- 23 ก.พ. 2562
สืบเนื่องจากกรณี วันที่ 21ก.พ. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมแกนนำพรรค และ น.ส.นพมาศ การุญ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พระนครป้อมปราบศัตรูพ่าย พรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พบปะนักศึกษาและประชาชนละแวกชุมชนสวนอ้อย
สืบเนื่องจากกรณี วันที่ 21ก.พ. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมแกนนำพรรค และ น.ส.นพมาศ การุญ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 พระนครป้อมปราบศัตรูพ่าย พรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พบปะนักศึกษาและประชาชนละแวกชุมชนสวนอ้อย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้ง มีนักศึกษามาหลายสิบคนมายืนรอรับล่วงหน้า ตะโกนฟ้ารักพ่อ นำน้ำมาให้ดื่ม และนำทิชชูมาเช็ดเหงื่อ พร้อมพูดคุยทักทายจำนวนมาก และระหว่างการเดินพบปะประชาชนนักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์นั้น ทางนายธนาธร ยังได้แนะนำให้ร่วมกันศึกษานโยบายของอนาคตใหม่ก่อนตัดสินใจไปเลือกตั้งด้วย
ทั้งนี้นายธนาธร ได้รณรงค์ปลุกใจให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ว่า อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว นิสิตนักศึกษาทุกคนถือเป็นคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-25 ปี ที่เกิดมาโดยไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง แต่โตขึ้นมาก็ต้องมาพบกับความขัดแย้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งคนขัดแย้งทิ้งมรดกบาปไว้ให้ โดยความขัดแย้งทางการเมือง ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไม่มีความสามารถในการแข่งขัน การเจริญเติบโตถดถอยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เรียนจบออกมาจะทำงานอะไร ซึ่งคนที่ต้องกำหนดอนาคต 20 ปี คือพวกเรา อย่ายอมให้ที่คนยึดอำนาจเข้ามา กำหนดอนาคตให้เรา
“ตอนนี้ส่วนตัวคิวแน่นมาก ตารางลงพื้นที่หาเสียงแน่นจนถึงวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งตนเองและทีมงานอยู่ระหว่างการออกแบบกิจกรรมช่วงสุดท้ายระหว่างวันที่ 11-22 มีนาคมนี้อยู่ ซึ่งจะเน้นการลงพื้นที่อย่างหนัก แบ่งเวลาออกสื่อ พบปะประชาชน เพราะการจับมือ หรือสบตา ที่สื่อถึงความจริงใจ จะช่วยแปรคะแนนเสียงในออนไลน์ ให้เป็นคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งได้ ซึ่งไม่กังวลต่อคดีในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ทุกคนในพรรคทดแทนกันได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความเป็นพรรคอนาคตใหม่จะดำรงอยู่ต่อไป” นายธนาธร กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง - แกนนำพรรคนิติราษฎร์ .."ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"ไพร่หมื่นล้าน ท่อน้ำเลี้ยงสื่อล้มเจ้า "ฟ้าเดียวกัน"??
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวได้กลายมาเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงแนวคิดของนายธนาธร ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวบนเฟสบุ๊ก "Kittitouch Chaiprasith" ที่น่าสนใจยิ่ง โดยระบุความว่า
เด็กหลายคนซึ่งมีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก ส่วนใหญ่ไม่ทราบมาก่อน (เด็กส่วนใหญ่ในเวลานั้นอายุยังไม่ถึง 10 ขวบเสียด้วยซ้ำ)
แล้วคุณจะทราบว่า ธนาธร และ ปิยบุตรนั้นไม่ใช่ #ผู้เล่นหน้าใหม่ คนรุ่นใหม่อย่างที่เขาจ้างทีม PR ชื่อดังอันดับต้นๆ ของประเทศมา Propaganda ให้...
---------------------------
ผู้เล่นหน้าเก่าแต่สร้างภาพให้ดูใหม่
---------------------------
- ธนาธรเป็นนายทุนนิตยสาร #ฟ้าเดียวกัน ซึ่งเขียนโจมตีสถาบันกษัตริย์(แบบเฉี่ยวๆ พอไม่ให้โดนจับ)มาโดยตลอด และร่วมเคลื่อนไหวกับขบวนการนักวิชาการฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง ไปจนถึงม็อบเสื้อแดงตั้งแต่ปี 2553
- ส่วนปิยบุตรเองก็คือ หนึ่งในแกนนำ #นิติราษฎร ที่เคลื่อนไหวให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นสถาบัน รวมถึงหลังการรัฐประหาร 2557 ปิยบุตรก็ยังเคลื่อนไหวในงานบรรยายวิชาการต่างประเทศ ร่วมกับกลุ่มขบวนการล้มเจ้าที่หนีไปอยู่ต่างแดนอยู่
- ดังเช่นที่ปรากฎในงานที่ฝรั่งเศส เดือนกันยายน 2016 ซึ่งในงานนั้นผู้ร่วมเสวนากับปิยบุตรมีทั้ง ปวิน, สมศักดิ์ เจียมฯ, อั้ม เนโกะ, ใจ อึ้งภากรณ์, จรัล ดิษฐาอภิชัย , จรรยา ยิ้มประเสริฐ, Andrew McGregor Marshall ฯลฯ
https://www.youtube.com/watch?v=ZT-kWXvk0X4
---------------------------
นิติราษฎรและความแค้นของพวก 6 ตุลา
---------------------------
[นิติราษฎร]
- คือ การรวมตัวของบรรดานักวิชาการในเครือข่ายของพวกกลุ่มอดีตฝ่ายซ้ายยุค 6 ตุลาที่หนีเข้าป่าไป จากเหตุนองเลือดสมัยนั้น (และกลุ่มเยาวชน/อาจารย์มหาวิทยาลัยที่พวกเขาปั้นขึ้นมา)
- เครือข่ายเหล่านี้แม้ออกมาจากป่าด้วยกฎหมายปรองดอง 66/2523 สมัย พล.อ.เปรม ที่ให้ผู้หลงผิดไปกับลัทธิคอมมิวนิสท์กลับคืนสู่เมืองได้โดยไม่มีความผิด และกลายมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในภายหลัง
- แต่กระนั้นก็ยังมีบางกลุ่มที่เตียดแค้น ชิงชังสถาบันกษัตริย์ และเชื่อว่าสถาบันกษัตริย์อยู่เบื้องหลังการฆ่านักศึกษาในวันที่ 6 ตุลา 2519 คนพวกนี้เก็บความแค้นไว้หลายสิบปี จำนวนมากเข้าไปทำงาน NGO และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย บ้างก็ผันตัวไปทำงานรับใช้นักการเมือง
---------------------------
ออกจากป่ามาสู่การล้างแค้น
---------------------------
- พวกทำงาน NGO ก็จะสร้างเครือข่ายที่รับเงินจากมหาอำนาจต่างชาติ (ที่ให้เงินสนับสนุนกลุ่มที่ไล่ฆ่านักศึกษาตอน 6 ตุลานั่นแหละ หุหุ) มาเคลื่อนไหวต่อ
- พวกทำงานสายวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัยก็เข้าไปตั้งสำนักฟูมฟัก เยาวชนซึ่งปัจจุบันหลายคนก็มายืนเป็นอาจารย์รุ่นใหม่ เช่น ปิยุบตรที่อยู่ในกลุ่มนิติราษฎร เป็นต้น
- พวกทำงานสายการเมืองก็เข้าไปอยู่กับนักการเมืองใหญ่ที่มีทุนหนา คอยเป็นนายทุนให้ ตอนแรกก็ไม่ได้เอาแนวคิดแบบเดิมมาใช้ แต่พอหลังรัฐประหาร 2549 กลุ่มพวกนี้เริ่มไปจับมือกับนักวิชาการในมหาวิทยาลัย เพื่อสร้าง "วาทกรรม" แบบสมัยคอมมิวนิสท์ขึ้นอีกครั้ง
- เช่น ไพร่-อำมาตย์, วาทกรรมแบ่งแยกชนชั้น, แบ่งแยกภูมิภาค, แบ่งแยกคนเมือง-ชนบท เป็นต้น เพื่อให้มวลชนเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และเชื่อตามผู้นำที่อ้างว่าจะมาปลดปล่อยพวกเขา
---------------------------
พรรคนิติราษฎร
---------------------------
- มาถึงวันหนึ่ง #พรรคนิติราษฎร ก็คิดได้ว่าตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในหน้าการเมืองบ้าง เพราะลำพังจะอาศัยนายทุนอย่างทักษิณเพียงอย่างเดียว ก็คงจะยาก ดังที่เราจะเห็นพวกที่หนีไปต่างประเทศ พากันออกมาด่าทักษิณว่าเป็นพวก #สู้ไปกราบไป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
(ลองนำคำว่า "สู้ไปกราบไป" ไปค้นใน google พวกคุณจะเห็นเอง)
- วันนี้ที่เราจึงไม่ต้องแปลกใจที่ว่า ทำไมทั้งธนาธร และ ปิยบุตรจะวนเวียนอยู่กับ คณะราษฏร วนเวียนอยู่กับแนวคิดการปฏิวัติฝรั่งเศส (สมัยเมื่อสัก 10 กว่าปีก่อน ปิยบุตรจะพูดจะบรรยายอะไร จะเริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องปฏิวัติฝรั่งเศสเสมอ)
- รวมถึงการใช้วาทกรรมแบบสมัยพรรคคอมมิวนิสท์ช่วงสงครามเย็น ที่มักจะเน้นคำว่า กดขี่ ชนชั้น และการทำให้มวลชนรุ้สึกถูกแบ่งแยก น้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ว่าจะด้วยการใช้ภูมิภาค ศาสนา วัฒนธรรม มาเป็นตัวแบ่งแยกผู้คน
- ก่อนที่พวกเขาจะเสนอว่าพวกเขาคือ ผู้ปลดปลอ่ยมวลชนจากความทุกข์ยากเหล่านั้นได้...แต่ทั้งหมดนี้ คือวิธีการเดิมๆ ที่ใช้มาแล้วทั้งนั้นในหน้าประวัติศาสตร์ ไม่มีอะไรใหม่ ดังชื่อที่เขาพยายามชู
- ทั้งนี้เพราะเขาคิดว่า เยาวชนรุ่นใหม่ คงไม่รู้ว่าพวกเขาคือใครและทำอะไรมา รวมถึงคิดว่าเขามีเงินทุนทจำนวนมาก ในการจ้างบริษัท PR ชั้นนำของเมืองไทยให้สร้างภาพลักษณ์ให้กับพวกเขาได้
- แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่ายังมีคนอีกมากที่รุ้ทันพวกเขา และติดตามพวกเขามาตลอดเป็น 10 ปี และพร้อมจะเปิดโปงเรื่องเหล่านี้ให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ทราบเช่นกัน...