สส.อนาคตใหม่คำราม!ซื้อกี่ครั้งก็ไม่ขาย ไม่แจ้งความเพราะกลัว

จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ตรวจสอบและเรียก หัวหน้าพรรค โฆษก และ สส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 13 ราย มาไต่สวน สอบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติ กรณีมีบุคคลและหรือคณะบุคคลมาเสนอให้เงินหรือผลประโยชน์หรือซื้อตัว สส.พรรคอนาคตใหม่ 50-120 ล้านว่าจริงหรือเท็จประการใด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ศรีสุวรรณ"ร้องกกต.ฟัน"ธนาธร"ปล่อยกู้อนาคตใหม่ 110ล.- โทษหนักตัดสิทธิ์เลือกตั้ง

 

 

ต่อมา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. ก็ออกมาพูดถึงนายศรีสุวรรณ ว่า เรื่องนี้ตนได้ไปพาดพิงถึงนายศรีสุวรรณ ได้รับความเดือดร้อนจากสิ่งที่ตนได้แถลงไปหรือไม่ ตนไม่แน่ใจว่าการให้ข่าวของตนผิดอย่างไรและตนยืนยันว่ามีการเสนอเงินจำนวน 120 ล้านจริง และหลายคนที่ได้แถลงข่าวก็มีหลักฐาน ซึ่งต้องแล้วแต่พรรคว่าจะให้เปิดหลักฐานหรือไม่ หากพรรคมีมติให้เปิดหลักฐานตนก็พร้อมที่จะเปิดเผย เช่น คลิปเสียง ส่วนตัวตนเชื่อว่าเขาไม่ให้ 120 ล้านบาท เขาเพียงแค่เสนอมา แล้วให้เพียง 10 ล้านแล้วหายไปเลยก็ได้ "เงินจำนวน 120 ล้านบาทสำหรับตนไม่ใช่เพียงการซื้อ 1 สิทธิ์หนึ่งโหวต

 

 

ล่าสุวันนี้(8 มิ.ย.) นายสมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.จังหวัดสมุทรสาคร พรรคอนาคตใหม่ ก็ได้ออกมาเปิดเผยกรณีมีผู้มาเสนอเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทเพื่อให้ลงมติเลือกประธานสภา และนายกรัฐมนตรีโดยสวนทางกับมติของพรรค ว่า ครั้งแรกมีการโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ของตน เสนอเงินให้ 20 ล้านบาท แบ่งจ่ายเงินเป็น 3 ก้อน ก้อนแรกให้ 6 ล้านบาทในการลงมติเลือกประธานสภา ก้อนที่ 2 อีก 7 ล้านบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรี และก้อนสุดท้าย 7 ล้านบาทหลังจากเลือก 2 ตำแหน่งนี้แล้ว แต่ตนได้ปฏิเสธไปไม่สามารถรับข้อเสนอนี้ได้

 

 

 

 

ทั้งนี้นายสมัคร ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้มาหาตนถึงบ้านที่อ้อมน้อย และเจรจายื่นข้อเสนอเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท แต่ตนยังยืนยันว่าไม่สามารถรับเงินได้ และทำให้ตนเองเริ่มรู้สึกหวาดกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยและสอบถาม ส.ส.สมุทรสาครพรรคอนาคตใหม่ด้วยกัน คือนายทองแดง เบ็ญจะปัก ก็ทราบว่าได้รับการติดต่อเสนอเงินถึง 50 ล้านบาท จากบุคคลกลุ่มเดียวกัน จึงนำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษากับคนในพรรคเพื่อเปิดเผยต่อสังคมและสื่อมวลชนตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

 

“กลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นคนมีชื่อเสียงและเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดสมุทรสาคร ทุกคนรู้จักกันดีและที่ยังไม่แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายและเปิดเผยชื่อนั้น ขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งความไว้ก่อน เพราะเกรงกลัวถึงความปลอดภัยของตนเองและคนในครอบครัว

 

หากเปิดเผยชื่อออกมา กว่าจะผ่านขั้นตอนตามกฎหมายจนเสร็จสิ้น ใช้ระยะเวลานาน ไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย จึงยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้  ยืนยันตนเองไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะแน่นอน มีคนเสนอเงินให้เพื่อให้เป็นงูเห่าถึง 30 ล้านบาท แต่ไม่ขอรับเพราะเป็นคนที่มีอุดมการณ์ในการทำงาน ต่อให้มาติดต่ออีกกี่ครั้งกี่หนก็จะไม่ยอมขายตัวอย่างเด็ดขาด ย้ำว่าตนไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะแน่นอน”