- 26 พ.ค. 2562
นายศุภชัย ได้ 256 เสียง ได้เป็นรองประธานสภาฯคนที่สองไปตามคาดหมาย ขณะที่ นพ.ประสงค์ ได้ 239 เสียง
26 พ.ค.62 เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุมใหญ่บริษัททีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) เพื่อเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และรองประธานสภาผู้แทนราษฏร คนที่ 2 โดยมีนายชัย ชิดชอบ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมชั่วคราว
โดยพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อน.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ภายหลังเสร็จสิ้นการลงคะแนนลับและเข้าสู่การนับคะแนน ปรากฏว่า ทั้งสองฝ่ายมีคะแนนสูสีกันมาก โดยฝ่ายนายสุชาติ มีคะแนนนำเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 5 คะแนน บางช่วงคะแนนของน.ส.เยาวลักษณ์ตีตื้นมาเสมอกัน แต่ก็ถูกนายสุชาตินำไปอีก 2-3 คะแนน สลับกันอยู่อย่างนี้ตลอดการนับคะแนน ท้ายที่สุด นายสุชาติก็สามารถเฉือดชนะ น.ส.เยาวลักษณ์ เพียง 2 คะแนน ด้วยมติ 248 ต่อ 246
ในเวลาต่อมา เมื่อเริ่มการประชุม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เสนอชื่อ นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ส.ส.นครพนม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นรองประธานสภาฯคนที่ 2 ขณะที่ นายอารี ไกรนรา จากพรรคเพื่อชาติ เสนอชื่อ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ หรือหมอสงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย โดยใช้วิธีการลงคะแนนลับแบบเดียวกับการโหวตเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่ผ่านมา โดยมีการตั้งตัวแทนจาก 6 พรรคการเมือง เป็นคณะกรรมการตรวจนับคะแนน
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้น โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า มีข้อสังเหตุว่าบัตรใบแรกมีการเขียนชื่อ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นรองประธานสภาฯ จึงอยากให้มีการตรวจสอบบัตรลงคะแนนใหม่เพื่อวินิจฉัยว่า เป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย ส่วนการใช้กล้องคลิปวิดีโอขณะการลงคะแนนนั้น ตนเกรงว่าจะผิดรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ลงคะแนนลับ ตนยอมไม่ได้หากจะทำให้สภาฯ เสื่อมเสีย
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนอยู่สภาฯ มานาน แต่ไม่เคยเห็นว่ามีการบันทึกคลิปวิดีโอกันมากขนาดนี้ ตนไม่อยากจินตนาการว่า ต้องการบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปวางบิลหรือไม่ เพราะมีการสังเกตพบว่าบัตรบางใบมีการทำเครื่องหมายข้างล่างข้างบนของบัตร กลัวผู้ใหญ่ของพรรคเช็คไม่ได้หรือไงว่ามีการลงคะแนนให้ จึงอยากให้ประธานสั่งยุติการบันทึกวิดีโอ เพราะอาจจะขัดรัฐธรรมนูญ
จากนั้นได้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย อีกหลายคนลุกขึ้นมาอภิปรายสนับสนุนข้อสังเกตของ นพ.ชลน่าน ว่า บัตรที่เขียนนามสกุลผิดดังกล่าว ควรเป็นบัตรเสีย ซึ่งอาจจะมีแค่บัตรเดียว คงไม่ทำให้ถึงกับคะแนนแพ้ฝ่ายตนหรอก เพราะตอนนี้เราเตรียมตัวเป็นฝ่ายค้านแล้ว พร้อมระบุว่า บัตรบางใบเขียนชื่อศุภชัยไว้ข้างบน ส่วนข้างล่างเขียนนามสกุล ไม่รู้ว่าเป็นการทำเครื่องหมายหรือไม่
ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ใช้สิทธิพาดพิงอภิปรายว่า ให้ดูที่เจตนาของการลงคะแนนเป็นหลัก เพราะคนเขียนต้องการที่จะลงคะแนนให้กับ นายศุภชัย โพธิ์สุ ไม่ใช่ตน หรือ นพ.ประสงค์ ส่วนการบันทึกวิดีโอนั้น ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเราลงคะแนนลับไปแล้ว ส่วนการนับคะแนนให้อย่างเปิดเผย แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ยังยืนกรานให้มีการตรวจสอบบัตรลงคะแนนใหม่ นายชัย จึงสั่งนับคะแนนต่อแล้วค่อยนำบัตรมาตรวจสอบอีกครั้งในภายหลัง
กระทั่งเวลา 17.12 น.การนับคะแนนสิ้นสุดลง แต่ยังไม่สามารถประกาศผลคะแนนได้ เนื่องจากมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย รุมประท้วงปมบัตรเสีย พร้อมขู่ที่จะเสนอญัตติใหม่ให้ตรวจสอบบัตรลงคะแนน ขณะที่ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า ขอให้จบกันไป เพราะคะแนนขาดมาก อยากจะให้ฟรีๆ สัก 5 คะแนนด้วยซ้ำ ขอกันกินมากกว่านี้ ปรากฏว่าถูก ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามประท้วงว่าขอให้ถอน เพราะทุกคนกินข้าวเหมือนกัน รู้เหมือนกัน
และบรรยากาศเริ่มดุเดือดขึ้นเมื่อ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคศรีวิไลย์ ลุกขึ้นเสนอว่าเกมจบแล้วยังมีเวลาอีกเยอะ แต่ถูก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตะโกนสวนทันทีว่า เลอะเทอะ ทำอย่างนี้ไม่เท่ห์ พร้อมมีเสียงตะโกนโห่ตามมา
จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการบันทึกเหตุการณ์วันนี้เอาไว้ และตนจะยื่นญัตติตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป ขณะที่ นายชัย กล่าวว่า ตนจะหมดวาระแล้วในอีกไม่กี่นาที อย่าทรมานคนแก่เลย รอให้ประธานสภาฯตัวจริงเขาดำเนินการดีกว่า
ขณะที่ นพ.ชลน่าน เสนอให้มีการเก็บบัตรไว้ก่อนอย่าเพิ่งทำลายเพราะถือเป็นหลักฐาน แต่นายชัย ตอบว่า ทำไม่ได้เพราะต้องทำลายตามข้อบังคับ พร้อมกับถามว่าทำแล้วได้อะไร นพ.ชลน่าน จึงชี้แจงว่า ได้ความถูกต้อง จากนั้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เสนอให้ประธานวินิจฉัยว่าบัตรใบเดียวนี้เป็นบัตรดีหรือบัตรเสียเพื่อบันทึกไว้ แต่นายชัย แจ้งว่า เรื่องใหญ่ไม่กล้าวินัจฉัย พร้อมขอความเห็นว่าทำหน้าที่มาสองวันแล้ว ขอความเมตตาธรรมด้วย ทำให้สมาชิกปรบมือให้กำลังใจนายชัย
ปรากฏว่า นายศุภชัย ได้ 256 เสียง ได้เป็นรองประธานสภาฯคนที่สองไปตามคาดหมาย ขณะที่ นพ.ประสงค์ ได้ 239 เสียง จากนั้นนายชัย กล่าวอำลาหน้าที่ประธานสภาฯ ชั่วคราวพร้อมสั่งปิดประชุมสภาฯ เมื่อเวลา 17.39 น.