อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางข้อกม.ชัดๆเงินกู้เป็นรายรับ งานนี้คุกหนักสุด10ปี

ชูชาติ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางข้อกฏหมายดูกันชัดๆเงินกู้ยืมเป็นรายรับ งานนี้หากผิดจริงคุกหนักสุดถึง10ปี

จากกรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)​ได้ออกมาชี้แจงที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน​ 110 ล้านบาท มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ขัดกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น ยืนยันว่า พ.ร.ป.ดังกล่าวระบุเฉพาะที่มารายได้ของพรรคการเมือง ไม่ได้ระบุรายจ่าย นี่คือการกู้เงิน ซึ่งในการเป็นหนี้ของพรรค เป็นรายจ่าย ไม่ใช่รายได้ ส่วนที่บอกกันว่านายธนาธรเป็นหัวหน้าพรรค จะเข้าข่ายครอบงำพรรคหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นการให้กู้เงิน ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ของกฎหมาย

 

ล่าสุดนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng โดยมีการหยิบข้อกฎหมายในเรื่องเงินกู้ยืม รวมทั้งพรป.การเมือง ในการแจ้งเรื่องรายได้รายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง และโทษจากความผิดที่กระทำต่อกฎหมาย ซึ่งได้นำกรณีของพรรคอนาคตใหม่มากล่าวไว้ด้วยดังนี้

 

.....เรื่องที่พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรือง กิจ หัวหน้าพรรค ซึ่งไม่อาจทราบได้ว่า 110 ล้านบาทอย่างที่หัวหน้าพรรคกล่าว หรือ 250 ล้านบาท อย่างที่โฆษกพรรคกล่าว

 

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางข้อกม.ชัดๆเงินกู้เป็นรายรับ งานนี้คุกหนักสุด10ปี

 

 

 

.....โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า เงินดังกล่าวไม่ใช่รายได้ แต่เป็นรายจ่าย จึงไม่ต้องรายงานต่อ กกต.

.....ไม่ทราบว่าโฆษกพรรคอนาคตใหม่ใช้หลักการคิดมาจากไหนที่ว่าเงินที่ได้มาจากกูยืมผู้อื่นนั้นเป็นรายจ่าย

.....ตามกฎหมายถือว่าเงินที่ได้มาจากการกู้ยืมบุคคลอื่นเป็นรายรับที่ได้มาจากกู้ยืมเงิน

.....ส่วนในหลักการทางบัญชีไม่ทราบว่า เงินที่กู้ยืมมาถือว่าเป็นรายได้หรือจ่าย ต้องนำมาลงในบัญชีด้านรายรับหรือรายจ่าย

.....พรป.พรรคการเมือง มาตรา ๖๒ พรรคการเมืองอาจมีรายได้ ดังต่อไปนี้

(๑) เงินทุนประเดิมตามมาตรา ๙ วรรคสอง

 

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางข้อกม.ชัดๆเงินกู้เป็นรายรับ งานนี้คุกหนักสุด10ปี

 

(๒) เงินค่าธรรมเนียมและค่าบํารุงพรรคการเมืองตามที่กําหนดในข้อบังคับ

(๓) เงินที่ได้จากการจําหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรคการเมือง

(๔) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมือง

(๕) เงิน ทรัพย์สิน และประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการรับบริจาค

(๖) เงินอุดหนุนจากกองทุน

(๗) ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคการเมือง

.....เงินกู้ยืมจึงไม่ใช่รายได้ที่กฎหมายอนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถกระทำได้

 

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางข้อกม.ชัดๆเงินกู้เป็นรายรับ งานนี้คุกหนักสุด10ปี

 

.....มาตรา ๘๗ เงินและทรัพย์สินของพรรคการเมืองต้องนําไปใช้จ่ายเพื่อดําเนินกิจกรรม ทางการเมืองของพรรคการเมือง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและสมาชิก และค่าใช้จ่ายในการบริหารพรรคการเมือง

.....เงินของพรรคการเมืองจะนำไปใช้ได้เฉพาะตามที่ระบุไว้ในมาตรานี้เท่านั้น จะนำไปชำระเงินกู้ไม่ได้ ถ้านำไปใช้ก็จะมีความผิดและมีโทษตามมาตรา ๑๓๒

 

.....มาตรา ๑๓๒ หัวหน้าพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง และเหรัญญิก พรรคการเมืองผู้ใดนําหรือยินยอมให้บุคคลอื่นนําเงินหรือทรัพย์สินของพรรคการเมืองไปใช้จ่าย เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่น หรือนําไปใช้เพื่อการอื่นใด อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๘๗ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ ๕ ปีถึง ๑๐ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐ บาทถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

 

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา กางข้อกม.ชัดๆเงินกู้เป็นรายรับ งานนี้คุกหนักสุด10ปี

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Chuchart Srisaeng