- 19 เม.ย. 2562
ราเมศจัดหนักให้ชูวิทย์มาคุยที่พรรคได้ แนะอย่าใช้สันดานตามนิสัยติดตัว บอกรุ่นพ่อแล้วอย่าให้สอน
จากกรณีวันนี้(19 เม.ย. ) นายราเมศ รัตนะเชวง กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมากล่าวถึงการที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะโจมตีพรรคประชาธิปัตย์โดยข้อความส่วนหนึ่งที่นายราเมศชี้แจงพร้อมตอบโต้ ระบุว่า ตนจะขอชี้แจงด้วยถ้อยคำสุภาพ ด้วยเหตุด้วยผล จะไม่ใช่คำว่าสันดานเหมือนที่นายชูวิทย์ ใช้ตามนิสัยใจคอที่มีติดตัวมา การวิพากษ์วิจารณ์พรรคสามารถทำได้แต่ต้องมีเหตุมีผล จะต้องไม่บิดเบือนความจริง
“พรรคประชาธิปัตย์เปรียบเสมือนบ้านผมเมื่อถูกใส่ร้ายผมก็ต้องออกมาชี้แจง และเชื่อว่าถ้ามีคนด่าคนที่อยู่ในบ้าน คุณชูวิทย์ก็ต้องออกมาปกป้องเช่นกันและต้องบอกว่าที่ผมออกมาปกป้องไม่ใช่มีเวลาว่าง เพราะประชาชนที่เดินทางมาขอความช่วยเหลือในทุกวันที่พรรคมีมากเกินกว่าที่คุณชูวิทย์จะรู้ได้ ผมจะไม่ด่าคุณชูวิทย์และจะไม่ชมพรรคของผมเองแต่จะพูดความจริงเพียงเท่านั้น
คุณชูวิทย์ด่าโดยใช้คำว่าสันดานประชาธิปัตย์ คำพูดนี้ถึงแม้ว่าเป็นคำที่บอกนิสัยคุณชูวิทย์มากที่สุดก็ไม่ควรใช้ ผมรุ่นลูกคุณชูวิทย์ไม่กล้าสอนเพียงแต่อยากขอให้เลิกใช้คำหยาบเพราะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ลูกหลานได้ พอใช้คำแบบนี้ประชาชนจะนึกถึงภาพเก่า ๆ ของคุณชูวิทย์ทันที”
ทั้งนี้นายราเมศ ยังกล่าวอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองคือความจริง เพราะพรรคที่ไม่เป็นสถาบันทางการเมืองตั้งมาเฉพาะกิจก็จะล้มหายตายจากไปจากการเมืองไทย นายชูวิทย์ทราบดีเพราะเคยตั้งพรรคการเมือง พรรคเราประชาชนติติงได้ พร้อมรับฟังทุกความเห็นแต่ประชาชนไม่ได้พูดแบบนิสัยนายชูวิทย์ พรรคและคนในพรรคไม่เคยคิดว่าสูงส่งกว่าคนอื่น แต่เราไม่คิดที่จะดูถูกคนอื่นด้วยวิธีการแบบที่นายชูวิทย์ทำ
“การแพ้เลือกตั้งไม่ได้เป็นอุปสรรคในการนำพาพรรคเพื่อก้าวไปข้างหน้า เพื่อประชาชน เพื่อประเทศ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันอยู่ในสถานะใดในทางการเมืองก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้ พร้อมเป็นได้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน และพิสูจน์ให้เห็นมาแล้วแม้ว่าจะไม่มีสภาไม่มีตำแหน่งใด แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยหยุดทำงานที่ทำการพรรคไม่เคยปิดทำการแม้แต่วันเดียวเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน”
นอกจากนี้ นายราเมศ ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ยังมีตัวอย่างที่ดีอีกมาก ถ้านายชูวิทย์ สะดวกมาที่พรรค ตนเองจะอธิบายให้ฟัง นายชูวิทย์ควรเรียกร้องให้นักการเมืองที่คิดแต่เรื่องทุจริตหยุดพักจะดีกว่า ส่วนนายชูวิทย์นั้น ตนไม่ทราบว่าหยุดพักเพราะเหตุใด
“ความคิดเห็นในพรรคประชาธิปัตย์แตกต่างกันบ้างเป็นเรื่องปกติแต่สำหรับประเด็นเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์มีกระบวนการขั้นตอนตามกฎเกณฑ์กติกา ใครจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็สามารถคิดได้แต่ท้ายที่สุดมติพรรคที่มาจากการตัดสินใจของสมาชิกจะเป็นตัวกำหนด และทุกคนก็เคารพมติพรรค พรรคประชาธิปัตย์เรามีหลักวางใจได้ว่าคิดทำสิ่งใดเราคิดเพื่อประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง” นายราเมศ กล่าวทิ้งท้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง