3เกลอวันนั้น…ความจริงวันนี้!!! ในวันจตุพรไร้พี่-ขาดน้อง?!? แตกนี้ยับเยิบๆ???

หลัง 22 พฤษภา 2557 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่า นอกจากเครือข่ายเนื้อแท้ของคนแดนไกลจะแตกกระสานซ่านเซ็นกระจัดกระจายไปตามที่ปรากฏให้รับรู้แล้วซึ่งหนึ่งในแก้ว3ประการอย่างมวลชนคนเสื้อแดงก็มีสภาพอาการไม่ต่างไปจากพรรคเท่าไหร่นัก  แม้จะบอกว่าเสื้อแดงแกล้งตาย แต่ใครจะรู้ว่า  ในทางกลับกันอาจเป็นการแกล้งเป็นมากกว่าแกล้งตายก็ได้?!?  ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น นั่นเพราะหลังเหตุการณ์ 22พฤษาภา57 แกนนำหลายคนโดนคดีคล้ายถูกจำกัดการเคลื่อนไหว บางสายฮาร์ดคอร์ ต้องหนีออกนอกประเทศ !!! ถามว่าแล้ววันนี้เป็นอย่างไรหลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว คำตอบที่น่าจะชัดเจนที่สุด พลันเกิดขึ้นหลังสงกรานต์ท่ามกลางอากาศอันแสนจะร้อนอบอ้าวของเดือนเมษา ???   

 

เรื่องของเรื่องคือ เฟซบุ๊ก ยูดีดีนิวส์  (UDD news)  ซึ่งเป็นแหล่งเผยแพร่ข่าวและความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสต์ข้อความพร้อมคำกล่าวของ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ประธานนปช. คนแรก  โดยเป็นกล่าวกับมวลชนในกิจกรรมสรงน้ำพระและรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งในงานที่ว่านี้มากล้นไปด้วยบรรดามวลชนตัวจริงที่ยังเหนียวแน่น หากแต่ที่ผิดหูผิดตาไปก็แกนนำนปช.นี่แหละ หันไปมองเห็นวีระกานต์ เหลียวไปทางขวาเห็นณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ทางซ้ายธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.คนที่2 ยังอยู่ไม่ห่าง หมอเหวง โดจิราการ รวมทั้งก่อแก้ว พิกุลทอง สอดส่ายสายตากลับไม่เห็นแม้แต่เงาประธานนปช.คนที่3 ทั้งยังถือเป็นคนปัจจุบัน นั่นคือ จตุพร พรหมพันธุ์ 

 

 

 

 

กระนั้นก่อนที่จะร่วมกันพิเคราะห์ พินิจพิจารณาถึงเนื้อความของนายวีระกานต์ และการไม่ปรากฏตัวของนายจตุพร ซึ่งอยากจะชวนพากันย้อนไปถึง3เกลอความจริงวันนี้ อันเป็นร่องรอยความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนพ้องน้องพี่ อย่างวีระ จตุพร และณัฐวุฒิ  โดยความจริงวันนี้ หรือ Truth Today  เป็นรายการโทรทัศน์ ที่ออกอากาศในระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม-10 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที ทั้งยังถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เอฟเอ็ม 92.5 เมกะเฮิร์ตซ์ และ เอเอ็ม 891 กิโลเฮิร์ตซ์ ผลิตรายการโดย บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ มีนายวีระ มุสิกพงศ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ร่วมด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้ร่วมรายการ

 

ต่อมารายการได้กลับมาออกอากาศอีกครั้ง ทางสถานีประชาธิปไตย ดี-สเตชัน โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2552 ต่อมาถูกสั่งระงับออกอากาศ แต่ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552 นายณัฐวุฒิ ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงในงานแดงทั้งแผ่นดินสัญจรว่ารายการจะกลับมาออกอากาศอีกครั้ง ทางสถานีประชาชน พีเพิลแชแนล 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

 

รายการความจริงวันนี้ เกิดขึ้นจากดำริของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ผู้บริหารองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ  ตลอดจนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งนี้ รายการดังกล่าวมีชื่อตั้งต้นว่า ชาวสนามหลวง แต่เมื่อถึงเวลาออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม รายการก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อ ความจริงวันนี้ ซึ่งนายจตุพร เปิดเผยในงานครอบครัวความจริงวันนี้สัญจร ที่ราชมังคลากีฬาสถานว่า นายสมัครเป็นผู้ตั้งชื่อให้

 

 

นั่นคือที่มาที่ไปของความจริงวันนี้โดย3เกลอที่รู้จักกันมากว่าสิบปี แต่มาวันนี้หนึ่งในสามเกลอ ได้ออกมาพูดให้รับรู้ว่า ในความเป็นความเกลอปัจจุบันนั้นไม่มีแล้ว โดยนายวีระกานต์ กล่าวต่อหน้ามวลชนในงานรดน้ำซึ่งมีบางช่วงบางตอนที่มีนัยยะสำคัญระบุไว้ชัดเจน เรื่องแรกก็คือเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนพี่น้องประชาชนในภาคใต้พบว่ามีคนเสื้อแดงแฝงตัวอยู่ในมวลชนเป็นจำนวนไม่ใช่น้อย และในขณะเดียวกัน จากการที่คนอื่นๆ ได้ไปในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก็พบว่ามีเสื้อแดงอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน บางรายก็ออกมาแสดงตัวชัดเจน บางรายก็ไม่ออกมาแสดงตัว เพียงแต่สะกิดให้รู้ว่าพวกเดียวกัน

 

ข้อที่สองสิ่งที่สำคัญและนายวีระกานต์บอกว่าจะลืมไม่ได้ก็คือ อาจารย์ธิดา มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการที่ทำให้นปช.ได้สืบสานต่อมาอย่างไม่ขาดสายนับตั้งแต่ได้ออกท้องสนามหลวงครั้งแรก ต่อจากนั้นก็ได้มีบทบาทเรื่อยมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ก็ยังไม่ได้ส่งมอบภารกิจอันหนักนี้แก่ใครเป็นการเฉพาะ เพราะฉะนั้น อาจารย์ธิดา จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างพี่น้องกับนปช.ที่ยังเหลืออยู่ ทำงานตลอดไปในวันข้างหน้าทั้งในอนาคตอันใกล้และในระยะทางอันไกล

 

ประการที่สาม สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ใหม่ที่จะรวมศูนย์นปช.ให้มาพบปะกันเช่นที่ได้เคยกระทำกันมาเป็นเวลาหลายปี นอกจากนั้นนายวีระกานต์ ยังบอกว่าสำหรับตัวเองเลขาธิการนปช.อย่าง นายณัฐวุฒิ รวมทั้งหมอเหวง ยังไม่ได้คิดเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ไปเป็นอย่างอื่น ยังเป็นนปช.อยู่เช่นเคย สุดท้ายขอให้ได้ติดต่อกัน จะติดต่อตนเอง หรือติดต่อหมอเหวง หรือ ติดต่ออาจารย์ธิดา หรือ ติดต่อนายณัฐวุฒิ ก็จะมีสภาพอย่างเดียวกันอยู่ในสายธารเส้นทางเดียวกัน

 

 

จากคำพูดทั้งหมดนี้พอจะมองเห็นอะไรบางอย่างแล้วใช่หรือไม่ อย่างน้อยๆก็การที่นายจตุพร ไม่ได้มาร่วมงานสำคัญนี้  เพราะนี่ต้องถือว่าเป็นประเพณีที่คนไทยปฏิบัติกันมานาน ซึ่งหากนายจตุพรจะออกมาอธิบายภายหลังต่อจากนี้ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถลบรอยแตกร้าวนี้ได้ดีแค่ไหน ต้องไม่ลืมว่านายจตุพร ปักหลักทำงานเป็นกองเชียร์ขึ้นเวทีปราศรัยให้พรรคเพื่อชาติ ในขณะนายวีระกานต์ นายณัฐวุฒิ หมอเหวง ก่อแก้ว ย้ายไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ

 

ไม่เพียงมีความเคลื่อนไหวของนายวีระกานต์เท่านั้น หากแต่นางธิดา ก็ออกมาพูดด้วยเช่นกัน เป็นการพูดที่ยังแสดงท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัย ว่าแม้ในทางการเมืองอาจจะแยกย้ายไปอยู่หลายพรรคในฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้เอ่ยชื่อนายจตุพร แต่ก็เข้าใจกันได้สำหรับแกนนำนปช.มีอยู่เพียงไม่กี่คน ที่ชัดเจนซึ่งแบ่งออกมาสองก๊ก หนึ่งคือฝั่งไทยรักษาชาติ และอีกหนึ่งคือที่อยู่กับพรรคเพื่อชาติ อย่างนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษกนปช. นายอารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ดนปช. กระทั่ง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์ นปช. ที่สำคัญนายสงคราม เลิศกิจไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เจ้าของอิมพีเพียลลาดพร้าว เจ้าของสถานที่ตั้งกลุ่มนปช.มาตั้งแต่เริ่มแรก!!!

 

 

อีกประเด็นที่สำคัญที่อาจารย์ธิดา พูดถึงก็คือ เส้นทางที่เปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางก้าวหน้าเป็นเส้นทางที่ต้องได้รับชัยชนะ แต่ว่าผู้อาสาอาจจะยากลำบาก  แล้วก็วัยที่มากขึ้นตามวันเวลา โดยความจริงจะต้องวางมือมอบให้คนอื่น เพราะฉะนั้นระยะนี้จึงเป็นระยะปูทางเพื่อวางมือของคนบางรุ่น แต่ต้องมีการรับไม้ต่อ

 

“นปช.รับมรดกต่อมาจากคณะราษฎร ไม่มีใครมาส่งให้ ไม่มีใครมาบอก แต่รับโดยความคิดและจิตวิญญาณ ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่า นอกจากคนที่มาร่วมงานแล้ว เยาวชนที่มาร่วมงานกับนปช.มากขึ้นก็จะต้องรับไม้ ต่อไปนปช.จะมีผู้ประสานงานเพิ่มขึ้น มีผู้ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น มีเจ้าหน้าที่ประจำมากขึ้นในอนาคต ยูดีดีและสมาชิกรวมทั้งนปช.ทั้งในอดีตปัจจุบันและแนวร่วมใหญ่ในอนาคตก็มีแต่จะต้องเข้มแข็งมากขึ้นตลอดไป” นางธิดา กล่าว

 

น่าสนใจทั้งที่นายวีระกานต์พูด และนางธิดากล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นายวีระกานต์ ระบุ สถานที่แห่งนี้จะเป็นที่ใหม่ที่จะรวมศูนย์นปช.ให้มาพบปะกันเช่นที่ได้เคยกระทำกันมาเป็นเวลาหลายปี ทำให้สงสัยว่าเป็นสถานที่ไหน ซึ่งเมื่อค้นหาก็พบคำตอบว่า สถานที่ที่นายวีระกานต์ประกาศต่อหน้ามวลชนนั้นคือ อาคารเอเวอรี่ มอลล์ ถนนรัตนาธิเบศ แยกแคราย นนทบุรี ที่ตั้งของ ศูนย์ข่าวยูดีดีนิวส์ สถานที่มีการรดน้ำดำหัวกันเมื่อสงกรานต์ และกำลังจะกลายเป็นฐานที่ตั้งใหม่ของนปช.ที่ไม่มีนายจตุพรมาร่วมด้วยใช่หรือไม่??? นั่นหมายว่าความ  นปช.ทิ้งฐานที่มั่นเดิมอาคารอิมพีเรียลลาดพร้าว มาลงหลักปักฐานใหม่ ที่เหลือเพียงสองเกลอ…แบบนี้เรียกว่าแตกแล้วหรือยัง????

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- จตุพรควงเจ๋ง นปช.สมัครจิตอาสางานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

- แถไปเรื่อย!! "จตุพร" อ้าง "บิ๊กตู่" คือทางตัน โบ้ย การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นความพ่ายของประเทศ ??

- จตุพรประกาศยุติบทบาท!เป็นกองเชียร์เพื่อชาติหลังไปแถลงร่วม6พรรค