติ โดยระบุว่า ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการ กกต.จะประชุมคาดว่า จะมีการหารือในทุกเรื่อง รวมถึงประเด็นข้อกฎหมายต่างๆ ด้วย
โดยก่อนหน้านี้มีปัญหาทางข้อกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่ของ กกต. ว่า จะสามารถพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ได้หรือไม่ เนื่องจากฎหมายได้กำหนดให้กกต.ประกาศเพียงรายชื่อผู้ที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น รวมถึงการพิจารณาระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงฯ ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งด้วย
ขณะที่ทางด้านพรรคไทยรักษาชาติ ได้โพสต์เคลื่อนไหวผ่านสื่อโซเชียล ระบุว่า ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่หลั่งไหลกันเข้ามาให้ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พร้อมขอยืนยันกับพี่น้องประชาชน ทางพรรคไทยรักษาชาติยังคงมีจุดยืนดังเดิม และจะเดินหน้าต่อไปในสนามเลือกตั้ง เพื่ออาสาแก้ปัญหาให้ประเทศและประชาชน
อีกทั้งในโลกออนไลน์ยังได้มีการเผยแพร่ภาพของร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักชาติ (ทษช.) พร้อมครอบครัว และน.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค ร่วมทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดหน้าพระเมรุ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางข่าวลือถูกควบคุมตัว
อ่านข่าว : ทษช.ประกาศเดินหน้าเลือกตั้ง ลั่นจุดยืนเดิม..ขณะ"ปรีชาพล" โผล่ชิลๆพาหลานทักษิณเดินสายไหว้พระ
ล่าสุดนายแก้วสรร อติโพธิ ได้เผยแพร่บทความเรื่อง "คำสารภาพสีแดง" โดยมีเนื้อหาบางช่วง บางตอน ดังนี้
ถาม : ในทางกฎหมายแล้ว กรณีบันทึกพรรคไทยรักษาชาติที่เสนอต่อ กกต.ขอเสนอชื่อทูลกระหม่อมเป็น นายกฯรัฐมนตรี จะมีทางลงเอยทางกฎหมายอย่างไรบ้าง
ตอบ : ข้อแรกก็อยู่ที่กกต.ว่า ตรวจสอบคุณสมบัติทูลกระหม่อมแล้ว จะยอมรับชื่อนี้อยู่ในบัญชีว่าที่นายกฯของพรรค ทษช.ได้หรือไม่ หรือจะปฏิเสธไม่รับชื่อนี้เพราะเห็นตรงกับพระบรมราชโองการว่าขัดรัฐธรรมนูญ
ถาม :ข้อที่สองที่ต้องวินิจฉัยคือ ข้อกล่าวหาของคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ว่าการเสนอชื่อนี้ผิดระเบียบการหาเสียงของ กกต.ที่ห้ามหาเสียงโดยใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ นั้น ข้อกล่าวหานี้เป็นผิดจริงหรือไม่
ตอบ : ตรงจุดนี้ทาง ทษช.ยังเถียงได้ว่า “การเสนอชื่อ” กับ “การหาเสียง”นั้นเป็นคนละเรื่องกัน การใช้คำว่า “ทูลกระหม่อม” ที่ปรากฏในบันทึกนั้นก็เป็น “ชื่อ”ที่จำต้องเขียนให้ตรงความเป็นจริง เขียนเพื่อเสนอต่อ กกต. หาใช่มุ่งหาเสียงเสนอต่อสาธารณะคิดจะใช้สถาบันแต่อย่างใดไม่
ถาม : แล้วข้อที่สาม ที่มีผู้เรียกร้องกันระงมให้ยุบพรรคเสียเลยนั่นล่ะครับ ข้อนี้ทำได้ตามกฎหมายหรือ
ตอบ : ผมดูแล้วมีสองเหตุที่ต้องพิจารณาครับ ข้อแรกคือปัญหาว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการแสวงหาอำนาจโดยผิดครรลองรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถาม : ถ้าทูลกระหม่อมมีคุณสมบัติและประสบการณ์เหมาะสม ตรงสเป็คจริงๆ และท่านก็ห่วงบ้านเมืองเห็นด้วยกับนโยบายพรรคจริงๆ แล้วทำไมจะทูลเชิญท่านไม่ได้ มันผิดที่ตรงไหน
ตอบ : ข้อเท็จจริงมันเป็นยังงั้นจริงหรือไม่ล่ะครับ คุณลองอ่านเฟซบุ๊กของ ที่ปรึกษานปช.คุณธิดา ถาวรเศรษฐ ต่อไปนี้ดูสิครับว่า เป็น “คำสารภาพสีแดง” หรือไม่?
“ประชาชนต้องให้โอกาสพระองค์ท่านที่เสียสละ..ฝ่ายที่มอง ดร.ทักษิณ ชินวัตรเป็นปฏิปักษ์อย่างแรงกล้าจะไม่สามารถเอาเรื่องของราชวงศ์หรือสถาบันมาอ้างได้อีกแล้ว..นี่คือการเล่นไพ่หรือยุทธวิธีในการทำอย่างไรให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ.. ขณะนี้แคนดิเดตนายกฯ กลายเป็น พลเอกประยุทธ์กับทูลกระหม่อม...การเอาชนะทางเลือกตั้งไม่พอ ต่อให้มี สส. 250 ก็ถูกจัดการได้โดย 250 สว.โดยกลไกรัฐ .. ตรงนี้ทำให้ปฏิบัติการ ทษช.ครั้งนี้เป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่ายิ่งกว่าเหยียบเมฆ โอกาสที่ทูลกระหม่อมฯจะเป็นนายกฯ ประเทศไทยนั้นมีสูงมาก
นี่คือ “สภาวะใหม่ทางการเมืองไทย” ที่ฝ่ายถูกกระทำทางการเมืองมีกลยุทธ์ สามารถที่จะจัดการอาวุธสำคัญของฝ่ายอนุรักษ์นิยมทำให้อาวุธนั้นใช้ไม่ได้ คือ “โหนสถาบัน” อยู่ตลอดเวลาอีกไม่ได้สุดท้ายไม่ว่าใครจะอยู่ชนชั้นไหน ไพร่ก็ล้าหลังได้ เจ้าก็ก้าวหน้าได้ คนที่กบฏต่อชนชั้นของตนเองก็มีนะคะ ”
อ่านบทความฉบับเต็ม : ผ่านไทยโพสต์ออนไลน์
'แก้วสรร' ออกบทความ คำสารภาพสีแดง? เปิดบทสรุปทางกฎหมายยุบพรรค'ทษช.' ได้หรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "สนธิญาณ - อ.แก้วสรร" ยกกำลังสอง !! ฟันธงยังไงก็เก็บภาษี "ทักษิณ" ได้ !!
- "อ.แก้วสรร"เขียนบทความผ่านสื่อดัง "ทูลกระหม่อมฯ" ควรชี้แจงให้ชัด ตัดสินใจสู่วังวนการเมือง ไม่เกี่ยวสถาบันฯ