กกต.เรียกศรีสุวรรณไต่สวนเพิ่มอีก เจ้าตัวเผยเหตุ เคยมีคำสั่งศาลฎีกา

กกต.เรียกศรีสุวรรณไต่สวนเพิ่มอีกพรุ่งนี้ให้ยืนยันคำร้อง ขณะเจ้าตัวเผยเหตุเคยมีคำสั่งศาลฎีกามีคำสั่งไว้แล้วด้วย

จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาคำร้องของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสื่อ ต่อมานายแสวง บุญมี รองเลขาฯกกต. แถลงผลการประชุมว่า นายธนาธร มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา98(3) ฝ่าฝืนกฎหมาย กรรมการตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานสอบแล้วฟังได้ว่า นายธนาธรถือหุ้นบริษัทวีลัคฯซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ จึงแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร โดยพยานหลักฐานฟังได้และจากนี้ให้ไต่สวนให้แล้วเสร็จโดยแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธร และให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน7วัน

 

 

ล่าสุดวันนี้(25เม.ย. ) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกมาเปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 62 เวลา 10.30 น.นี้ คณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เชิญตนไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม กรณีที่สมาคมฯได้เคยร้องเรียนว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่

 

กกต.เรียกศรีสุวรรณไต่สวนเพิ่มอีก เจ้าตัวเผยเหตุ เคยมีคำสั่งศาลฎีกา

 

 

 

“ในขณะสมัครรับเลือกตั้งอาจถือครองหุ้นในกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด อันอาจเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตาม ม.98(3) แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 และ ม.42(3) แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 ที่มีบทบัญญัติห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ซึ่งสมาคมฯได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต.และส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมไปแล้ว 3 ครั้ง คือวันที่ 25 มี.ค.62 วันที่ 5 เม.ย.62 และวันที่ 23 เม.ย.62 ที่ผ่านมา

 

กกต.เรียกศรีสุวรรณไต่สวนเพิ่มอีก เจ้าตัวเผยเหตุ เคยมีคำสั่งศาลฎีกา

 

เนื่องจาก กกต.ได้ออกมาแถลงตั้งข้อกล่าวหานายธนาธรว่ามีมูลไว้แล้วเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิชี้แจงภายใน 7 วัน ดังนั้น เพื่อเป็นการฟังความอย่างรอบด้านคณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงได้เชิญสมาคมฯในฐานะผู้ร้องไปให้ข้อมูลเพื่อยืนยันในคำร้องตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด 2561 ซึ่งในที่สุดแล้วหาก กกต.ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานและฟังข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนแล้ว และเชื่อได้ว่ามูลคำร้องมีน้ำหนักมากกว่าก็จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธรต่อไป ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้เคยมีคำสั่งในลักษณะที่ใกล้เคียงข้อพิพาทนี้ไว้แล้ว ตามคำสั่งศาลฎีกาที่ 111/2562, 1144/2562 และ 1228/2562 และอาจมีโทษทางอาญาฐานแจ้งหรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญาต่อไปด้วย” นายศรีสุวรรณ กล่าว

 

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-ศรีสุวรรณ ชี้ลงชื่อถอดถอน กกต. ทางออนไลน์เป็นล้าน ก็ไม่ได้ผล
-กลาโหมกวักมือเรียกศรีสุวรรณ มาฟังให้ตาแจ้ง ฮ.รุ่นAW139 ซื้อสมัยรบ.ยิ่งลักษณ์
-ศรีสุวรรณ ยื่นคำร้องต่อ กกต. คัดค้าน บัตรเลือกตั้งล่าช้าจากนิวซีแลนด์ เป็นบัตรเสีย