- 22 เม.ย. 2562
ฮุนเซนหนุนประยุทธ์นั่งนายกฯต่อ หยอดหวานร่วมมา12รัฐบาลไทย เผยชุดนี้ดีสุดยันไม่ให้ใครใช้กัมพูาเคลื่อนไหวต้าน
จากกรณีวันนี้(22เม.ย.) ที่โรงแรมอินโดจีน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช. ) กล่าวภายหลังเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า วันนี้ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ โครงการรถไฟไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยมีการเดินรถไฟมา 45 ปีแล้ว ไทยกัมพูชามีความสัมพันธ์มายาวนาน จะครบรอบ 70 ปีในปีหน้านี้แล้ว ถือเป็นการฉลองการเริ่มต้น ในปีหน้า ซึ่งวันนี้ได้มีการมอบตู้รถไฟดีเซลรางไป 4 ตู้ และมีการดำเนินการสร้างสะพานใหม่ และเส้นทางใหม่ที่หนองเอียน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชื่นมื่น นายกไทยฯ -กัมพูชา ร่วมพิธีเปิด สถานีรถไฟ บ้านคลองลึก - สถานีปอยเปต
ทั้งนี้ได้เปิดสถานีรถไฟบ้านคลองลึก ซึ่งวันข้างหน้าจะอำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้นในการโดยสารรถไฟ และวันนี้ทราบว่ามีเส้นทางสามารถเดินทางไปถึงกรุงพนมเปญ โดยเราจะไปช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย ต่างๆต่อไปในอนาคต
พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา บอกว่าวันนี้ถือเป็นยุคที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ในการร่วมมือทำงานกับรัฐบาลช่วงนี้ 5 ปีที่ผ่านมา เพราะสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อยู่มายาวนาน 34 ปีแล้ว ทำงานกับรัฐบาลไทยมา 12 รัฐบาล 12 นายกรัฐมนตรีแล้วเขาบอกว่ารัฐบาลนี้ทำดีที่สุด ซึ่งถือว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ภายในของเรา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอความร่วมมืออะไรกับรัฐบาลไทยหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า มีเรื่องการสัญจรไปมาข้ามแดนต่างๆ และการกำหนดจำนวนรถผ่านแดนอะไรต่างๆเหล่านี้ซึ่งเราก็ดำเนินการอยู่แล้ว ที่สำคัญได้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่ายตนได้บอกทางกัมพูชาไปว่าถ้าเราทำเรื่องกฎกติการะเบียบข้ามแดนเฉพาะเรากับกัมพูชา มันก็ไปไหนไม่ได้อีก จึงเสนอให้เขาประสานประชุมร่วมกับทางเวียดนามด้วยที่มีการประชุมไปแล้วในเรื่องการขนส่งทางทะเล เช่นเดียวกับเส้นทางใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่หนองเอียน ระหว่างนี้ยังเปิดไม่ได้เพราะฝั่งโน้นยังสร้างไม่เสร็จ เส้นทางยังมาไม่ถึงนี้ก็จะมีการเจรจาแก้ปัญหา ให้ครบเรียบร้อยโดยมีกฎระเบียบออกมา เมื่อพร้อมก็สามารถที่จะเปิดเส้นทางได้เลย นอกจากนี้เขาขอหารือในเรื่อง การเปิดจุดผ่านแดนถาวรทางอีสาน จุดอานม้า ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงจะต้องคุยกัน
“ประการสุดท้าย เขาย้ำจะไม่ยอมให้ใคร มาใช้ดินแดนของเขาในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลไทย ซึ่งตอนนี้เขาได้มีการส่งข่าวให้ฝ่ายไทยหลายทีแล้ว เราต้องไว้ใจ ซึ่งกันและกัน เพราะผลประโยชน์ของชาติ ถือเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมของเรา ต่างคนต่างฝ่ายต้องเคารพ ซึ่งกันและกัน หลักการต้องไว้เนื้อเชื่อใจลดความหวาดระแวง และ ผลประโยชน์เท่าเทียม เราต้องดูแล เขาให้ความช่วยเหลือ บ้างในฐานะที่เป็นมิตรกันเพราะเรา เป็นเพื่อนบ้าน ใกล้ชิดกันยาวนาน ทางการทูต กว่า 70 ปี ซึ่งจริงแล้ว เรามีประวัติศาสตร์กันมายาวนาน 800 -1,000 ปี แล้ว อุปสรรคก็มีทั้งฝั่งเขา และเรา” นายกฯ กล่าว
ขณะที่เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ให้กำลังใจอะไรต่อตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เขาให้กำลังใจเรา โดยขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อบริหารประเทศชาติต่อ ซึ่งตนก็บอกไปว่า แล้วแต่ เป็นเรื่องกลไกลทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย แต่เขาเชื่อมั่นว่าหลายๆอย่างดีขึ้นในสมัยรัฐบาลนี้ และอยากให้ดำรงสิ่งเหล่านี้ต่อไปในอนาคตด้วย ซึ่งตนบอกว่าเราได้ทำยุทธศาสตร์เอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรก็ตาม ต้องสามารถที่จะทำต่อได้ ซึ่งเขาก็อยากที่จะสานต่อ
เมื่อถามว่า สมเด็จฮุนเซน มองบรรยากาศบ้านเมืองของเราอย่างไรหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มอง เขาเห็นว่าบ้านเมืองของเราสงบเรียบร้อยดี เป็นสิ่งที่เขาชอบ และเขาก็เห็นว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง รุนแรงเกิดขึ้นอย่างช่วงที่ผ่านมา เขามองในภาพนั้น เขามองว่า ความสงบสุขร่มเย็นของประชาชนที่ไม่มีความรุนแรงหรือใช้อาวุธอะไรต่างๆ จะเป็นบ่อเกิดการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างกัน ส่งผลให้เศรษฐกิจต่างๆเดินไปได้ ถ้าเอาการเมืองมาขับเคลื่อนทุกอย่างจะไปไม่ได้หมด คนที่เสียโอกาสคือประชาชน ไม่ใช่ตนเอง เข้าใจหรือไม่ ประชาชนจะเสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง ซึ่งวันนี้ตนได้พูดกับชาว จ.สระแก้วไปแล้ว ทุกคนต้องกลับมาดูว่าจะทำอาชีพอะไรที่จะให้เกิดการพัฒนา โดยเฉพาะอาชีพการเกษตร และค้าขาย ซึ่งตนได้เตือนไปหลายครั้งแล้ว เพราะพฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนไป ทุกคนจะต้องพยายามไปสู่การค้าขายออนไลน์ให้ได้ และวันนี้ตนเห็นว่ามีหลายหมื่นรายแล้ว ตรงนี้จะแก้ปัญหาธุรกิจและการค้าขายไม่ดี พฤติกรรมคนต้องการความสะดวกมากขึ้น
เมื่อถามว่าอากาศร้อนๆจะพูดอะไรกับประชาชนหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อากาศร้อนต้องทำให้ใจเย็นลง จะไปร้อนตามอากาศไม่ได้ ต้องใจเย็นๆ อย่าไปปลุกความขัดแย้งขึ้นมาอีก ตนเห็นว่าวันนี้ความเกลียดชังยังมีอีกเยอะพวกเฮดสปีช ในโซเซียล ทำให้สังคมปั่นป่วน เข้าใจหรือไม่ คนเราถ้ามีความรู้ มีข้อมูลอะไรต่างๆคงไม่เขียนแบบนั้นหรอก แต่นี้ไม่มีความรู้และคิดเอง แล้วเขียนว่ากันไปมา มันไม่เกิดอะไรเลย มีแต่สร้างความขัดแย้งมากขึ้น
นอกจากนี้เมื่อถามถึงกรณีศาลปกครองสูงสุด ตัดสินให้รัฐคืนเงินชดเชยให้กับบริษัทโฮปเวลล์จากการบอกเลิกสัญญา รวมเป็นเงิน 11,888 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมถึงค่าธรรมเนียมศาล ภายใน 180 วัน โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า รอฟังคำพิพากษาก่อน ผมไม่ได้เป็นเกี่ยวข้อง และเขายังเจรจากันอยู่ โครงการนี้ใครทำ และรัฐบาลไหนแก้ รัฐบาลนี้ต้องมาแก้ไง หลายเรื่องแล้วที่รัฐบาลแก้ไป ทั้งใช้มาตรา 44 เป็นการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้ว และแก้ไม่ได้ เข้าใจหรือยัง ถ้าบอกว่าไม่ต้องแก้ ให้ปล่อยอย่างนี้ ก็จะโดนเขาฟ้องมากขึ้นไปเรื่อยๆ เอาหรือไม่ รัฐบาลนี้แก้ยังโดนด่าเลย ไม่ใช่รัฐบาลนี้ไม่แก้ ต้องไปด่าคนไม่แก้สิ