หยุดสร้างความขัดแย้ง! นักวิชาการ ชี้ การเมืองต้องไม่แบ่งคนรุ่นใหม่-เก่า อย่าปลูกฝังความเกลียดชัง!

สืบเนื่องจากกรณีการปราศรัยของพรรคการเมืองบางพรรคในช่วงที่ผ่านมา มีการหยิบยกประเด็นความขัดแย้งด้านแนวคิดระหว่างช่วงอายุ จนนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความไม่เหมาะสมเพราะจะเป็นการชี้นำจุดประกายความขัดแย้งให้บานปลายมากขึ้น

ต่อกรณีดังกล่าวล่าสุดบนเฟสบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ซึ่งเป็นของ นายกิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 

[ก้าวข้ามความขัดแย้ง]
ยุติสงครามระหว่างวัย
สังคมจะขับเคลื่อนไปได้
ต้องอาศัยทุกวัยมาร่วมมือกัน
----------------------------

- ช่วงที่ผ่านมา พวกเราคงได้เห็นกันแล้ว ว่ามีความพยายามในการปั่นกระแสความเกลียดชัง เพื่อแบ่งแยกผู้คนเป็น ซ้าย-ขวา เมือง-ชนบท หรือแบ่งแยกชนชั้น และแบ่งแยกภูมิภาค

(เพื่อปั่นให้คนเกลียดกัน แล้วคนปั่นกระแสจะได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อให้ได้รับความนิยมหรือคะแนนเสียงจากคนฝั่งนั้น)

- และในปัจจุบันเรายังเห็นได้ชัดว่า มีความพยายามแบ่งแยกความต่างระหว่างวัย เราเห็นวาทกรรม "ไดโนเสาร์" และการโยนความผิดและพุ่งความเกลียดชังไปที่ผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด

(ไม่ต่างจากสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมในจีน)

- ในขณะเดียวกันก็มีวาทกรรมอย่าง "พวกปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม" จากผู้ใหญ่ขึ้นมาตอบโต้เด็กและเยาวชนเช่นกัน ทำให้เกิดความบาดหมางและเกลียดชังระหว่างวัย เกิดเป็น [สงครามระหว่างวัย]

- ผมจึงอยากเขียนโพสท์นี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันและดึงสติให้กับผู้คนทุกเพศ ทุกวัยในสังคมไทยได้คิดและตรึกตรองกันสักเล็กน้อย ว่าสังคมไทยเราควรเดินหน้าไปทางไหน และเราจะยุติความขัดแย้งนี้ได้อย่างไร

----------------------------
2 อย่างที่สังคมไทยต้องก้าวข้าม
----------------------------

#ก้าวข้ามผู้ใหญ่หัวโบราณ 
- เราต้องก้าวข้ามผู้ใหญ่ที่ไม่รับฟังความคิดของคนอายุน้อยกว่า และ ตัดสินความคิดคนจากสถานะทางสังคม จากสถาบันการศึกษา จากหน้าที่การงานหรือตำแหน่งหน้าที่

#ก้าวข้ามคนรุ่นใหม่หัวรุนแรง 
- เราต้องก้าวข้ามคนรุ่นใหม่หัวรุนแรง ก้าวร้าว กักขฬะ ที่พร้อมจะถ่มถุยต่อสังคมหรือทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า (โดยไม่รู้ว่าคนรุ่นก่อนก็เคยทำแบบที่พวกคุณทำมาก่อน)

----------------------------
หยุดแบ่งแยก "ซ้าย-ขวา" หรือ "ใหม่-เก่า"
----------------------------

- เราไม่ควรเป็นผู้ใหญ่หัวโบราณที่ยึดติด และ คนรุ่นใหม่หัวรุนแรงที่พร้อมทำลายทุกอย่าง เราไม่ควรแบ่งสังคมให้เป็น "ซ้าย-ขวา" ตามแบบที่นักคิดทางการเมืองบางกลุ่มพยายามทำ

- สังคมจะเดินหน้าได้จำเป็นต้องอาศัยคนอย่างน้อย 3 ช่วงอายุ เราต้องการเด็กรุ่นใหม่ที่มี [พลัง] [ความคิดสร้างสรรค์] และ [ความกล้าหาญ] ที่พร้อมจะผลักดันและเปลี่ยนแปลงสังคม

- เราต้องการผู้อาวุโสที่มี [ประสบการณ์] [วิจารณญาณ] และ [ใจกว้าง] พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษากับคนรุ่นหลัง อย่างมีเมตตา และพร้อมเรียนรู้ไปด้วยกันกับคนรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา

- ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องการคนรุ่นกลางที่คอย #เชื่อมต่อ ความต่างระหว่างวัย โดยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับเยาวชนและวัยรุ่น ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ประสบการณ์ดีๆ จากผู้อาวุโสในสังคม และนำมาถ่ายทอดให้กับรุ่นน้องๆ และจับมือทุกคนเดินหน้าไปด้วยกัน

----------------------------
ข้อคิดที่อยากฝากถึงผู้ใหญ่
----------------------------

- ผู้ใหญ่ควร "เข้าใจ" เด็ก เพราะพวกคุณเองก็เคยผ่านชีวิตวัยนี้มาก่อน สมัยก่อนพวกคุณก็เคยแรง เคยต่อต้านสังคม ไม่ต่างจากคนรุ่นใหม่ในยุคนี้

- ผู้ใหญ่ควร "เข้าใจ" ว่า โลกยุคโซเชียลมันเป็นดาบสองคม ข้อมูลไหลไปมาอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับอารมณ์ของผู้คน

- เด็กยุคนี้โตมาพร้อมกับระบบนิเวศทางสังคมเช่นนี้ ทำให้เขาอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือ เสพถุกชักจูงได้ง่ายจากการปั่นกระแสสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

- แทนที่พวกคุณจะออกมาด่าคืน ซึ่งรังแต่ทำให้ความเกลียดชังเพิ่มขึ้น และสมประสงค์ของพวกที่จงใจปั่นกระแส [สงครามระหว่างวัย]

- วิธีเอาชนะพวกปลูกฝังความเกลียดชังในกับเด็ก คือ การให้ความรักและเมตตา รวมถึงการมอบสิ่งดีๆ ข้อคิดดีๆ ประสบการณ์ที่มีค่า และข้อคิดให้กับเด็กเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย

#จงมอบความรักให้กับพวกเขา

- แล้วพวกคุณจะชนะพวกสร้างความเกลียดชัง แต่ถ้าคุณหลงกลและตกในเกมส์ของพวกเขา เท่ากับว่าพวกคุณแพ้ตั้งแต่แรกแล้ว

- ดังนั้นจงทำความเข้าใจพวกเขา เช่นเดียวกับที่พ่อแม่ของพวกคุณเคยทำความเข้าใจกับพวกคุณมาก่อนเมื่อคุณยังเด็ก

 

----------------------------
ข้อคิดที่อยากฝากถึงคนรุ่นใหม่
----------------------------

- ส่วนเยาวชน คนรุ่นใหม่เอง พวกคุณควรรู้ไว้ด้วยว่า สังคมนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงด้วยคำพูดเสียดสี แซะ แซว ด่าทอ หรือด้วยความหยาบคายและรุนแรงใดๆ

- ไม่เคยมีสักครั้งในหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ความเกลียดชังและการด่าทอนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมที่ดีขึ้น สังคมที่ถูกผู้นำทางการเมืองชี้นำให้เกิดสงครามระหว่างวัย หรือสงครามระหว่างชนชั้นนั้น มันมีแต่นำพาไปสู่ความพินาศและฉิบหายของสังคมเสมอ

- แต่ถ้าพวกคุณอยากเปลี่ยนแปลงสังคม และทำให้เสียงของพวกคุณดังขึ้นมาในสังคมได้ สิ่งที่พวกคุณต้องทำคือ แสดงให้เห็นว่าพวกคุณ #มีดี

- เพราะในโลกความเป็นจริงนั้น เรื่องเดียวกัน ถ้าคนพูดเป็นตาสีตาสา เราอาจเฉยๆ แต่ถ้าเป็นคนมีชื่อเสียง เช่น บิลเกตพูด หรือนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลพูด มักจะมีคนฟังคนทั่วไปพูด ทั้งที่มันอาจเป็นประโยคเดียวกัน....

ทั้งนี้เพราะโลกนี้วัดกันที่ผลงานหรือชื่อเสียง ซึ่งเราหลีกหนีความเป็นจริงตรงนี้ไม่พ้น แต่เราควรเรียนรู้จักมันและเข้าใจมัน

- วันนี้ ถ้าพี่ตูนบอดี้แสลมลงสมัครเป็นนายกฯ ผมเชื่อว่าเขาจะได้รับคะแนนเสียงถล่มทลายจากคนไทยทั่วประเทศ เหนือว่านักการเมืองจากทุกพรรค

- สาเหตุไม่ใช่เพราะเขาเก่งกาจด้านการเมือง หรือ มีวิสัยทัศน์สุดยอด หรือมีความสามารถในการบริหารที่เก่งการเป็นพิเศษ แต่ที่เขาจะชนะหัวใจคนไทยทั้งประเทศ ก็เพราะ

#หัวใจของเขาใหญ่

- ความเสียสละของเขา ทำให้เขาเป็นวีรบุรุษของคนในสังคมไทย ดังนั้นสิ่งที่คนไทยเคารพยกย่องพี่ตูน คือ หัวใจอันน่าเคารพของพี่ตูนที่ทำเพื่อผู้อื่น

- เยาวชนทั้งหลาย...ถ้าคุณมีความสามารถเก่งกาจ ก็แสดงให้สังคมเห็นเป็นที่ประจักษ์ สร้างผลงาน และทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม หรือถ้าคุณอาจไม่มีความสามารถพิเศษที่เก่งกาจ แต่คุณมีหัวใจที่ใหญ่พอ ก็จงทำให้สังคมได้ประจักษ์

แล้วเชื่อเถอะครับ คนจะหันมาฟังพวกคุณ

- เรื่องเดียวกัน แต่คนพูดต่างกัน ย่อมให้ผลตอบรับที่ต่างกัน จงทำตัวเป็นคนที่พูดแล้วผู้อื่นอยากรับฟัง จงทำตัวเป็นคนที่มี [ความกล้าหาญ] [คิดดีทำดี] และมี [ความสุภาพถ่อมตน] ไปในเวลาเดียว

แล้วรับรองครับ...ว่าพวกคุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ ไปพร้อมกับคนทุกเพศทุกวัยในอนาคตได้อย่างแน่นอน

------------------------

#ถ้าเขาอยากให้เกลียด_เราจะให้ความรัก
#ถ้าเขาอยากให้ยาพิษ_เราจะให้วิตามิน
#ถ้าเขาอยากแบ่งแยก_เราจะรวมตัวกัน
#ถ้าเขาอยากให้พัง_เราจะร่วมกันสร้าง

ถึงเวลาเดินหน้าประเทศไทย
มาจับมือและเดินไปด้วยกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ตรรกะผิดเพี้ยน?!? ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหาร เหล่าพรรคการเมืองแห่ชูนโยบายกระทบความมั่นคงชาติ

- สุชาติ ชวางกูร ชำแหละเศรษฐีนักการเมือง! ความจริง2475 รัชกาลที่7รักษาชีวิตคนไทย

- "บิ๊กป๊อก" ปราม "นักการเมือง" อย่าดีแต่พูด! ต้องเป็นนโยบายทำได้จริง ปัดตอบเรื่อง "ดีเบต" ชี้ เป็นสิทธิของคนที่จะไป