- 30 เม.ย. 2562
คำต่อคำพิพากษา!!ศาลฎีกาฯตัดสิทธิ์ผู้สมัครส.ส.สงขลา เทียบกรณี“ธนาธร”โอนหุ้นวี-ลัค มีเดีย 8 ม.ค.ไม่ถือว่าจบ..ครบองค์ประกอบกม.??
นัดหมายล่วงหน้าจะชี้แจงทุกข้อสงสัย การถือครองหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ภายหลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกกกต.ตั้งข้อกล่าวหาเข้าข่ายกระทำความผิดตามคำร้องเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 (3) และ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 42(3) อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง
ทั้งนี้ล่าสุดนายธนาธรยังคงยืนยันความถูกต้องในการขาย-โอนหุ้น ว่าเป็นไปตามกรอบกฎหมาย คือ ดำเนินกระบวนการเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 หรือ การสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงมั่นใจว่าจะอธิบายที่มาของการเดินทางจากบุรีรัมย์มาเซ็นขาย-โอนหุ้นให้นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้อย่างไม่มีปัญหาแม้หลายฝ่ายจะมีข้อสงสัย คาใจมากมาย ทั้งรูปแบบการเดินทาง
รวมถึงความเร่งรีบในขั้นตอนการขาย-โอนหุ้น “วี-ลัค มีเดีย” ในวันที่ 8 มกราคม 2562 ตามคำอธิบายของนายธนาธรเองว่า ใช้วิธีการเดินทางโดยรถตู้มาจากบุรีรัมย์ ทั้งๆ ที่ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง 5 ฉบับ คือ กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร วันรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ,
เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด , เรื่อง การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร , เรื่อง กำหนดวันและเวลาออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง และเรื่อง กำหนดวัน เวลา ยื่นคำขอลงทะเบียนใช้การสิทธิออกเสียงลงคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนวันเลือกตั้ง เกิดขึ้นในวันที่ 24 มกราคม 2562
หรือ เท่ากับว่าการขาย-โอนหุ้น บริษัทวี-ลัค มีเดีย เกิดขึ้นก่อนที่นายธนาธร และ พรรคอนาคตใหม่ จะรู้กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งนานถึง 16 วัน จนทำให้เกิดเป็นประเด็นข้อสงสัยตามมาอีกว่า ทำไมการขาย-โอนหุ้น ระหว่าง นายธนาธร และนางสมพร จึงต้องรีบเร่งให้แล้วเสร็จในวันที่ 8 มกราคม 2562 ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้วันสมัครรับเลือกตั้ง
ต่างจากกระบวนการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบมจ.มติชน ซึ่งนายธนาธรดำเนินการก่อนล่วงหน้า กว่า 1 ปี เพราะมีเป้าหมายเข้าสู่เส้นทางการเมือง ส่วนขั้นตอนการยื่นจดแจ้งต่อนายทะเบียน เรื่องการขาย-โอนหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย ก็ปล่อยให้ล่าช้าไปถึงวันที่ 21 มีนาคม 2562
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่สำคัญ และมีเวลาเพียงพอจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนวันนำรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่งกกต.ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 นับจากวันขาย-โอนหุ้น ที่นายธนาธรอ้างว่าดำเนินการในวันที่ 8 มกราคม 2562
ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่คาดหมายว่านายธนาธรจำเป็นต้องอธิบายต่อกกต. เพื่อลบล้างข้อกล่าวหา แม้ว่านายธนาธรจะระบุว่า ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพราะมีเอกสารพร้อมชี้แจงต่อกกต. พร้อมยังวิพากษ์วิจารณ์กลับไปยังฝ่ายที่มีข้อสงสัย ว่า ไม่เคยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ข้อเท็จจริง รวมถึงยังท้าทายให้ขอข้อมูลจากบริษัทโทรศัพท์มือถือ มายืนยันแหล่งที่อยู่ของตนในวันที่ 8 มกราคม 2562
ในกรณีดังกล่าวท้ายสุดเป็นขั้นตอนการพิจารณาของกกต.ว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากกรณีการถือครองหุ้นสื่อของผู้สมัครส.ส. หรือ นักการเมืองถือเป็นข้อห้ามที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด และไม่ใช่เฉพาะในรายของ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 2 จ.สกลนคร ซึ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 เพิกถอนการรับสมัครเลือกตั้ง อันเนื่องมาจากการถือหุ้นสื่อมวลชน ห้างหุ้นส่วนจำกัด มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส
แต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ก็ได้มีคำพิพากษาคดีที่ 1234/2562 ตามคำร้องของนายวิวิธชิตวัน สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต พรรคประชาธรรมไทย เนื่องจากถูกกกต.ไม่ประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา เนื่องจากตรวจพบว่าเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์อ่าวไทย วอยซ์ โดยได้รับอนุญาตจดแจ้งการพิมพ์เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558
และมีการแจ้งยกเลิกการพิมพ์ หนังสือพิมพ์อ่าวไทย วอยซ์ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 โดยสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา แจ้งว่าจะได้ดำเนินการยกเลิกรายการจดแจ้งการพิมพ์ ตามพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ต่อไปตามหนังสือลงวันที่ 30 มกราคม 2562
แต่เมื่อนายวิวิธชิตวัน ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 กลับไม่ปรากฏหลักฐานว่า สำนักศิลปากรที่ 11 ได้ดำเนินการยกเลิกการจดแจ้งการพิมพ์ ตามพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 แล้วหรือไม่ในวันที่เท่าใด
คำวินิจฉัยสำคัญของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ระบุชัดเจนว่า “กิจการหนังสือพิมพ์นั้น ผู้เกี่ยวข้อง (นายวิวิธชิตวัน) ซึ่งมีชื่อทางทะเบียนนับเป็นสาระสำคัญที่จะต้องตรวจสอบก่อนเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทางทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ร้องทราบดีอยู่แล้ว ตราบใดที่ทะเบียนยังไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไข ผู้ร้อง (นายวิวิธชิตวัน) จึงยังคงอยู่ในฐานะเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์อยู่ตราบนั้น
จะถือการแสดงเจตนาของผู้ร้องเป็นสาระสำคัญหาได้ไม่ จึงต้องถือว่าในวันที่ผู้ร้อง (นายวิวิธชิตวัน) ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ผู้ร้อง (นายวิวิธชิตวัน) ยังเป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์อยู่
ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้อง (นายวิวิธชิตวัน) เป็นเจ้าของกิจการหนังสือพิมพ์ ผู้ร้อง (นายวิวิธชิตวัน) จึงเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (3) และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 42 (3)
จากกรณีดังกล่าวจึงมีข้อพิจารณาต้องติดตามต่อไป ว่า ในกรณีของนายธนาธรที่อ้างว่ามีการขาย-โอนหุ้น บริษัทวี-ลัค มีเดีย ซึ่งประกอบกิจการสื่อฯ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 แต่มีการแจ้งต่อนายทะเบียนฯ ในวันที่ 21 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเลยจากวันสมัครรับเลือกตั้งไปแล้ว เมื่อเทียบเคียงกับคำพิพากษาในกรณีของ นายวิวิธชิตวัน สุวรรณรัตน์ ซึ่งแจ้งยกเลิกการจดแจ้งการพิมพ์ แต่ไม่ได้ไปดำเนินการให้ครบถ้วนตามบทบัญญัติกฎหมาย จะมีข้อสรุปอย่างไรในกระบวนการยุติธรรม
ด้วยต้องไม่ลืมว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 แสดงใจความสำคัญระบุชัดเจน อันว่าหุ้นนั้นย่อมโอนกันได้โดยมิต้องได้รับความยินยอมของบริษัท เว้นแต่เมื่อเป็นหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้น ซึ่งมีข้อบังคับของบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นนั้น ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและลงลายมือชื่อของผู้โอนกับผู้รับโอน มีพยานคนหนึ่งเป็นอย่างน้อยลงชื่อรับรองลายมือนั้น ๆ ด้วยแล้ว ท่านว่าเป็นโมฆะ อนึ่ง ตราสารอันนั้นต้องแถลงเลขหมายของหุ้นซึ่งโอนกันนั้นด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ธนาธรงัด3ใบสั่งซิ่งรถโอนหุ้น กร้าว!กกต.ไม่มีอำนาจมาสอบผม ขู่เจอม.157
-"ศรีสุวรรณ" ยื่นกกต.เปิดรายชื่อ 11 ว่าที่ส.ส.อนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อ??
-"ชูชาติ" แนะกกต.ส่งชื่อว่าที่ส.ส.ให้กรมพัฒนาธุรกิจฯสอบถือหุ้นสื่อ ดีกว่าเสียเวลาตรวจทีละคน
-ดับฝัน "อนาคตใหม่" ! กกต. คอนเฟิร์ม ปชป. พลิกชนะ 4แต้ม นับคะแนนใหม่เขต1 "นครปฐม" !