ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง "อนาคตใหม่" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง "อนาคตใหม่" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

เมื่อผลกรรมที่ก่อเริ่มตามกระชั้นจนหายใจรดต้นคอ คดีที่ยังคงไร้ความกระจ่างจากข้อแก้ต่างอันคลุมเครือก็หมักหมมกลายเป็นดินพอกหางหมู สถานะของพรรคอนาคตใหม่ในเวลานี้ จึงทำให้เหล่าผู้สนับสนุนบางคนเริ่มออกอาการหวาดประหวั่น เพราะจากกรณีล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่าไม่เพียงแต่จะทำให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค หมดสิ้นอนาคตทางการเมืองเท่านั้น แต่อาจส่งผลให้พรรคอนาคตใหม่ทั้งแกนนำตลอดจนลูกพรรค ถึงคราวต้องแตกทัพหายออกจากสารบบการเมืองไทยเลยทีเดียว

 

นับว่าเป็นประเด็นร้อนที่ยังคงค้างเติ่ง กับเรื่องราวของการโอนหุ้นอลเวงของนายธนาธร ที่เต็มไปด้วยข้อกังขา และถูกตั้งข้อสังเกตโดยผู้สันทัดกรณีหลายคน ว่าสุ่มเสี่ยงเป็นการกระทำความผิด แต่จนแล้วจนรอดก็ดูเหมือนว่าตนนั้นหาครั่นคร้ามแต่อย่างใดไม่ เมื่อปรากฏท่าทีของนายธนาธร นั้นคล้ายมีความกระหยิ่มในใจ ว่าจะเป็นอีกครั้งคราวที่ตนนั้นหลุดรอดคมเคียวของกฏหมาย หมายเดินเข้าสภาอันทรงเกียรติอย่างองอาจผึ่งผาย

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

แต่แล้วการณ์อาจไม่เป็นไปตามคาด เมื่อมีชนักด้ามใหม่ที่ถูกเงื้อขึ้นโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้าปักหลังนายธนาธร อีกครั้ง ... นับเป็นคดีที่ 7 ที่นายธนาธร ต้องตกเป็นผู้กล่าวหา

 

ด้วยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา ข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไต่สวนสอบสวนวินิจฉัยหัวหน้า อนค. กรณีให้พรรคยืมส่วนตัวจำนวน 110 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมการเมืองในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เข้าข่ายกระทำการขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 หรือไม่

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

หาได้เป็นคำกล่าวหาอย่างเลื่อนลอยไม่ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่หล่นออกจากปากของนายธนาธรในระหว่างบรรยายให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศฟังว่าได้ให้พรรคอนาคตใหม่ยืมเงินจำนวน 110 ล้านบาท ใช้เป็นทุนดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเลือกตั้ง

 

ทั้งนี้นายศรีสุวรรณกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า "การกระทำของนายธนาธร อาจเป็นการขัดหรือฝ่าฝืน พ.ร.ป. พรรคการเมือง มาตรา 124 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ก็จะมีบทลงโทษตามมาตรา 125 คือ ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี และให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินมูลค่าที่กําหนดไว้ตามมาตรา 66 ตกเป็นของกองทุนพรรคการเมือง"

 

ขณะที่ทางด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เรื่องที่นายธนาธรเผยว่า ให้พรรคอนาคตใหม่ยืมเงิน 110 ล้านนั้น เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา ก็มีการยื่นเรื่องดังกล่าว ซึ่งสำนักงานฯจะคงต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยจะมีการคุยกับผู้ร้อง และพิจารณาคำร้องมีมูลหรือไม่ ถ้าไม่มีมูลก็ยุติเรื่อง แต่ถ้ามีมูลก็จะมีการเสนอ กกต.พิจารณา

 

เมื่อถามต่อไปว่า โดยหลักการแล้วพรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงินได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เท่าที่ดูพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง ต้องดูมาตรา 62 เป็นหลัก เกี่ยวกับรายได้พรรคการเมือง ซึ่งดูแล้วไม่มีเรื่องกู้ยืม ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จะพูดอะไรตอนนี้คงไม่เหมาะ

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค


 

ท้ายสุดกับคำถามว่า  เงินกู้ถือเป็นรายได้ของพรรคการเมืองหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า อย่างที่บอก จะพูดอะไรตอนนี้คงไม่เหมาะ จะตอบทันทีคงไม่ได้ ต้องฟังความเห็นของสำนักงาน กกต. และกรรมการคนอื่นๆประกอบด้วย

อย่างไรก็ตามมาตรา 66 ระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้ และในส่วนของมาตรา 62 ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับความผิดดังกล่าวระบุเพิ่มเติมอย่างชัดเจนถึงที่มารายได้ของพรรคการเมืองไว้ทั้งหมด 7 แหล่ง ประกอบได้ด้วย

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

1.เงินทุนประเดิมของพรรค 2.เงินค่าธรรมเนียมและคำบำรุงพรรค 3.เงินจากการจำหน่ายสินค้าและบริการของพรรค 4.เงินที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค 5.เงินที่ได้จากการรับบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุนพรรคการเมือง 7.ดอกผลและรายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคเท่านั้น จากทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าไม่มีการระบุถึงแหล่งเงินที่มาจากการ "กู้ยืม" อย่างใดไม่

 

แต่ดูเหมือนว่าการพยายามพายเรือในหนองด้วยวิธีการพูดจาวกวนไปมา จากการเปิดเผยต่อสาธารณะโดยแกนนำของพรรคเองนั้น กลับปรากฏว่ามีตัวเลขการกู้ยืมที่ไม่ตรงกัน ปรากฏมีตัวเลข 3 ชุดด้วยกันได้แก่ 90 ล้านบาท, 110 ล้านบาท และ 250 ล้านบาท

 

โดยทางด้านของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษก อนค. ชี้แจงว่าจำนวนเงินที่เป็นวงเงินสูงสุดที่นายธนาธรกำหนดให้ อนค. กู้ อยู่ที่เพดาน 250 ล้านบาท แต่การดำเนินกิจกรรมจนถึงวันเลือกตั้ง พรรคกู้ไป 90 ล้านบาท และจนถึงวันนี้ก็มีการกู้เพิ่มไปอีกเล็กน้อย เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายจิปาถะบำรุงพรรคฯ รวมทั้งสิ้นจึงเป็นเงิน 110 ล้านบาท และยืนยันเพิ่มเติมว่า พรรคการเมืองไม่ใช่องค์กรแสวงหาผลกำไร และนายธนาธร ก็ไม่คิดแสวงหาผลกำไรจากการให้กู้ครั้งนี้ จึงคิดดอกเบี้ยแบบเงินกู้ระยะยาว

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

ด้วยจำนวนเงินที่ไม่น้อย จึงเกิดคำถามว่าจะมีการคืนเงินทั้งหมดในกรอบระยะเวลาเท่าใด ซึ่งทางโฆษก อนค. ก็เปิดเผยเพิ่มเติมว่าเบื้องต้นมีข้อเสนอว่าอาจมีการเพิ่มอัตราค่าสมาชิกของพรรค จากคนละ 100 บาท เป็น 200 บาท

 

ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวได้มีผู้สันทันกรณีหลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจ เริ่มที่นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษา ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า การให้พรรคอนาคตใหม่ยืมเงินเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 62 และตามมาตรา 87 จะนำเงินของพรรคการเมืองไปใช้หนี้เงินกู้ยืมไม่ได้ ถ้าฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 132 ที่กำหนดไว้ว่ามีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสนถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถัดมากับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ได้แสดงความเห็น ความโดยสรุปว่า เจตนาของการมีพรรคการเมืองนั้น ก็เพื่อรวบรวมคนที่มีจุดยืนและนโยบายเดียวกัน เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน

 

ดังนั้น แหล่งเงินหลักจึงควรจะมาจากผู้ที่เข้ามาร่วมกัน เพราะฉะนั้น การที่ อนคม. ไปกู้เงินจากคุณธนาธร จึงเป็นการกระทำที่ผิดหลักการ และเห็นว่าวิธีการกู้เงินจากคุณธนาธรนั้น ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย ไม่ตรงไปตรงมา และทำให้ประชาชนที่ตั้งความหวังว่าจะมีการเมืองแบบใหม่ ผิดหวังกันไปตามๆ กัน ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ ก็จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ กกต. และศาล

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

ขณะที่ทางด้าน นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อดีตประธานกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง (สปท.) ได้ระบุถึงกรณีดังกล่าวไว้ในตอนหนึ่งอย่างน่าสนใจว่า การกู้ยืม นั้น ก็เป็นการได้เงินมารูปแบบหนึ่ง เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าผู้ได้รับเงินไปที่เรียกว่า”ผู้กู้”นั้น จะต้องคืนเงินในเวลาที่ตกลงกันในภายหลังหรือในอนาคต (ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้รับคืนหรือเปล่า) การคืนเงินหรือไม่จึงไม่ใช่สาระสำคัญของรายได้ของพรรคการเมือง แต่การรับเงินดังกล่าว ถือเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ที่จะต้องอยู่ในเกณฑ์ของ พรป.พรรคการเมือง มาตรา 62

 

ดังนั้น ปัญหาที่เป็นสาระสำคัญจึงอยู่ที่”การได้รับเงิน” หรือ “รายได้”ของพรรคการเมือง ว่า พรรคการเมืองนั้นได้รับเงินนับร้อยล้านบาทที่ไม่เป็นไปตามที่พรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 บัญญัติไว้ จึงเป็นประเด็นสำคัญว่าเป็นความผิดหรือไม่

 

ซึ่งเมื่อพรรคการเมืองดังกล่าว ได้รับเงินมาเป็นรายได้ ไม่ว่าจะมาในรูปของการรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใด หรือได้รับจากการจากกู้ยืมเงินซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้ เมื่อพรรคการเมืองนั้น โดยรู้หรือควรรูว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ไม่เป็นไป ตาม พรป.พรรคการเมือง มาตรา 62 และมิได้เป็นไปตาม หมวด 5 ในเรื่องของรายได้ของพรรคการเมือง จึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืน พรป.พรรคการเมือง มาตรา 72 และมาตรา 74

 

คณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงมีอำนาจและหน้าที่ในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นได้ ตาม พรป. มาตรา 92(3) ซึ่งจะทำให้พรรคการเมืองนั้นสิ้นสุดลง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวนั้นได้ ตาม พรป.พรรคการเมือง มาตรา 90

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

และนี่คือวิบากกรรมทางการเมืองของนายธนาธร ที่ดูเหมือนจะใกล้ถึงวันชำระสะสางเข้าทุกขณะ โดยเฉพาะกับรายงานล่าสุดเปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ 23 พ.ค. 2562  ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่า เตรียมพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลรัฐพิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 กรณีการถือหุ้นสื่อ ...

 

เมื่อนายธนาธร ต้องอยู่ในสถานการณ์คอพาดเขียง มิวายกอดคอลูกพรรคจวนเจียนดิ่งลงเหวไปพร้อมกัน อนาคตของอนาคตใหม่หลักจากนี้จะถึงคราวดับสูญและหายไปจากสารบบการเมืองไทยเช่นว่านั้นจริงหรือไม่ ... น่าจับตายิ่ง!!

 

ไม่พ้นบ่วงกรรม!! จับตา 23 พ.ค.นี้ ชี้ชะตาปมหุ้นสื่ออลเวง กระหน่ำซ้อนปล่อยกู้110 ล้าน ตั้ง \"อนาคตใหม่\" หากผิดจริง ส่อโดนยุบทั้งพรรค

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เดือดต่อเนื่อง! พีระพันธุ์ กรีด นายหัวชวน เล่าเหตุการณ์ขณะประชุมพรรค บรรดาส.ส.ลุกขึ้นตอบโต้!

นึกว่าอ่านนิยาย? "ณัฐวุฒิ" สาธยายครบรอบวัน "นายหญิง" หมดอำนาจ เพ้อถึงชีวิตตอนเป็นนักโทษถูกขังในห้องแคบ!

โอ๊ค คอยเก้อ.. มติประชาธิปัตย์หักเหลี่ยม! รวมพรรคไหนก็ได้ ไม่ใช่ “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” แท็กทีมภูมิใจไทย ไปไหนไปกัน!

อนุทิน-เฉลิมชัย!?!กลยุทธ์เซียนการเมืองเปิด:ปิดดีลขั้วที่3