- 18 มี.ค. 2562
จดหมายจาก "สุรนันท์" ถึงก๊กโกง "จีทูเจี๊ยะล็อต2" หรือ เหตุฉะนี้จึงโผลชื่อ "เจ๊แดง" เอี่ยว ก่อนหายวับเข้ากลีบเมฆ!
จากเลือนลางก็เริ่มเริ่มชัดเจนมากขึ้นทุกที และแน่นอนว่าทำให้ใครหลายคนร้อนๆหนาวๆถึงกับนั่งไม่ติดเป็นแน่! สำหรับคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือ"จีทูจีล็อตสอง"เพราะรายงานจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
ล่าสุดว่าคณะอนุกรรมการไต่สวนในคดีดังกล่าวได้แจ้งคำสั่งไต่สวนของคณะอนุกรรมการฯโดยส่งเป็นหนังสือไปยังผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 71 ราย โดยในจำนวนนั้นมีชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ สามพี่น้องรวมอยู่ด้วย โดยเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบว่ากำลังจะถูกสอบในเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการเริ่มต้นไต่สวนผู้ถูกพาดพิงและพยานเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตามรายงานยังระบุว่าการส่งหนังสือแจ้งคำสั่งการไต่สวนครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายผลการสอบสวนการระบายข้าวบบจีทูจีล็อตแรกที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 'นาย บุญทรง เตริยาภิรมย์' อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นเวลา 42 ปี รวมทั้งผู้กระทำความผิดรายอื่นอีกหลายคนที่มีทั้งอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นักการเมืองและข้าราชการระดับสูง รวมไปถึงเอกชนที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่านี่คือข่าวร้ายสำหรับ "สามพี่น้อง"ครอบครัวนี้ ขณะเดียวกันยังบังเอิญว่าออกมาในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งพอดี ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปถึงพรรคในเครือข่ายทางใดทางหนึ่งหรือไม่มันก็ทำให้ชวนคิดได้หลายมุมเหมือนกัน
ไม่ว่าจะอย่างไร จากทั้งหมดทั้งมวล หากเกิดขึ้นจริงดั่งรายงานข่าวดังกล่าว ครานี้ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะสามารถสาวไส้ไปถึงใครได้บ้างในจำนวน 71 คนตามรายงานที่ว่านี้ โดยเฉพาะ 'นายทักษิณ' 'ยิ่งลักษณ์' และ'เจ๊แดง-เยาวภา' จะมีความผิดหรือไม่?
ยิ่งไปกว่านั้นที่น่าจับตาก็คือการระบายข้าวแบบจีทูจีมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงไปถึงโครงการรับจำนำข้าวที่อื้อฉาว และที่ผ่านมาก็รับรู้กันว่า "ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ" และเมื่อมีการระบุว่าโครงการดังกล่าวนี้ได้สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เกิดการทุจริตรั่วไหลมากมายหลายคนก็ตั้งคำถามว่าจะสามารถเอาผิดคนที่เหลือได้มากกว่านี้หรือไม่ โดยเฉพาะ"ไอ้โม่ง"ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
สำหรับการระบายข้าวแบบจีทูจีสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีทั้งสิ้น 10 สัญญา โปร่งใส 2 สัญญา (สมัยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็น รมว.พาณิชย์) ส่วนอีก 8 สัญญา พบว่า มีการทุจริตเกิดขึ้น โดย 4 สัญญาแรก เรียกกันโดยทั่วไปว่า คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก
มีนายบุญทรง นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ อดีตข้าราชการระดับสูงในกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และเอกชนเครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง ถูกชี้มูลความผิด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก นายบุญทรง นายภูมิ และจำเลยคนอื่น ๆ ไปแล้ว รวม 17 ราย และยกฟ้องเอกชน-โรงสีข้าวอีก 8 ราย
ส่วน 4 สัญญาหลัง เรียกกันโดยทั่วไปว่า คดีระบายข้าวจีทูจีล็อตสอง เบื้องต้นมีนายบุญทรง ในฐานะ รมว.พาณิชย์ และนางปราณี ศิริพันธุ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (ต่อจากนายมนัส สร้อยพลอย จำเลยคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก) เป็นผู้ถูกกล่าวหา หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แจ้งผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 33 ราย รวมเป็น 35 ราย ได้แก่ 4 รัฐวิสาหกิจจีน
และบุคคลสัญชาติจีนที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐวิสาหกิจจีนดังกล่าว รวมถึงเครือข่ายบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และนายอภิชาติ เป็นผู้ถูกกล่าวหา โดย ป.ป.ช. พบเส้นทางเงินในคดีนี้ประมาณ 9.6 หมื่นล้านบาท และอายัดแคชเชียร์เช็คไว้หลายร้อยใบ มูลค่ากว่า 1.8 พันล้านบาทไว้ตรวจสอบแล้ว
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา แม้ว่า 'บุญทรง' กับพรรคพวกที่เป็นทั้งนักการเมือง ข้าราชการต่างๆ และเอกชนจะถูกพิพากษารับโทษตามความผิดคนละหลายสิบปี ถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว แต่สังคมก็ยังเชื่อว่ายังมี"ผู้บงการ""ที่ยังลอยนวล ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังมีวลีลือลั่นที่ออกมาจากปากของ บุญทรง เองว่า "กูพูดไม่ได้" ก็ยิ่งทำให้สิ่งที่สังคมปักใจเชื่อว่าผู้บงการหรือตัวการใหญ่ยังมีอยู่จริง
แต่เห็นทีว่าเรื่องที่ส่งแรงกระเพื่อมในครั้งนี้ คงจะหนีไม่พ้นหลังจากมีการเคลื่อนไหวย้ายพรรค ของ 'เดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์' "ลูกชายบุญทรง"พร้อมกับการให้สัมภาษณ์เปิดใจในทำนองว่าเกิดความระแวงไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ
โดยเฉพาะคำพูดที่ระบุให้เข้าใจว่า "มีการเหยียบย่ำซ้ำเติมจากทนายความของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมๆกับข่าวการเปิดเผยข้อมูลในทางลับกับฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่มีการสอบสวนในทางลับมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมา สุภา ปิยะจิตติ กรรมการปปช.ได้เคยให้ข้อมูลเมื่อกลางเดือนมกราคมว่าปปช.กำลังไต่สวนคดีระบายข้าวและมันสำปะหลังแบบจีทูจี ซึ่งอาจนำไปสู่การส่งคำสั่งการไต่สวนให้กับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามก็เป็นได้
นอกจากนี้สำหรับข้อมูลตัวบุคคลนั้น ประชาชนต่างทราบกันดีว่า 2 พี่น้อง ได้ชิงหลบหนีคดีไปต่างประเทศนานแล้ว ยังเหลืออีก1คน คือ 'เจ๊แดง' เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แต่พักหลังก็ทำตัวเสมือนนินจา แวบไปแวบมา ไม่ปรากฏตัวให้เห็นมานานหลายเดือนเฉกเช่นกัน แม้แต่ช่วงออกหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการตั้งข้อสังเกตว่าเธอหายตัวไปตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวว่า ปปช.กำลังมีการสอบสวนในคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตสอง
จากวันนั้นจวบจนบัดนี้ก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ มีเพียง 'สมชาย วงศ์สวัสดิ์' สามีของเธอเท่านั้นที่เคยเคลื่อนไหวช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดหนองคายเมื่อราววันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เป็นที่น่าสงสัย และชวนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเจ๊แดงมีชื่อโผล่เอี่ยวคดีดังกล่าว ทั้งๆที่ในรัฐบาลเจ๊แดงไม่มีตำแหน่งอะไร หรือไม่? หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่า หรือจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับจดหมายของ'สุรนันทน์'หรือไม่? ย้อนกลับไปอ่านอย่างละเอียด สำหรับข้อความที่คุย "นายสุรนันท์"โพสต์ถึง"นายบุญทรง" ประเด็นแรกที่อยากให้จับประเด็นคือ"นายสุรนันท์"
บอกว่าวันหนึ่ง"นายสุรนันท์"ในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก็แวะไปคุยกับ"นายบุญทรง"เจอแฟ้มเต็มโต๊ะก็เลยพลิกดูแล้วถามว่าใครดูให้แต่ละเรื่องน่ากลัว "นายสุรนันท์"กลัวอะไรถึงบอกว่าเรื่องที่น่ากลัว ... หรือ กลัวเพราะมีอะไรซ่อนเร้นไว้มากกว่านี้หรือเปล่า
เพราะหากเรื่องปกติธรรมดาบริหารราชการแผ่นดินก็ทำไปไม่เห็นมีอะไร จะต้องกลัวอะไร ขณะที่บุญทรงตอบว่า "กูมีทีม" ซึ่งการที่"นาย บุญทรง" สวนกลับเช่นนี้ แสดงถึง"นายบุญทรง" ครุ่นคิดอยู่ก่อนแล้วเหมือนกัน คำว่ามีทีมก็คงจะสาวเรื่องตรวจสอบแต่ไม่เพียงเท่านั้น
"นายสุรนันท์" เขียนต่อไปอีกว่า "แต่เวลาคุณยิ่งลักษณ์ไปต่างประเทศบางทีคุยกัน นายสุรนันท์บอกว่าคุณบุญทรงมีแววตาที่มีความกังวล" ...คำถามต่อไปนายบุญทรงกังวล กังวลเรื่องอะไร? "นายสุรนันท์" ก็บอกต่อว่า "ในช่วงวิกฤตมีงานหลายด้านแต่ไม่วายห่วงเพื่อน ส่งเรื่องจากทำเนียบก็เคยเตือนว่าเลือกไปแล้วให้รีบจัดการ เราเป็นเพียงเสมียน ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมด แต่รู้สึกเสมอว่าเพื่อนไม่สบายใจ"
และสำหรับคำว่า “เสมียน” เป็นพนักงานทำเอกสารปกติธรรมดาคนหนึ่ง แต่ขณะนั้น"นายบุญทรง" มีตำแหน่งรัฐมนตรีมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน ในกระทรวงนั้นคนสำคัญใน"พรรคเพื่อไทยเอง" การที่"นายสุรนันท์"ออกมาบอกว่าเพื่อนเขาที่ชื่อ”บุญทรง”ที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เป็นแค่เสมียน และรู้ได้อีกว่าเพื่อนไม่สบายใจ ก็แสดงว่ามีคนบงการ มีคนที่ใหญ่กว่า "เสมียนบุญทรง" ยังไม่จบสำหรับจดหมายของนายสุรนันท์ต้องถอดให้ละเอียด..
"หลังพายุพัดผ่าน นั่งจิบไวน์คุยกันสองคน ผมถามเล่าให้กูฟังหน่อยว่าเรื่องเป็นยังไง ผมนับถือน้ำใจมันที่ตอบ "กูพูดไม่ได้" เราร่ำสุราจนดึกแล้วไม่แตะเรื่องนั้นอีกเลย ทางการเมืองบางเรื่องต้องตายไปกับเรา พูดไม่ได้ ผมเข้าใจดีและผมเห็นใจเพื่อน..." ประโยคนี้สำคัญ "เห็นใจเพื่อนที่เข้าไปติดกับเงื่อนไขนั้น ขณะนี้เงื่อนไขดังกล่าวยังคงเป็นปริศนา
กระนี้ "นายสุรนันท์"บอกตัวเองโชคดีที่ไม่ไปติดกับเงื่อนไข แต่นายบุญทรงไม่โชคดีเท่า จึงต้องติดคุก ก็เพราะเรื่องการทุจริตเพราะฉะนั้นในการทุจริตโครงการจำนำข้าวตามศาลพิพากษาคดี"จีทูจี"แสดงว่านายบุญทรงไม่ได้เป็นคนได้ประโยชน์หรืออาจจะได้ก็เป็นแค่เศษเสี้ยวเพราะเป็นแค่เสมียน เสมียนควรจะได้กินของดี ๆ หรือ? เสมียนคงจะได้ของใหญ่ ๆ หรือ? ก็ต้องมีคนกินอยู่แต่เราไม่รู้ "เจ็บปวดตัวเองถูกใช้ในฐานะเสมียน"
ท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร เจ๊แดงจะเอี่ยวจริง หรือไม่จริง? ก็ต้องรอ ปปช.สอบสวนทำความจริงออกมา ทั้งนี้ที่สำคัญก็คงต้องรอฟังเจ๊แดงชี้แจงด้วย ว่าข้อเท็จจริงมีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร และจากจดหมายของสุรนันท์ก็ทำให้ความคลุมเครือต่อกรณีดังกล่าวมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นเหตทำให้เจ๊แดง หายเข้ากลีบเมฆ หรือ เก็บตัวเงียบ จนถึงทุกวันนี้ก็เป็นได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เจ๊แดง" ว่าไง? หลัง "บุญทรง" เปิดปาก ย้ำข้อมูล "เสริมสุข" ท่าจะจริง
- เคลื่อนไหวแล้ว !! "เสริมสุข" ไร้กังวล หลังเจ๊แดงฟ้อง มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม!!