"หญิงหน่อย" เหน็บ คสช. โอด กระเป๋าลุง มีเสียงตุนไว้แล้ว?..กางข้อเท็จจริง ส.ว. 250 คน โหวตนายกฯได้ แต่ไม่มีผลจัดตั้งรัฐบาล

 

สืบเนื่องจากกรณี ความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลช่วงกลางปี 2562 มีการโยกย้ายตำแหน่งสำคัญในส่วนของกองทัพบกหลายตำแหน่ง เพื่อรองรับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่กำลังจะถูกคัดเลือกขึ้นโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  โดยพล.อ.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคสช. เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาส.ว.

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่า คณะกรรมการดังกล่าวจะ มีตนเป็นประธาน  ส่วนกรรมการจะประกอบด้วยบุคคลใดบ้างยังไม่บอก เดี๋ยวก็รู้เอง ส่วนส.ว.จะมีสัดส่วนทั้งพลเรือน นักวิชาการ มาจากบุคคลทั่วไป แต่จะไม่เอาข้าราชการทหาร เพราะทหารที่อยู่ในตำแหน่งจะมาเป็นส.ว.ได้อย่างไร ซึ่งตนจะประชุมก่อนที่จะพิจารณาว่าจะมีใครบ้าง

โดย พล.อ.ประวิตร นั่งเป็นประธาน จะต้องมีหน้าที่ คัดเลือกบุคคล ที่มีความเหมาะสมมา 400 คนและส่งรายชื่อให้ คสช. พิจารณาคัดเลือกเป็น ส.ว. 194 คน ภายในวันที่ 9 มีนาคม 2562 ส่วน ส.ว. กลุ่มที่มาจากการเลือกกันเองที่จัดโดย กกต. และเสนอ 200 รายชื่อให้ คสช. คัดเลือกเหลือ 50 คนเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์อย่างเผ็ดร้อนจากขั้วการเมืองตรงข้ามรัฐบาล ที่อ้างตนว่ายืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย หยิบยกประเด็นเหล่านี้มาบิดเบือนเพื่อโจมตี คสช. ว่ากระบวนการได้มาซึ่งนายกฯ มีความไม่โปร่งใส เมื่อล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แดนดิเดตนายกฯ พรรค เพื่อไทย ได้ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ระบุว่า ประชาชนทั้งประเทศเลือก ส.ส. 500 คน คสช.เลือก ส.ว. 250 คน ส.ส. และ ส.ว. รวมกัน 750 คน เลือกนายก  บิ๊กตู่ หัวหน้า คสช. ตั้ง บิ๊กป้อม เป็นประธานสรรหาฯ ขณะที่บิ๊กตู่เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายก อยู่กับเรากระเป๋าตุง แต่ในกระเป๋าลุง มีตุนไว้แล้ว 250 เสียง เหนื่อยหน่อย..แต่สู้ไม่ถอยค่ะ!!

 

จะเห็นได้ว่า เจตนาของคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นการส่งสาห์นให้กลุ่มผู้สนับสนุนคล้อยตามว่า เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมือง ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่หลายพรรคหยิบยกมาโจมตีตลอด อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงที่ควรแก่การทำความเข้าใจนั้น ต้องย้อนกลับไป ดู บทเฉพาะกาล ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 (1) ที่ระบุว่า

"ให้มีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาคณะหนึ่งซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ในด้านต่างๆ และมีความเป็นกลางทางการเมือง จํานวนไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 12 คน มีหน้าที่ดําเนินการสรรหาบุคคลซึ่งสมควรเป็นสมาชิกวุฒิสภา"

สาระสำคัญคือการกำหนดให้คณะกรรมการสรรหาชุดนี้จะคัดเลือกบุคคลที่จะเสนอให้เป็น ส.ว. ในระบบพิเศษนี้ จํานวน 400 คน แล้วนํารายชื่อให้ คสช. เลือกอีกทีให้เหลือ 194 คน โดยรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้มีสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) 250 คน โดยมีที่มา 3 แบบ ได้แก่ 1) ส.ว. จากคณะกรรมการสรรหา 194 คน 2) ส.ว. โดยตำแหน่ง 6 คน 3) ส.ว. จากการคัดเลือกกันเองของ 10 กลุ่มอาชีพ และให้ คสช. คัดเหลือ 50 คน 

ส.ว. โดยตำแหน่ง 6 คน คือ ปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้ทำทุกเหล่าทัพ ซึ่งได้แก่ พล.อ. ณัฐ อิทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ. ลือชัย รดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ. ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- "สนธิญาณ"ลอกคราบ "หญิงหน่อย"หั่นงบกองทัพสองหมื่นล้าน แค่จิ๊บๆ ทวงเงินโกงข้าว"ยิ่งลักษณ์" นายกฯ"เพื่อไทย" ก่อนดีกว่า    
- "เพื่อไทย" พรรคขี้โกง? "สนธิญาณ" วาน"หญิงหน่อย"อยากช่วยชาติจริง!ทวงเงินยิ่งลักษณ์ มาคืนประชาชนด้วย!!

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดระบุว่า คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้า คสช. ,พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช. , พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้า คสช. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรองหัวหน้า คสช. ,วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิก คสช.

เพียงพอที่จะทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา นั้นเป็นคนใกล้ชิดและบุคลากรของ คสช. หาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการเป็นนายกฯ อีกสมัย  คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา อาจพร้อมใจกันโหวต นั่นหมายถึงว่าต้องการอีกเพียงแค่ 126 เสียงก็สามารถคว้าตำแหน่งได้โดยไม่ยาก

แต่กลับเป็นข้อเท็จจริงเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น เพราะถึงแม้ 126 จะดูเป็นเสียงที่น้อย ขอเพียงมีพรรคการเมืองขนาดกลางก็สามารถไปถึงฝั่งฝันได้แล้ว แต่ความจริงทั้งหมดคือถ้ามีเสียงสนับสนุนเพียงเท่านี้ รัฐบาลจะไม่สามารถบริหารประเทศได้โดยราบรื่น ขาดเสถียรภาพ เพราะต่อให้ ส.ว. พร้อมใจกันยกมือเอกฉันท์ แต่การออกกฏหมายหรือพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นต้องส่งเข้าสภาผู้แทนก่อน รวมถึงร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี ดังนั้น แม้ว่าตัวเลขขั้นต่ำที่จะเป็นนายกฯ คือ แค่ สส. 126 เสียง แต่ถ้าจะให้อยู่ได้และสามารถออกนโยบายขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำไปปฏิบัติ ต้องมี สส.อย่างน้อยครึ่งหนึ่งคือ 250 คน

แน่นอนว่าไม่มีทางที่พรรคขนาดกลางหรือขนาดเล็กรวมกันแล้วจะได้ถึง 250 คะแนน สรุปความได้ว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯ ได้นั้น ต้องได้รับเสียงสนับสนุนให้ได้ถึง 250 คน ไม่ใช่แค่ 126 คน ตามที่หลายฝ่ายหยิบมาบิดเบือนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงเจตนาของ คุณหญิงสุดารัตน์ ที่เหน็บไปยังรัฐบาล เพราะนอกจากจะไม่นำเสนอความจริงทั้งหมด กลับมีเพียงความเท็จ ให้กลุ่มที่สนับสนุนปีกของตนได้คล้อยตามแต่เพียงเท่านั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง     
- "หญิงหน่อย" ยัน เบอร์ 1 เก้าอี้นายกฯ ไม่เปลี่ยน "ชัชชาติ" เบอร์ 3? "ดีลไม่ลงตัว" หรือ "ละครลิง" ฉากใหญ่

- "สนธิญาณ"ฟันธง!! "ทักษิณ"หลอก "หญิงหน่อย"เพื่อไทยหลอกประชาชน...คนไทยเชื่อไหม ?

- ชัดพอไหม..น้ำลดตอผุด? หญิงหน่อยเห็นรึยัง กางแผ่ "งบฯกลาโหม" ย้อนหลัง หางโผล่ทันที รบ.ยิ่งลักษณ์ พุ่งทะยานแตะ 9 %