- 28 มี.ค. 2562
ทหารพระราชา-ปรัชญาสูงสุดในชีวิต! ผบ.เหล่าทัพน้อมนำพระบรมราโชวาท "ในหลวง ร.9" "เลือกคนดีเข้ามาบริหารแผ่นดิน"ทั้งนี้ไม่ว่าใครมาเป็นผู้นำรัฐบาลก็แล้วแต่ ทหาร ตำรวจ ก็จะเป็นกลไกใช่หรือไม่ พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า ทหาร ตำรวจเป็นส่วนราชการ เป็นกลไกทางราชการ ซึ่งต้องปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดๆก็ตาม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดที่จะมาทำหน้าที่ในการเป็นรัฐบาล ทหารและตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามนโยบาย และแนวทางที่รัฐบาลกำหนด
วันนี้ 28 มีนาคม พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหมผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้แถลงจุดยืนของกองทัพในการปกป้องสถาบันของประเทศชาติในว่า จุดยืนของทหารตำรวจไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จุดยืนของทหารตำรวจคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความอยู่ดีมีสุขของประชาชนไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ส่วนความเป็น คสช. ความเป็นแม่น้ำ 5 สาย ก็จะมีโรดแมปก็จะต้องหมดไปตามระยะเวลาตรงนั้น ไม่มีเรื่องใดที่จะต้องเป็นกังวล การบริหารงานของรัฐบาลในเวลาต่อไปเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย และตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดเอาไว้
สำหรับสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ในส่วนของ ผบ. เหล่าทัพ มองอย่างไร พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า ในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้เป็นอย่างไรบ้างหลังจากที่มีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว พลเอกพรพิพัฒต้องขอขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องที่ได้ทำให้เกิดความเรียบร้อยในห้วงระหว่างก่อน ระหว่างและหลังการเลือกตั้ง ผบทบ.ในฐานะเลขาธิการคสช ก็คลายความกังวล
เพราะทุกอย่างเป็นไปตาม Road Map ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ส่วนผลของการเลือกตั้งเท่าที่ได้ติดตามดู ดูในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความปกติ ส่วนการพยายามที่จะรวมเป็นรัฐบาลโดยคะแนนข้างใดนั้น ก็ขอให้เป็นเรื่องทางฝ่ายการเมือง ทหาร ตำรวจจ ะปฏิบัติหน้าที่ในรักษาความสงบ และป้องกันเอกราชอธิปไตยของประเทศชาติต่อไปตามปกติ
เมื่อถามว่า ไม่ว่าใครมาเป็นผู้นำรัฐบาลก็แล้วแต่ ทหาร ตำรวจ ก็จะเป็นกลไกใช่หรือไม่ พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า ทหาร ตำรวจเป็นส่วนราชการ เป็นกลไกทางราชการ ซึ่งต้องปฏิบัติงานตามคำสั่งของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดๆก็ตาม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดที่จะมาทำหน้าที่ในการเป็นรัฐบาล ทหารและตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามนโยบาย และแนวทางที่รัฐบาลกำหนด
เมื่อวานนี้ 6 พรรคการเมือง ลงสัตยาบันต่อต้านการสืบทอดอำนาจ คสช. และชูนโยบายปฏิรูปกองทัพ ผบ.เหล่าทัพ คิดอย่างไรในฐานะที่ผเป็นส่วนหนึ่งของ คสช. พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า ข้อสอบต้องยุติไปตาม Road Map อยู่แล้ว เมื่อตั้งรัฐบาล ความเป็น คสช. ก็พ้นไป โดยธรรมชาติ ไม่เห็นว่าจะมีโอกาสที่เป็นการสืบทอดอำนาจตามวาทะที่ได้พูดกันในระยะนี้ ไม่มีอะไรที่จะเป็นเรื่องน่ากังวล
ส่วนการปรับปรุงพัฒนากองทัพ ถ้าคำสั่งถ้าแนวทาง หรือแนวนโยบายแห่งรัฐ เป็นเรื่องที่ได้คิดใคร่ครวญอย่างเหมาะสมแล้วว่าทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มีเสถียรภาพ ไม่ถูกรุกรานจากประเทศภายนอก ทุกอย่างก็สามารถที่จะปรับได้ ตามที่รัฐบาลกำหนดนโยบายให้กับกองทัพ และตำรวจปฏิบัติ
ถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า เราจะสามารถทำตามพระบรมราโชวาท ในเรื่องของการให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง หรือดูแววแล้วว่าจะมีคนไม่ดีมาปกครอง บ้านเมือง พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่ เป็นความเร่งด่วนสูงสุดที่กองทัพหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติพยายามจะพูดแต่ทุกครั้งและทุกโอกาสการดำเนินการทุกประการตามแนวพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ถือว่ามีความลึกซึ้งและเป็นปรัชญาสูงสุด เราไม่สามารถทําให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่ว่าเราสามารถที่จะเลือกคนดีเข้ามาบริหารแผ่นดินได้ และเราทุกคนเองแม้กระทั่งในสังคมทหารตำรวจ เราก็พยายามยึดมั่นอยู่กับแนวปฏิบัติ ก็คือพยายามให้ทุกคนก็ตามที่เป็นคนดีขึ้นมาเป็นผู้ปกครองเป็นผู้บังคับบัญชา
ถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่า หลังการเลือกตั้งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการทุจริต พลเอกพรพิพัฒน์กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องให้เวลากับทาง กกต. และต้องเชื่อมั่นในกลไกของรัฐก่อน เมื่อพบข้อบกพร่องก็ต้องแก้ไขและในข้อแก้ไขก็ต้องใช้เวลาพอสมควรถ้าให้โอกาสกกตมากกว่าการจู่โจม ด้วยคำพูดจนเขาไม่สามารถ ตั้งตัวได้ และทำลายความน่าเชื่อถือ แม้บางเรื่อง จะเป็นเรื่องจริงแต่เราเลือกที่จะไม่เชื่อ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกกต. บ้าง ตามสมควร
ถามว่า หากพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี กองทัพมีจุดยืนอย่างไรจะรับได้หรือไม่ พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า กองทัพกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ภายใต้รัฐบาลมาเป็นสิบเป็นร้อยปี อยู่ภายใต้การนำของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยทุกแบบ ดังนั้นไม่มีปัญหาว่ากองทัพจะปฏิบัติงานภายใต้ของรัฐบาลใด หรือภายใต้นายกรัฐมนตรีท่านไหน
ถามว่า สุดท้ายแล้วการเลือกตั้ง ไม่สามารถได้ผลสรุปที่ดีได้ ยืนยันหรือไม่ว่าจะไม่มีการรัฐประหาร หรือปฏิวัติเกิดขึ้นอีก พลเอกพรพิพัฒน์กล่าวว่า อย่าไปตั้งเป้าว่าจบไม่ดี คนไทยต้องคิดบวก เราอุตส่าห์เดินทางตาม Road Map มาถึงขั้นที่เรามีการเลือกตั้งและได้ผลการเลือกตั้ง มันแค่ช่วงระยะเวลาจากนี้รอจนกระทั่งกกตประกาศยืนยันว่าใคร หรือยืนยันรายชื่อ หลังจากนี้ทุกอย่างก็จะเกิดการฟอร์มรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ในที่สุดก็จะสามารถมีรัฐบาลที่ได้เสียงข้างมากจนได้
เมื่อถามถึงกรณีการถอดชื่อ ทักษิณออกจากศิษย์เก่าดีเด่น และริบรางวัลเกียรติยศจักรดาว พลเอกพรพิพัฒน์กล่าวว่า ก็เป็นการดำเนินการของมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเป็นผู้แทนจากรุ่นต่างๆเข้ามาเป็นองค์ประกอบ ของคณะกรรมการ ก็เป็นเรื่องภายใน ซึ่งรางวัลเป็นรางวัลเกียรติยศ ผู้รับย่อมต้องรักษาเกียรติแห่งรางวัลนั้นไว้ ถ้ามีข้อมูลในทางใดที่ผู้รับไม่สามารถจะรักษาเกียรติแห่งรางวัลนั้นไว้ได้ ก็ต้องเรียกคืน
ถามว่าพฤติกรรมอย่างไรของนายทักษิณ ที่ไม่สมควรที่จะได้รับรางวัลนี้ต่อไป ช่วยยกตัวอย่างได้หรือไม่ พลเอกพรพิพัฒน์กล่าวว่า จริงๆสื่อมวลชน และคนไทยก็อาจจะทราบข้อมูลพวกนั้นอยู่แล้ว ในเว็บไซต์หรือโลก Social หลายๆแห่ง แต่ว่าสิ่งที่รบกวนจรรยาบรรณของทหารและหลักนิยมของทางทหาร ก็คือการใดก็ตามที่เป็นการจาบจ้วง ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ ก็ต้องถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ
ถามว่า ทำไมถึงเลือกช่วงเวลานี้ในการตัดสิน พลเอกพรพิพัฒน์ กล่าวว่า มันก็มีช้า มีเร็วได้ เป็นปกติ แต่เมื่อพบว่า มีอะไรที่สมควรต้องดำเนินการ ก็ถึงเวลาที่ต้องดำเนินการ เพื่อให้จบกระบวนการขั้นตอนไป
ถามว่า มันเกี่ยวข้องกับภาพเหตุการณ์ที่ฮ่องกง หรือไม่ ตอบว่าไม่ครับ ก็เป็นเรื่องทั่วๆไป เมื่อข้อมูลมาถึงจุดๆหนึ่ง จะต้องดำเนินการ อย่างใดอย่างหนึ่ง เราก็ต้องเลือกระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่อยากให้เป็นผลกระทบที่ส่งไปในเรื่องทางการเมือง
ถามว่าของนายทักษิณเป็นคนแรก ของโรงเรียนที่ถูกถอดชื่อและริบรางวัล พลเอกพรพิพัฒน์กล่าวว่า ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับรางวัลเขาก็สามารถรักษาเกียรติแห่งรางวัลนั้นไว้ได้ทุกคน ซึ่งศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร และคนที่เป็นทหาร ตำรวจ
ผมเชื่อว่าเป็นคนไทยทุกคนเช่นเดียวกัน ก็จะมีมาตรฐานทางจริยธรรมและมาตรฐานของความจงรักภักดี ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติที่เรายึดถือ และรู้ระมัดระวังที่จะไม่ล่วงเกินในทางใดทางหนึ่ง หากผู้ใดได้ทำการกระทำล่วงละเมิด ล่วงเกินอย่างที่ได้เรียนไว้ ไม่รู้ว่าอะไรสูง ไม่รู้ว่าอะไรต่ำ ก็ต้องใช้มาตรการทางใดทางหนึ่งและหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นมาตรฐานที่คนไทยทุกคนพึงปฏิบัติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "บิ๊กแดง" น้อมนำพระบรมราโชวาท ปลื้มในหลวงร.10 ทรงเตือนสติคนไทย (คลิป)
- ม.จ. จุลเจิม โพสต์ หลัง ในหลวง ร.10 อัญเชิญพระบรมราโชวาท ร.9