ตอกหน้าพวกขยันท้า "บิ๊กตู่" ดีเบต ทีสมัย "ยิ่งลักษณ์" พูดให้รู้เรื่องก่อน ยังยาก

กระแสช่วงนี้ก็มาแรงเหลือเกินนะคะหลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะ "พรรคเพื่อไทย" เรียกร้องให้ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ "พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)" ออกมาดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นเจ๊หน่อย สุดารัตน์ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาท้าดวลดีเบตพูดประชดประชันสุดท้ายก็หลอกด่ารัฐบาล หลอกเหน็บท่านนายกฯ แต่ทานโทษนะคะลืมอะไรกันไปรึเปล่าว่าเมื่อสมัยคุณยิ่งลักษณ์เอง ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ให้แคนดิเดตนายกฯ เบอร์หนึ่งร่วมดีเบตกับพรรคอื่นด้วย แถมพอมาวันนี้กล้าเรียกร้องเหน็บแนมให้ใครลงดีเบต ไม่ดีเบตได้ยังไงคะ อ้อ... แต่จะว่าไปลูกน้องผู้ภักดีอย่างคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ได้ออกมาแก้ตัวให้นายหญิงแล้ว ฟังขึ้นรึเปล่าพิจารณากันเอาเอง

ยิ่งใกล้ถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งพรรคการเมืองต่างๆ ยิ่งออกหาเสียงกันเข้มข้นขึ้นทุกวัน รวมถึงการโจมตีฝั่งตรงข้ามเมื่อมีโอกาส นี่ล่าสุดเจ๊หน่อย สุดารัตน์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "วันนี้ พล.อ. ประยุทธ์ มีหมวก 3 ใบ ไม่ได้ลงในนามแคนดิเดตนายกฯ ก็ลงในนามนายกฯ สื่อก็คงเห็นเองว่าเป็นการลงพื้นที่เรียกคะแนนเสียงให้บางพรรคหรือไม่ ตนไม่รู้สึกตื่นเต้น หรือประหลาดใจว่าจะลงในนามพรรคหรือไม่ เพราะท่านก็ลงอยู่แล้ว และหวังผลหาคะแนนเสียง แต่ถ้าจะลงเต็มตัวจริงๆ คนที่เสนอตัวเป็นนายกฯ น่าจะมาร่วมดีเบตในทุกเวที เช่นเดียวกับแคนดิเดตนายกฯ คนอื่น ไม่ใช่มีความพิเศษหรืออภิสิทธิ์อยู่คนเดียว ควรจะมานำเสนอสิ่งที่ตัวเองจะทำ พร้อมกับแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นๆ ประชาชนจะได้รับข้อมูล ประกอบการตัดสินใจเลือก" ใจเย็นๆ นะคะคุณผู้ชม เมื่อสักครู่คือความคิดของเจ๊หน่อย สุดารัตน์ เดี๋ยวเราจะได้ไล่เรียงความคิด คำพูดของแต่ละคน ที่พยายามอยากจะให้บิ๊กตู่ลงดีเบตร่วมกับแคนดิเดตนายกพรรคอื่นๆ แต่ต้องขอบอกสั้นๆ ตรงนี้ก่อนนะคะ 2554 สมัยคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกเบอร์ 1 ของพรรค ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ส่งคุณยิ่งลักษณ์ลงดีเบตร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆ ด้วย เพราะฉะนั้นคุณผู้ชมฟัง และก็จำให้ดี เพราะคำพูดแต่ละคนน่าสนใจ น่าสนใจตรงที่ ย้อนกลับเข้าหานายหญิงของตัวเองทั้งนั้น

คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของทุกพรรคการเมืองควรร่วมดีเบตแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ ว่า... ทุกพรรคควรส่งคนที่เกี่ยวข้อง และมีความเชี่ยวชาญกับประเด็นดีเบตนั้นๆ ไปแสดงวิสัยทัศน์ แต่เรื่องสำคัญแคนดิเดตนายกฯ ควรมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเก่ง ความน่าเชื่อถือให้ประชาชนเกิดความไว้ใจ ประกอบการตัดสินใจ หากไม่มาร่วมเวทีดีเบตก็ควรออกมาชี้แจงเรื่องต่างๆ ให้ประชาชนรับทราบ หากจะอ้างว่าไม่ใช่สมาชิกพรรค ตนมองว่าแคนดิเดตนายกฯ ก็พูดได้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะเลือกทั้งส.ส.เขตส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกฯ ส่วนการแสดงทัศนะของ พล.อ.ประยุทธ์ ในปัจจุบันตนมองว่าเป็นคนละบริบทกับการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในการเลือกตั้ง เพราะปัจจุบันรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อำนาจต่างๆ ที่มีอยู่จึงไม่เหมือนรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย จะอ้างผลงานของรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติเทียบกับรัฐบาลในอนาคตไม่ได้ เพราะท่านมีทั้งกฎหมายพิเศษ และสภาพิเศษ เคลียร์ทีละประเด็นนะคะ แล้วรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีสิทธิ์ไม่ส่งแคนดิเดตร่วมดีเบตแบบไม่ถูกเหน็บแนมหรอคะ?? อีกประเด็นคือคุณชัชชาติ ตอบคำถามเรื่องจะไม่ทำโครงการรับจำนำข้าว ว่า... นโยบายจำนำข้าวถือเป็นนโยบายที่ดีมีการช่วยเหลือชาวนา แต่มีปัญหาข้อปฏิบัติในการระบายข้าว ตอนนี้ทีมนโยบายด้านการเกษตรกำลังพิจารณาในประเด็นลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร ส่วนนโยบายเรื่องนี้จะยังไม่ถือว่าเป็นหมัดน็อก เพราะเรามี 14-15 นโยบาย ที่จะรอเปิดภายใน 1-2 อาทิตย์ข้างหน้าเน้นที่การลดภาระหนี้ก่อน ไม่ใช่ยกเลิก และที่สำคัญคือการหาทุนให้กับคนตัวเล็ก พูดง่ายๆ ก็คือไม่นำกลับมาทำนั่นล่ะค่ะ แต่ก็ยังสงสัยนะคะว่าถ้ามันดีทำไมไม่ทำต่อ ไม่นำกลับมาชูเป็นนโยบายหลัก หรือเห็นว่ามันดีจนคุณบุญทรงต้องติดคุก เลยไม่กล้า
ฝ่ายคุณจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พูดถึงเรื่องนี้ บอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ สามารถขึ้นเวทีดีเบตที่ กกต.จัดขึ้นได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามเห็นด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวในเวทีดีเบต ช่วง 5 ปีมานี้ก็พูดข้างเดียวมาตลอด ไม่เคยพูดลักษณะตอบโต้ แค่ถูกตั้งคำถามยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ต้องออกมาขอโทษตลอด คนไทยก็ให้อภัยมาตลอด ฉะนั้นในวันนี้ทุกคนไม่ได้กลัวว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาในเวทีดีเบต สิ่งที่ทุกพรรคใฝ่ฝันที่สุดคืออยากดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์ และถ้า พล.อ.ประยุทธ์มีความมั่นใจก็ถอดหัวโขนออกเสีย ทั้งตำแหน่งหัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี จะได้หาเสียงทั้งวัน ถ้าอยากเป็นแชมป์ก็มาแข่งกับคนอื่น. 

ก็แต่ละคนออกมาพูดท้าทายซะขนาดนี้เป็นธรรมดาค่ะว่ามันต้องเกิดกระแสตีกลับ จากสังคม เพราะในการเลือกตั้ง ปี 2554 พรรคเพื่อไทยไม่กล้าที่จะส่ง คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทย ลงสนามดีเบต คุณปลอดประสพ สุรัสวดี  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในตอนนั้น ก็ไม่ยอมรับเรื่องการดีเบตแถมยังบอกว่า "...อยากถามว่าจะท้าดีเบตกันทำไมในเมื่อทุกพรรคได้เสนอนโยบายของแต่ละพรรคไปแล้วการให้คนมาเถียงและทะเลาะกันต่อหน้าประชาชนจะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นได้อย่างไรฉะนั้นขอให้พอเรื่องนี้ เลิกท้าตีท้าต่อยกันเสียที" ชัดเจนมั๊ยคะ??

มาดูคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น ยังบอกว่า การโต้วาที ที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตาม พรรคเพื่อไทย สนใจแต่การลงพื้นที่และนำเสนอนโยบายของพรรคต่อประชาชนมากกว่า แต่ล่าสุดนี่สิคะคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในหมวกใหม่ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว บอกว่า หลายพรรคเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีดีเบต แล้วมีกองเชียร์ลุงตู่ถามว่าตอนคุณยิ่งลักษณ์ไม่เห็นมาดีเบตเลย มันแปลกดีนะขอร่วมสนทนาครับ นักการเมืองจะขึ้นเวทีดีเบตหรือไม่ถือเป็นสิทธิ์ ประยุทธ์ ยิ่งลักษณ์ รวมถึงคนอื่นๆ ย่อมเท่าเทียมกันในแง่นี้ แต่การเทียบเคียงทั้ง 2 คนเรื่องดีเบต มีความแตกต่างจะชี้ให้เห็น คุณยิ่งลักษณ์เพิ่งเปิดตัวทำงานการเมือง เวลาหาเสียงมีเพียง 49 วัน ทีมงานเห็นตรงกันว่าต้องทุ่มเทเวลาลงพื้นที่สัมผัสประชาชนจะเกิดประโยชน์สูงสุด ผมปราศรัยร่วมคณะบางวัน 14 เวที กินข้าวในรถเป็นเรื่องปกติ ในที่สุดก็สำเร็จได้คะแนนเสียงเกินครึ่งแต่พล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจเป็นนายกฯ มาเกือบ 5 ปี มีอำนาจรัฐจัดการคนเห็นต่าง เขียนกติกาเอง ตั้งพรรคเพื่อสืบทอดอำนาจ กุมความได้เปรียบทุกรูปแบบ การขึ้นเวทีดีเบตจึงหมายถึงการสร้างความชอบธรรมให้พอมีอยู่บ้างในการเลือกตั้งครั้งนี้ คนอื่นจะออกทีวีต้องเฉลี่ยเวลากัน สถานีเชิญใครเฉพาะบุคคลต้องระวังผิดกฎกกต. จะขึ้นเวทีพรรคก็ต้องแจงบัญชีค่าใช้จ่าย แต่พล.อ.ประยุทธ์ออกทีวีทุกวัน คืนวันศุกร์ยึดเวลาออกทุกช่อง พูดคนเดียวไม่มีใครถามใครแย้ง ไม่ต้องแสดงค่าใช้จ่าย ใช้งบหลวงสบายๆ ไม่เรียกว่าเอาเปรียบแล้วจะเรียกว่าอะไรถ้านั่งดีเบตกับนักการเมืองไม่ได้จะให้ประชาชนมั่นใจได้อย่างไรว่าพร้อมเป็นนายกฯ ในวิถีทางประชาธิปไตย
 

นั่นเป็นความเห็นล่าสุดของคุณณัฐวุฒิ ถามกลับค่ะแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องยึดอำนาจ ต้องกระทำการรัฐประหารเพราะอะไรหรอคะเพราะว่าการบริหารราชการของคุณยิ่งลักษณ์มันเกิดการทุจริตคอรัปชั่นมหาศาลจนกฎหมายธรรมดารองรับไม่ได้ ไม่ใช่หรอคะแล้วจะเอาคำว่ายึดอำนาจ เผด็จการมาอ้างได้ยังไง เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ร่ายมายาวเหยียดคิดว่าไม่น่าใช่หรอกค่ะ เพราะไปเจอคลิปนี้มาน่าจะอธิบายได้ดี

ไม่แน่ใจว่าคุณผู้ชมจะเข้าใจกับคำพูดที่คุณยิ่งลักษณ์ ได้พูดไปในคลิปรึเปล่า แต่เอ๊ะ!! นี่รึเปล่าคะที่เป็นสาเหตุแท้จริงว่าทำไมตอนนั้นทางพรรคเพื่อไทยถึงไม่กล้าส่งคุณยิ่งลักษณ์ร่วมดีเบตกับพรรคการเมืองอื่น เพราะว่ากลัว ว่าคนจะเห็นถึงความสามารถของคุณยิ่งลักษณ์แล้วจะไม่เลือก รึเปล่าคะ?? แต่อันที่จริงเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์คุณณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้พูดถึงเรื่องเวทีดีเบต บอกว่าอยู่ระหว่างรอความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าสามารถทำได้หรือไม่เนื่องจากต้องศึกษาข้อกฎหมายอย่างละเอียดให้มั่นใจ ว่าจะไม่เกิดข้อร้องเรียนในภายหลังหากเชิญพล.อ.ประยุทธ์ มาประชันนโยบาย โดยเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีโอกาสในการขึ้นเวทีเพื่อประชันนโยบายอย่างแน่นอน แต่ต้องรอคำตอบให้ชัดเจน


คุณผู้ชมสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและย้อนหลังได้ที่เพจ เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก และทางยูทูปช่องทีนิวส์ ออนไลน์นะคะ 

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-"บิ๊กตู่" เยือน ระยอง นักเสี่ยงโชคต่างตามลุ้นทะเบียน
-ดีเบต(นักการเมือง)ได้มากกว่าเสีย? เพิ่มคะแนนพปชร. เรื่องที่บิ๊กตู่ต้องตัดสินใจ