- 20 ก.พ. 2562
สืบเนื่องจากกรณี การปราศรัยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยมีไฮไลท์ช่วงหนึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นโยบายพรรคมีแนวทางแก้ไขปัญหาคนตกงาน ด้วยการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง
สืบเนื่องจากกรณี การปราศรัยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยมีไฮไลท์ช่วงหนึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นโยบายพรรคมีแนวทางแก้ไขปัญหาคนตกงาน ด้วยการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ในการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง ด้วยการตั้งกองทุนสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ หรือเถ้าแก่ใหม่ เพื่อสร้างให้คนรุ่นใหม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งอาจจะแบ่งเงินจากกระทรวงกลาโหม ประมาณปีละ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะสร้างเจ้าของธุรกิจรุ่นใหม่ได้ถึงปีละ 20,000-30,000 คน ทั้งนี้ การตัดงบประมาณจากกลาโหมจะไม่กระทบกองทัพ และขอให้ทหารมาช่วยกันสร้างชาติด้วยกัน เนื่องจากคนยุคใหม่ ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ทำให้เกิดกระแสวิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กระทั่งวันที่ 18 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพลเอกอภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางมาเป็นประธานวันสถาปนากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พร้อมทั้งได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวสั้นๆ เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยปราศรัยหาเสียงหากได้เป็นรัฐบาลก็เตรียมที่จะตัดงบประมาณของกระทรวงกลาโหม รวมทั่งการยกเลิกเกณฑ์ทหารด้วย ซึ่ง ผู้บัญชาการทหารบก ได้กล่าวสั้นๆว่า ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน ตอนนี้เพลงนี้กำลังฮิต
ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวจากฝั่งปรปักษ์กองทัพ เมื่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จริงๆแล้ว ผบ.ทบ.ไม่ควรพูดเช่นนี้ เท่ากับแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมือง ถือว่าผิดกฎหมาย ผิดระเบียบข้าราชการ เพราะข้าราชการจะแสดงความไม่เป็นกลางทางการเมืองไม่ได้ มาพูดให้ร้าย พูดไม่ดี ต่อพรรคการเมืองที่เสนอลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม แต่มากกว่านั้น คือความไม่เข้าใจในกติกาต่อระบอบกติกาในการเลือกตั้ง การเสนอความคิดเห็นดังกล่าว หน่วยราชการนั้นๆ ไม่ควรแสดงท่าทีต่อต้าน ผบ.ทบ.ควรประพฤติตนเสียใหม่
ล่าสุด 20 ก.พ. 2562 ทางด้านร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมากล่าวว่าเรื่องการเปิดเพลงหนักแผ่นดิน สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่กองทัพเข้ามาแทรกแซงทางการเมือง ดังนั้นในการปฏิรูปกองทัพ ต้องมีการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรด้วย เพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิดของทหารในกองทัพให้เข้าใจบทบาทของตนเองในระบอบประชาธิปไตย จะได้วางบทบาทได้อย่างเหมาะสมและเคารพเสียงประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาคัดเลือกนายทหารที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้บังคับหน่วยควรพิจารณาปูมหลังเกี่ยวกับความคิดทางการเมืองด้วยว่าเป็นอันตรายหรือเป็นปฏิปักษ์กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ เพราะเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อการยึดอำนาจได้เมื่อสบโอกาส ซึ่งวิธีนี้น่าจะช่วยป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารได้อีกทางหนึ่ง
และอ้างถึงข้อเสนอปฏิรูปกองทัพของพรรคเพื่อไทย ว่าเป็นสิ่งที่พรรคได้ศึกษาจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ส่วนจะเกิดขึ้นได้หรือได้จริงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่จะลงคะแนนในวันเลือกตั้ง หากคนไทยส่วนใหญ่เทคะแนนให้พรรคการเมืองที่ชูนโยบายตัดงบประมาณในการซื้ออาวุธของกองทัพและยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร กองทัพก็ควรเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน
"ขณะนี้ เริ่มมีคนกังวลว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะบานปลายและถูกใช้เป็นข้ออ้างล้มกระดานเลือกตั้งที่ทุกคนกำลังรอคอยในวันที่ 24 มี.ค.นี้หรือไม่ ซึ่งใครก็ตามที่คิดจะล้มกระดานเลือกตั้งควรทบทวนให้ดี เพราะจะถูกต่อต้านจากคนส่วนใหญ่ของประเทศและสวนกระแสความเป็นไปของโลก ที่สำคัญบ้านเมืองของเราบอบช้ำมามากแล้ว ประเทศควรเดินไปข้างหน้าเสียที หากมีการล้มกระดานเลือกตั้งอีก สมควรถูกประณามว่าหนักแผ่นดินของจริง" ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มาเป็นทีม!! ‘ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิ์’ จี้ยุติดำเนินคดี ‘หมวดเจี๊ยบ’ ซัดละเมิดสิทธิ์ คุกคามเสรีภาพ ?
- นี่หรือประชาธิปไตยสไตล์?! "หมวดเจี๊ยบ" แซะ "บิ๊กตู่" ปมนาฬิกาโหลใหญ่"บิ๊กป้อม" ความรับผิดชอบเป็นพื้นของความเป็นคน
- มโนเก่งงง!! "หมวดเจี๊ยบ"คิดได้?โหนกระแส"พุทธะอิสระ"กำความลับนายกฯ-ใครกันแน่ที่ยังกล้าพูดจาเย้ยฟ้าดินไปทั่ว..สุดท้ายไม่พ้นเข้าเรื่องพวกแดงกัน