- 22 พ.ค. 2562
ผมเข้าใจว่า การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สมัยผมนั้นจบไปแล้ว และผมได้ขอโทษท่านในที่ประชุมใหญ่พรรคไปแล้วว่า ผมต้องขอโทษท่านด้วยที่ผมต้องสู้กับท่าน เพราะผมต้องการเห็นพรรคดีขึ้น แต่หลังจากทราบข่าวว่าท่านพูดพาดพิง การเลือกหัวหน้าพรรคที่ผ่านมาว่าการแทรกแแซงจากภายนอก มีมาตั้งแต่สมัยเลือกหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว
ถือเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเมื่อช่วงเย็น ของวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยได้หยิบยกประเด็น กรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ โพสต์พาดพิงผู้มากบารมีเข้ามาแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับนายพีระพันธุ์ และที่ผ่านมาตนพูดถึงปัญหาภายนอกที่เข้ามาแทรกแซง ซึ่งความจริงมีมาตั้งแต่สมัยเลือกหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว ซึ่งวันนี้มีข่าวพยายามแทรกเข้ามาด้วยการใช้เงิน และสิ่งต่างๆ ซึ่งตนได้คุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ว่าจะปล่อยเรื่องนี้หรือ เราต้องควรหาทางพูดกันอย่างไร หรือไม่
“ท่านไม่เอ่ยชื่อ คนทั่วไปก็รู้ว่าหมายถึงใคร จึงขอเรียนว่าผมไม่ได้มีอะไรที่พูดพาดพิงคุณพีระพันธุ์เลย พูดถึงบุคคลภายนอกที่พยายามเข้ามาแทรกแซงด้วยเงิน เพื่อซื้อคนในพรรค” นายชวน กล่าว
(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เดือดปุดวงประชุมปชป.!! "พีรพันธุ์"สวนปาก"นายหัวชวน"อย่าร้อนตัว โพสต์คนบารมีขวางลำนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค)
ล่าสุดนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า รู้สึกเสียใจ!!!!!!
ผมเข้าใจว่า การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สมัยผมนั้นจบไปแล้ว และผมได้ขอโทษท่านในที่ประชุมใหญ่พรรคไปแล้วว่า ผมต้องขอโทษท่านด้วยที่ผมต้องสู้กับท่าน เพราะผมต้องการเห็นพรรคดีขึ้น แต่หลังจากทราบข่าวว่าท่านพูดพาดพิง การเลือกหัวหน้าพรรคที่ผ่านมาว่าการแทรกแซงจากภายนอก มีมาตั้งแต่สมัยเลือกหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว
ผมรู้สึกเสียใจมากที่ท่านคิดว่าคนอย่างผมจะถูกแทรกแซงได้อย่างที่ท่านเข้าใจ ท่านคิดหรือว่า คนที่ต่อสู้กับรัฐบาลหุ่นเชิดทุนสามานย์ ต่อเนื่องมาอย่างยาวนานถึง 6 ปี จนในที่สุดศาลตัดสินให้จำคุก อดีตนายกต้องหนีออกนอกประเทศ จะถูกแทรกแซงได้
ผมยืนยันว่า การที่ผมและเพื่อนๆสู้ในการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคครั้งที่แล้ว เป้าหมายของผมต้องการให้พรรคของเรามีประสิทธิภาพ สามารถสู้กับคู่แข่งขันได้ ถ้าอดีตหัวหน้าพรรค บริหารพรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกผมไม่มีความจำเป็นใดๆต้องไปสู้หรอกครับ
การสู้ของพวกผมก็ได้รับการยืนยันการการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่พรรคของเราแพ้ยับเยิน เราแพ้ชนิดที่เรียกว่ากรุงเทพฯสูญพันธุ์ รวมทั้งภาคใต้และที่จังหวัดตรัง ซึ่งผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า พวกผมมองอนาคตได้ถูก แต่ผิดเพียงว่าพวกผมมาก่อนเวลาเท่านั้นเอง และผมมั่นใจว่าถ้าพวกผมได้บริหารพรรค รับรองผลการเลือกตั้ง ต้องดีกว่านี้แน่นอน
พวกผมได้รับการปลูกฝังมาตลอดว่าพรรคประชาธิปัตย์คือบ้านของพวกเรา ไม่มีใครเป็นเจ้าของ จนวันนี้ผมไม่แน่ใจแล้วว่าพวกผมคือเจ้าของหรือเป็นเพียงผู้ขออยู่อาศัย เพราะเมื่อพวกผมมีความเห็นไม่ตรงกับผู้มีอำนาจ อยากทำพรรคให้ดีขึ้น ก็จะมีคนออกมาให้ร้ายว่าจะมายึดพรรค บางครั้งก็ส่งคนมาไล่ หรือว่าที่ผ่านมาพวกผมเข้าใจผิดไปเอง
พวกผมขอยืนยันว่า ที่อาสาเข้ามาทำงานการเมือง เพราะต้องการเข้ามาดูแลประโยชน์ชาติอย่างแท้จริง จุดยืนของพวกผม จึงยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต้องเหนือสิ่งอื่นใด ต้องเหนือประโยชน์พรรค และเชื่อว่าสิ่งนี้มีในพรรคประชาธิปัตย์ และขอยืนยันว่าไม่มีใครที่จะมาครอบงำหรือแซกแทรงพวกผม................ถ้าพวกผมเชื่อว่านี่คือประโยชน์ประเทศ ไม่มีใครสั่งพวกผมได้ อย่าว่าแต่คนนอกเลยครับ แม้แต่คนในก็สั่งไม่ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- วัฒนาบอกใครโหวตประยุทธ์นายกฯ เท่ากับตบหน้าปชช.
- เร่งยกเลิกคำสั่งคสช! “ปลดล็อค”สรรหากสทช. แก้ปัญหาบอร์ดเกียร์ว่าง ปล่อยสำนักงานแบกภาระ
- เลิกเล่นการเมืองแล้ว! "บิ๊กป้อม" ปัดข่าวลือดัน "น้องชาย" นั่งมท.1
- ภูมิใจไทย ชัดเลือกพลังประชารัฐ ด้วยเงื่อนไขสุดคลาสสิค แต่ที่ยังเหนื่อยหนักก็ลุงตู่