- 27 มี.ค. 2562
"นักวิชาการ" เปิดโปงความสำเร็จของ "อนาคตใหม่" คือการแบ่งแยกสร้างความชิงชังให้เกิดสงคราม-ความเกลียดชัง ระหว่างวัย ครั้งนี้รุนแรงมาก ชนิดที่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศ คนที่เรียกตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งสนับสนุนอนาคตใหม่นั้น มีความเกรี้ยวกราดรุนแรง และคิดว่าฝ่ายตัวเองเท่านั้นคือความถูกต้องเที่ยงธรรม
วันนี้ (27 มีนาคม) บนเฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasith ซึ่งเป็นของ 'ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์' นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นใน หัวข้อ การแบ่งแยกให้เกิดสงครามระหว่างวัย และการสร้างความชิงชังระหว่างคนไทย ความสำเร็จอันหนึ่งในการหาเสียงของ อนาคตใหม่และเครือข่ายของพวกเขา
------------------------
สงครามระหว่างวัย
------------------------
- กลยุทธ์การแบ่งแยกผู้คนอันหนึ่งที่สำเร็จที่สุดและสร้างความร้าวฉานให้กับสังคมไทยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงที่ผ่านมา ก็คือ การแบ่งแยกเป็น #สงครามระหว่างวัย
- ซึ่งถูกปลุกระดมมาตลอดทั้งจากตัวผู้นำในพรรคอนาคตใหม่เอง รวมไปถึงบรรดานักเขียนชื่อดังที่ร่วมสนับสนุนแนวทางเคลื่อนไหวของฝั่งเสื้อแดงอย่าง โตมร สุขปรีชา และคำผกา เป็นต้น
- [สงครามระหว่างวัย] ครั้งนี้รุนแรงมาก ชนิดที่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศ คนที่เรียกตัวเองเป็นคนรุ่นใหม่ซึ่งสนับสนุนอนาคตใหม่นั้น มีความเกรี้ยวกราดรุนแรง และคิดว่าฝ่ายตัวเองเท่านั้นคือความถูกต้องเที่ยงธรรม
- พวกเขาจะรวมตัวกันเข้าไปถล่มตามเพจต่างๆ หรือหยาบคายกักขฬะ ทุกอย่างใส่คนที่บังอาจมาวิจารณ์ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ จนตอนนี้หลายคนขนานนามพวกนี้ว่า "ยุวชนส้ม" หรือ "Orange Guard"
------------------------
ความเกลียดชังต่อคนต่างวัย (แม้แต่ครอบครัวของตนเอง)
------------------------
- ในช่วงที่ผ่านมา เราคงได้เห็นกันไปเยอะมากแล้วกับ ความเกรี้ยวกราดของ [คนรุ่นใหม่] โดยคนเหล่านี้ถูกปลุกปั่นด้วยข้อมูลบิดเบือนจำนวนมาก
- พวกเขาหลงคิดว่าประเทศไทยกำลังล่มสลาย ประเทศมีแต่หนี้สิน ต่างชาติไม่มาลงทุน คนกำลังจะอดตาย บลาๆๆ และมีเพียงธนาธรกับฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะมาปลดปล่อยพวกเขาให้รอดพ้นได้
- พวกเขาเหล่านี้ถูกปั่นด้วยวาทกรรมบิดเบือนต่างๆ จนตอนนี้เหมือนกับ #พวกคลั่งลัทธิ ที่พร้อมจะเข้าไปรุมถล่มคนเห็นต่างในเพจต่างๆ ได้เสมอ และพวกเขาจะไม่รับข้อมูลเชิงประจักษ์ใดๆ ทั้งสิ้น
- นอกจากนี้สิ่งที่พวกคุณจะเห็นได้ก็คือ คอมเมนต์ที่หยาบคาย กักขฬะ ผรุสวาท แสดงความเกลียดชังต่อคนเห็นต่าง, คนต่างวัย หรือแม้แต่ #คนในครอบครัวของตัวเอง ที่ไม่ยอมเลือกตามแบบตนเอง
------------------------
มีทั้งคำผรุสวาทแสดงความเกลียดชัง เช่น
- ไอ้พวกแก่กระโหลกกะลา
- คนรุ่นใหม่ต้องดีกว่าคนรุ่นเก่าสิวะ
- (คนรุ่นใหม่)ต้องฉลาดกว่า(คนรุ่นเก่า)
- ไอ้พวกตกยุค เอาแต่ย่ำถอยหลัง
- ก็แค่คนแก่คนวัยตาย
มีทั้งที่ดูถูกคนมีอายุกว่า หรือแม้แต่คนชนบท
ว่าเห็นแก่เงิน รับเงินแล้วไม่สนอนาคตประเทศ
- คนไทยเห็นแก่เงิน บ้าบุญคุณ
- คนแก่เห็นเงินมากกว่าอนาคตประเทศ
มีทั้งที่ประชดถ้า พ่อ-แม่ ปู่-ย่า ตา-ยาย
(ของตัวเอง) เลือก พปชร.จะส่งไปบ้านคนชรา
จะไม่ให้เศษเงินแม้แต่บาทเดียวกับคนเหล่านั้น
- ปู่ย่าตายายที่เลือก พปชร.เตรียมเก็บของไปอยุ่บ้านพักคนชราได้เลย
- ขอหยาบๆ กูบอกเลย จะไม่ให้เงินกระเดือนกระเด็นถึงมือแม้แต่บาทเดียว จะปล่อยให้รอเงินในบัตรคนจนนั่นแหละ อยากได้มันนักนี่ ไม่ต้องมาแบมือขอเงินลูกหลาน
เหล่านี้เป็นต้น
------------------------
*** ซึ่งนี่เป็นเพียวตัวอย่างเล็กๆ ในจำนวนความเห็นนับหมื่นนับพันในโลกโซเชียลในเวลานี้ ที่ทุกคนคงได้เห็นกันแล้ว และผมคิดว่านับวันมันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
*** และที่น่ากลัวคือ เราเห็นความเห็นพวกนี้ ได้รับการกดถูกใจกันทีหลักเป็นร้อย คนร่วม 200-300 คนมาถูกใจคำหยาบคาย รุนแรง เกลียดชังต่อคนระหว่างวัยเช่นนี้
#แสดงให้เห็นเลยว่าสังคมไทยกำลังวิกฤตหนัก ก็ต้องยอมรับว่าอนาคตใหม่และเครือข่ายของพวกเขา ทำสำเร็จที่สร้างความเกลียดชังและสงครามระหว่างวัยเช่นนี้ขึ้นมาได้...
------------------------
แล้วเราควรจะทำอย่างไร ?
------------------------
- คำถามคือ แล้วพวกเราจะปล่อยให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้หรือครับ จะรอให้ถึงวันที่เยาวชนรุ่นที่โตขึ้นมา พร้อมกับบริบทที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข่าวสารข้อมูล จะให้พวกเขาโตขึ้นมากับการถูกปลูกฝังความเกลียดชังระหว่างวัยเช่นนี้ไปเรื่อยๆ หรือครับ ?
- หรือว่าเราควรจะลุกขึ้นมาทำอะไรที่ทำให้พวกเขาได้สติ และให้เยาวชนที่ยังอยู่ในร่องในรอย รุ้ตัวว่าเขายังมีที่ยืน และไม่จำเป็นต้องตามไปกับกระแสแห่งความเกลียดชังครั้งนี้
- เราควรต่อสู้กับสงครามข้อมูลข่าวสาร การบิดเบือน สงครามวัฒนธรรม การก่อม็อบและสร้างความเกลียดชังในโลกไซเบอร์ ซึ่งเป็นสมรภูมิครั้งใหม่ ที่เราทุกคนต้องเผชิญจากนี้ยังไง?
นี่คือโจทย์ใหญ่ของสังคมไทยในวันนี้ครับ!
------------------------
บทเสริม: ยุวชนส้ม (Orange Guard)
------------------------
- "ยุวชนส้ม" เป็นคำที่ล้อไปกับ #ยุวชนแดง หรือ Red Guard สมัยปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีน (1967-1977) ที่มีการปลุกระดมวัยรุ่นให้นิยมความรุนแรง และเทิดทูนบูชาลัทธิเหมาอย่างบ้าคลั่ง
- พร้อมด้วยอุดมการณ์ที่ว่าต้องทำลายโลกเก่า (4 สิ่งเก่า) และสร้างโลกใหม่ในอุดมคติของผู้นำความคิดของพวกเขาขึ้นมา
- จนนำไปสู่การพุ่งความเกลียดชังไปยังคนรุ่นก่อน มีการทำร้ายครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง (ของตัวเอง) และคนที่พวกเขาเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการอภิวัฒน์สังคมไปสู่โลกใหม่ในอุดมคติ
- สุดท้ายเมื่อการเมืองเปลี่ยน ผู้นำเหล่านี้ถูกกวาดล้าง ทำให้เยาวชนพวกนี้ถูกเหมา ส่งไปทำงานในชนบท เพื่อลดความรุนแรงที่ตนเองไม่อาจควบคุมได้
- ในขณะที่คนรุ่นต่อมาคือรุ่น 30-40 ซึ่งเป็นรุ่นลูกของยุวชนแดง และเป็นผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบัน ขนานนามพวกยุวชนแดงเหล่านี้ (ซึ่งเป็นพ่อแม่ตัวเอง) ว่าเป็น [รุ่นที่ล้มเหลว]
- คือเป็น [ผู้ใหญ่ที่ล้มเหลว] ที่ในวัยเด็ก #คลั่งลัทธิอุดมการณ์ จนทำลายวัฒนธรรม ทำลายสังคม ทำลายศาสนา ทำลายประเพณี ทำลายทุกอย่าง แม้แต่ครอบครัวตัวเอง
จนพวกเขามองว่าที่คนจีนทุกวันนี้ "กักขฬะ" และ "หยาบคาย" ก็เพราะมรดกที่คนรุ่นที่เรียกตัวเองว่า "พวกหัวก้าวหน้า" เหล่านี้ทำไว้...
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เพจดัง" ขยี้คลิปสัมภาษณ์ "ธนาธร-ทักษิณ" ตอกกลับ "เคยรู้ข้อกฎหมายหรือไม่" ซัด อย่าใช้วาทกรรม" ถูกกระบวนการยุติธรรมรังแก"
- "เนชั่น" ยันเสนอข่าวตามมาตรฐานวิชาชีพ-ไม่ได้เอ่ยชื่อพาดพิงใคร เปิดโอกาส"ธนาธร"แจง กลับฉวยโอกาสโจมตี
- ได้ยินชัดไหม? ขุดดีเบต "เจ๊หน่อย" เพื่อไทย ไม่เคยยกตำแหน่งนายกฯให้ อนุทิน-ธนาธร" แต่อย่างใด!