- 09 มี.ค. 2562
จากกรณี 7 มีนาคม 2562 ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยเริ่มจากการวินิจฉัยคำร้องสอดของผู้ร้องสอดเข้ามาในคดี และองค์คณะตุลาการได้วินิจฉัยยกทุกคำร้องที่ขอร้องสอดเข้ามาในคดี โดยเห็นว่าไม่ใช่คู่ความ เพราะคดีนี้เกี่ยวข้องกับ กกต. และ พรรคไทยรักษาชาติ เท่านั้น
จากกรณี 7 มีนาคม 2562 ศาลรัฐธรรมนูญเริ่มอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยเริ่มจากการวินิจฉัยคำร้องสอดของผู้ร้องสอดเข้ามาในคดี และองค์คณะตุลาการได้วินิจฉัยยกทุกคำร้องที่ขอร้องสอดเข้ามาในคดี โดยเห็นว่าไม่ใช่คู่ความ เพราะคดีนี้เกี่ยวข้องกับ กกต. และ พรรคไทยรักษาชาติ เท่านั้น
ต่อมาองค์คณะตุลาการ ได้อ่านกำหนดประเด็นแห่งคดี เพื่อวินิจฉัยคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยแยกประเด็นวินิจฉัยออกเป็ร 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.มีเหตุให้สั่งยุบพรรคหรือไม่ 2.คณะกรรมการบริหารพรรคจะถูกเพิกถอนสิทธิ์หรือไม่ และ 3.ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ 10 ปีทำกิจกรรมการเมืองอื่นได้หรือไม่
ทั้งนี้องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการกระทำที่เล็งเห็นได้แต่แรกแล้วว่า จะส่งผลให้ระบอบการเมืองการปกครองแปรเปลี่ยนไป เนื่องจากการขนบประเพณีการปกครองของประเทศ ได้ลำดับความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง
การเสนดชื่อทูลกระหม่อมฯ จึงย่อมมีผลทำให้หลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติรย์ทรงเป็นประมุขได้รับผลกระทบโดยตรง โดยไม่สามารถปฏิเสธได้กับคำว่าล้มล้างหรือเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งมีความหมายชัดเจนในการกระทำใดๆ ที่มีผลต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
หรือเท่ากับว่าหากพรรคใดกระทำเป็นการล้มล้างหรืออาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ย่อมถูกลงโทษทางการเมืองตามกฎหมาย จะอ้างความไม่รู้ให้เป็นเหตุข้อแก้ตัวให้หลุดพ้นข้อหาตามบทบัญญัติกฎหมายไม่ได้
มีมติ ยุบพรรคไทยรักษาชาติ และมีมติเอกฉันท์ห้ามรายชื่อ กก.บริหารพรรคไทยรักษาชาติ จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ รวมถึงเข้าร่วมเป็น กก.บริหารพรรคการเมืองใดเป็นเวลา 10 ปี.
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ล่าสุด 9 มี.ค. 2562 มีความเคลื่อนไหวบนเฟสบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โพสต์ระบุว่า
... ฉากหนึ่งในยุทธภพ ...
ท่ามกลางหยาดพิรุณ
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าบนใบหน้า “เล่งฮู้ชง” มีน้ำตาหรือไม่
อาจบางที ของเหลวสองสิ่งปะปนอยู่ในกันและกัน ?
สำนักหัวซานจบสิ้นแล้ว แต่ภาระหน้าที่ยังไม่จบสิ้น
เมื่อหน้าที่ไม่จบสิ้น ความรับผิดชอบย่อมไม่จบสิ้น
“เล่งฮู้ชง” เพ่งมองที่กระบี่
‘กระบี่ของข้าพเจ้าไร้รังสีการฆ่าฟัน แต่เปี่ยมด้วยรังสีแห่งความผูกพันปรารถนาดีชนิดหนึ่ง’
เป็นความปรารถนาดีต่อเหล่าชาวยุทธ์ ผูกพันกับการกำจัดเภทภัยยุทธภพ
คนผู้หนึ่งออกผาดโผน หากเพิกเฉยต่อชะตากรรมปวงประชา จะนับเป็นอย่างไรได้
“เล่งฮู้ชง” สะพายกระบี่ มือโอบพิณ ออกเดินทาง ...
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-บทเรียนไทยรักษาชาติ! เมื่อ "คนแดนไกล" วางแผนเพื่อตัวเอง แต่คนรับกรรมคือคนรุ่นใหม่ในพรรค?
-มุขเดิมๆ น่าเบื่อ!! "เพจดัง" ขยี้นัยแฝง แถลงการณ์ "อนาคตใหม่" ออกตัวป้อง "ไทยรักษาชาติ" หลัง โดนยุบ!!