- 14 พ.ค. 2562
ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้นำเสนอตอน สนธิญาณฟันธง !!! ไม่ว่าผลเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาอย่างไร ??
ในรายการเที่ยงตรงกับสนธิญาณ โดยคุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ได้นำเสนอตอน สนธิญาณฟันธง !!!
ไม่ว่าผลเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาอย่างไร ?? ซึ่งระบุเอาไว้ว่า สถานการณ์การเมืองนะครับ ยังปั่นป่วนอยู่หลังการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคของพรรคประชาธิปัตย์เสร็จสิ้นนะครับ ทิศทางของการเมืองก็จะชัดเจนว่าจะไปในรูปไหนอย่างไร แต่โดยหลักๆมันก็ยังมีสถานการณ์หลักที่เป็นโจทย์บังคับของแต่ละฝั่งแต่ละฝ่ายอยู่ก็คือน่าจะพลเอกประยุทธ์เท่านั้นที่จะได้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ทางฝั่งนี้ 90% ด้วยปัจจัยและเหตุผลดังต่อไปนี้
หนึ่ง พรรคที่จะชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้นะครับสำคัญมากๆก็คือพรรคเล็กทั้งหลาย เพราะในขณะนี้นะครับ พันธมิตรของฝากฝั่งเพื่อไทย อนาคตใหม่นี่นะครับชัดเจนแล้วครับว่า 245 เสียงอยู่ในมือ เลือกตั้งที่เขต 8 เชียงใหม่เสร็จก็จะเป็น 246 นะครับ ไม่มากไปกว่านี้นะครับ ฝากฝั่งพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้นะครับ รวมประชาธิปัตย์ รวมภูมิใจไทย รวมชาติไทยพัฒนา รวมพลังประชาชาติไทย รวมชาติพัฒนานะครับ ก็ได้ 236 เสียงนะครับ
ยังน้อยกว่าทางฝากฝั่งพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่และเครือข่ายพันธมิตรทั้งหลาย แต่ทำไมผมถึงกล้ายืนยันว่าพลเอกประยุทธ์นะครับ ยังมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่าฝากฝั่งพรรคเพื่อไทยก็เพราะว่าถ้าฝากฝั่งพรรคเล็กนะครับ จะรวมกับพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ ประกาศไปรวมนานแล้วครับ เหมือนกับที่พรรคพลังปวงชนไทยไป 1 เสียงนะครับ
การที่ไม่ไปนะครับและรอเวลามาแถลงนี่นะครับ ก็เพราะต้องการจัดการภายในกันให้ชัดเจน หมายถึงภายในของพรรคเล็กเองนะครับว่าใครจะวางตำแหน่งตรงไหนอย่างไร จะวางบทบาทกันอย่างไร และการร่วมควรจะมีเงื่อนไขอย่างไร ไม่ให้สะเปะสะปะ มียุทธศาสตร์ของกลุ่มพรรคเล็กเอง เพราะเสียงไม่ใช่น้อยเมื่อรวมกันแล้ว
ส่วนพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์นะครับ ซึ่งในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานะครับมีข่าวปล่อย ย้ำนะครับว่าเป็นข่าวปล่อย เป็นแหล่งข่าว ไม่ได้มีใครแถลงหรือพูดอะไรอย่างเป็นทางการ ว่าจะมีการตั้งเป็นขั้วที่สามขึ้นมา
นั่นก็คือภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์จะจับมือกัน และก็บวกเป็นขั้วที่ 3 จะไปข้างไหนก็ได้ จากกระแสข่าวนี้ที่ออกมานี่นะครับ มันมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหน เป็นไปไม่ได้ครับ เป็นข่าวปลอมข่าวปล่อยนะครับ ความน่าสนใจข่าวปลอมหรือข่าวปล่อยนี้มาจากฝากฝั่งพลังประชารัฐหรือมาจากฝากฝั่งเพื่อไทยหรืออนาคตใหม่ นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจ
เหตุผลที่ผมเรียนว่าเป็นไปไม่ได้นี่นะครับ พรรคภูมิใจไทยนะครับถ้าไป ไปแล้ว ผมเรียนนะครับ มีโทรศัพท์ทางไกลจากดูไบมาที่บุคคลสำคัญๆของพรรคภูมิใจไทย เสนอจะให้คุณอนุทินขึ้นนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับจากพรรคภูมิใจไทย ประเด็นสำคัญนี่นะครับก็ต้องไปดูตอนที่คุณอนุทินหาเสียงไว้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งที่โคราช ยืนยันว่าจะไปร่วมงานกับใครก็ตามแต่ จะต้องเป็นผู้ที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ชัดเจนแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ
พรรคอนาคตใหม่ไม่ว่าหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เอาพฤติกรรมง่ายๆเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่นะครับ ระหว่างมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนะครับ บนหัวของพรรคอนาคตใหม่ หมายถึงหัวเฟซบุ๊กนะครับ ทุกพรรคนะครับถวายพระเกียรติทรงพระเจริญ เอาพระบรม เอาภาพพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกขึ้นมาให้ประชาชนได้รับชมทุกพรรค
ยกเว้นพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นประเด็นนี้แหละครับที่ทำให้พรรคภูมิใจไทย ไม่มีทางที่จะขยับตัวไปร่วม และถ้ายิ่งนะครับไปดูประวัติความเป็นมาของคุณอนุทินในเรื่องความจงรักภักดีก็จะยิ่งชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้ที่คุณอนุทินและพรรคภูมิใจไทยจะเอียงไปยังฝากฝั่งพรรคเพื่อไทยและอนาคตใหม่ แต่คำถามก็คือว่าแล้วมันมีข่าวของขั้วที่ 3 ออกมาได้อย่างไร
ตรงนี้แหละครับน่าสนใจว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว ทั้งๆที่มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดในลักษณะนี้ขึ้น แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์นะครับ ไม่ว่าใครได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคนะครับ ในประสบการณ์ทำข่าวทางการเมืองมาและการรู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้ลงชิงหัวหน้าพรรคทุกคน ผมเชื่อว่าไม่มีใครหรอกครับจะไปร่วมกับฝากฝั่งพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่แน่นอน
เพราะฉะนั้นกระแสขั้วที่ 3 นี่นะครับมันต่อเนื่องกับการเคลื่อนไหวในยุทธศาสตร์ปิดสวิตช์วุฒิสมาชิก นั่นก็คือทำให้วุฒิสมาชิกเป็นง่อยหรือไม่สามารถที่จะมากำหนดทิศทางทางการเมืองในการตั้งนายกรัฐมนตรีได้ แปลความง่ายๆก็คือว่ามีการสร้างกลยุทธ์เชิญชวนนักการเมืองทั้งหมดมารวมกันให้ได้ 376 เสียง
เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองโดยตรง ไม่ให้วุฒิมามีบทบาทหรืออำนาจเพราะถ้าอีกฝากฝั่งหนึ่งเหลือเฉพาะพลังประชารัฐ 115 เสียงนะครับ รวมพลังประชาชาติไทยอีก 5 เสียงนะครับก็ 120 ไม่ถึง 126 นะครับ มีประชาชนปฏิรูปนะครับอีก 1 นะครับของคุณไพบูลย์ นิติตะวัน ก็เสียงไม่พอที่จะไปขัดขวางถ้าอีกฝากฝั่งหนึ่งมารวมกันหมดนะครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก แต่ทำไมนะครับอนาคตใหม่ถึงเสนอเรื่องนี้ เพราะอนาคตใหม่รู้ว่าอีกฝากฝั่งหนึ่งมีจุดอ่อนในเรื่องของการแย่งชิงตำแหน่งกัน การเสนอปิดสวิตช์ของวุฒิสมาชิกหรือสกัดกั้นไม่ให้พลังประชารัฐเสนอพลเอกประยุทธ์เป็นนายกไม่ให้สืบทอดอำนาจ ตามวาทะกรรมของฝากฝั่งเพื่อไทยและอนาคตใหม่ที่เดินเกม
รู้อยู่ว่าไม่มีทางจะเกิดขึ้น รู้อยู่ว่าไม่มีทางที่จะสำเร็จอย่างแน่นอนครับ แต่ทำไมถึงทำ ก็เพราะต้องการเอาเรื่องนี้มาตั้งเป็นประเด็น เพื่อจะใช้โจมตีเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองฝากฝั่งที่มาหนุนพลังประชารัฐ มาหนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ยังไม่เกิดผลแต่จะสะสมปริมาณเอาไว้เรื่อยๆเพื่อไปสู่คุณภาพ พยายามชี้ให้ประชาชนเห็นนะครับ สร้างภาพลักษณ์ สัญลักษณ์ของประชาธิปไตยนะครับ จะเป็นภาพที่ไม่ชัดเจนอย่างไรก็ตามแต่นะครับ แต่ก็จี้ประเด็นนี้ลงไป จี้ประเด็นนี้ลงไป อีกด้านหนึ่งทางฝากฝั่งพลังประชารัฐ ผมเรียนว่าข่าวขั้วที่ 3 นะครับ
ใครปล่อย มันก็จะไปสัมพันธ์กับการปล่อยข่าวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล อันนี้ปล่อยมาจากพลังประชารัฐเองแน่นอน เรื่องพลเอกประวิตรไม่ควรจะอยู่ต่อเพราะเสียภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี ควรให้พลเอกอนุพงษ์มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม นี่ตอกลิ่มกันเองใน 3 ป จากบูรพาพยัคฆ์ การตอกลิ่มนี้นะครับเป็นการต้องการนำเสนอตำแหน่งของตัวเอง ต่อรองตำแหน่งของตัวเองนะครับ ปล่อยข่าวไปว่าจะมีคุณสมคิดมาคุมทางด้านเศรษฐกิจนะครับ เป็นรองนายกนะครับ คนโน้นเป็นรัฐมนตรีคลังนะครับ คนนี้เป็นรัฐมนตรีคมนาคม ข่าวที่ปล่อยออกมาแบบนี้ครับมันเสียหาย เพราะต่อให้พรรคจะเจรจากันอย่างไรก็ตามแต่ ต้องนึกว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เป็นลูกน้องของพรรคการเมืองเหล่านี้แหละครับ เป็นคนที่มีบทบาทต่ำกว่าคนสำคัญๆในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ครับ อยู่เหนือกว่า ในทุกด้าน การยอมรับของประชาชน ฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นมาแต่ดั้งเดิม ที่เป็นผู้บังคับบัญชาและเป็นนายของคนในพรรคพลังประชารัฐทุกคน ดังนั้นนะครับคนที่จะกำหนดยุทธศาสตร์ของรัฐบาลใหม่ การจัดการในการเจรจา วางตำแหน่งว่าใครจะทำงานตรงไหน อย่างไร น่าจะเป็นพลเอกประยุทธ์ ที่เป็นคนกำหนดและเป็นคนเจรจา
เพราะในรถไฟเที่ยวสุดท้ายของพลเอกประยุทธ์ อาสาตัวมานี่นะครับ ถ้าพลาดพลั้งพังนะครับ เสียผู้เสียคนนะครับ จมดิน ขุดไม่ขึ้นนะครับ ที่ทำดีมาแล้วก็จะหมดเลย เพราะฉะนั้นมีความเสี่ยงสูงครับสำหรับพลเอกประยุทธ์ ในระยะเวลาต่อไปในการนั่งตำแหน่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
เพราะฉะนั้น จึงไม่มีทางหรอกครับที่พลเอกประยุทธ์นี่นะครับจะยอมให้บรรดานักการเมืองทั้งหลายไปทำเหมือนที่ทำอยู่ในขณะนี้ แต่คนเหล่านี้เวลาปล่อยข่าวเพื่อต้องการประโยชน์ของตัวเอง ไม่คำนึงถึงความเสียหาย ผมเรียนย้ำนะครับ นึ่คือสันดานนักการเมือง มีคนจำนวนมากครับคงคิดคล้ายๆผม ถ้าไม่มีการเลือกตั้งก็ดี แต่เลือกมาแล้วก็ต้องเดินต่อไปตามครรลองของรัฐธรรมนูญ ที่เหลือก็อยู่ที่ความสามารถและพลังของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาล่ะครับว่าจะพาบ้านเมืองไปทางไหน สวัสดีครับ