- 08 พ.ค. 2562
กกต.ประกาศ149ปาร์ตี้ลิสต์ แล้วอีก 1 คือใคร ? มาดามเดียร์ลุ้น! รอเลือกตั้งใหม่ที่จังหวัดเขต8
จากกรณีที่วันนี้(8พ.ค.62) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงประกาศรับรองผล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 149 คน 26 พรรคการเมือง อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีทั้งหมด 26 พรรคที่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยพรรคพลังประชารัฐได้ 18 ที่นั่ง พรรคอนาคตใหม่ 50 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 19 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 12 ที่นั่ง พรรคเสรีรวมไทย 10 ที่นั่ง พรรคชาติไทยพัฒนา 4 ที่นั่ง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 ที่นั่ง พรรคประชาชาติ 1 ที่นั่ง พรรคเพื่อชาติ 5 ที่นั่ง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 4 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา 2 ที่นั่ง พรรคพลังท้องถิ่นไท 3 ที่นั่ง พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 2 ที่นั่ง
พรรคพลังปวงชนไทย พรรคพลังชาติไทย พรรคประชาธิวัฒน์ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชานิยม พรรคประชาธรรมไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคพลเมืองไทย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคไทรักธรรม ได้พรรคละ 1 ที่นั่ง สำหรับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับวิธีการคำนวณที่กกต.นำมาคำนวณจัดสรรส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองทั้ง 26 พรรค โดยคิดจากผลคะแนนที่พรรคการเมืองส่งผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใน 349 เขตเลือกตั้ง รวม 74 พรรคการเมือง เป็นคะแนนทั้งสิ้น 35,441,920 คะแนน ซึ่งเมื่อกกต.ประกาศส.ส.ในระบบแบ่งเขต 349 เขต จึงต้องนำ 349 มาหาร จำนวนส.ส.เขตเต็ม 350 จะได้ ค่าเฉลี่ย 0.9971 จากนั้นนำจำนวนดังกล่าวมาคูณด้วยส.ส.ทั้งสภาคือ 500 คน จะได้ จำนวนส.ส.ที่จะประกาศผลทั้งหมด 498.5714 คน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ถือเอาเฉพาะจำนวนเต็ม จึงเหลือ 498 คน เมื่อหักส.ส.เขต 349 จึงเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ 149 คน
จากนั้นนำคะแนนรวมที่74 พรรคการเมืองได้รับคือ 35,441,920 มาหารด้วย 498 คน ก็จะได้ค่าเฉลี่ยต่อส.ส.1 คน คือ 71,168.5141 คะแนน แล้วนำจำนวนดังกล่าวมาหารคะแนนรวมของแต่ละพรรคก็จะได้จำนวนส.ส.พึงมีเบื้องต้น จากนั้นนำจำนวนส.ส.พึงมีเบื้องต้นไปลบกับส.ส.เขตที่แต่ละพรรคได้รับก็จะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้ในเบื้องต้น เมื่อรวมแล้วพบว่าจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะได้ในเบื้องต้นเกินเป็น 174.2629 คน ซึ่งถือว่าเกินจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะจัดสรรแค่ 149 คน
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.เขตเกินกว่าจำนวนส.ส.ที่พึงมีได้ ดังนั้นจึงต้องนำมาปรับและใช้การคำนวณใหม่ โดยนำจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคได้ในเบื้องต้นมาคูณด้วย 149 แล้วหารด้วย 174.2629 ก็จะได้จำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่ปรับให้เหลือ 149 คน ซึ่งจะต้องจัดสรรที่นั่งให้กับพรรคการเมืองตามจำนวนเต็มก่อน ส่งผลให้การจัดสรรรอบแรกมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 15 พรรคการเมือง เมื่อรวมแล้วจะจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อได้เพียง 129 ที่นั่ง ยังขาดอีก 20 ที่นั่ง จึงต้องนำเศษทศนิยมมาจัดสรรให้พรรคการเมืองโดยเรียงตามคะแนนทศนิยมจากมากไปหาน้อยจนได้ครบ 20 ที่นั่ง ซึ่งก็จะมีผลให้พรรคอนาคตใหม่ ภูมิใจไทย เสรีรวมไทย เศรษฐกิจใหม่ และประชาชาติ ซึ่งได้รับการจัดสรรในรอบแรก ไปแล้ว ได้รับการจัดสรรเพิ่มอีกพรรคละ 1 ที่นั่ง และมีพรรคการเมืองที่คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คน ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคละ 1 คน อีก 11 พรรคการเมือง
อย่างไรก็ตามคะแนนที่ กกต. ได้นำเอามาคิดนั้น ยังไม่รวมคะแนนที่จังหวัดเชียงใหม่ เขต 8 ซึ่งต้องเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ ซึ่งหากดูจากผู้มาใช้สิทธิจำนวน 128,397 คะแนน จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 164,327 คน และหากตั้งสมมติฐานว่า พรรคเพื่อไทย ยังได้ ส.ส. กลับมาเหมือนเดิม เพราะเป็นพื้นที่ของเพื่อไทย และคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่น่าจะต่างไปจากเดิม เมื่อนำคะแนนของ ส.ส.เขต 8 มารวม และทำการคำนวณ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ใหม่ จะทำให้พรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์รวมเป็น 19 ที่นั่ง
สำหรับในการจัดลำดับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ โดยจัดลำดับที่ 1 คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ลำดับที่ 2 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ลำดับที่ 3 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ลำดับที่ 4.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลำดับที่ 5 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โดยมี น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ มาดามเดียร์ อยู่ลำดับที่ 19
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-"สวนดุสิตโพล" เผย ประชาชน กังวลการทำงาน กกต.-เชื่อการเมืองวุ่นวายเหมือนเดิม
-"โบว์ อยากเลือกตั้ง" ควง ผู้สมัครส.ส.อนาคตใหม่ ขู่ กกต. อย่าทำให้ความอดทนถึงที่สิ้นสุด
-“เรืองไกร” ร้องกกต. ตรวจสอบคุณสมบัติ 4 ผู้สมัครส.ส. 4พรรค ปมถือหุ้นสื่อ
-กกต.ตอบธนาธรแล้วผิดตรงไหน พร้อมตอบชัดๆถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่?
-พลังประชารัฐ มั่นใจคุณสมบัติ "มาดามเดียร์" ไม่ขัดกับการเป็นส.ส. แค่โจมตีหวังผลทางการเมือง