- 12 มิ.ย. 2562
กลับมาเกาะติดสถานการณ์การเมือง เรียกว่าเรียบร้อย “โรงเรียนลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขึ้นนายกรัฐมนตรีคนที่29 สมัยที่2 ก้าวแรกอย่างเป็นทางการของรัฐบาล”บิ๊กตู่ 2 / 1” ภายหลังจากพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
กลับมาเกาะติดสถานการณ์การเมือง เรียกว่าเรียบร้อย “โรงเรียนลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ขึ้นนายกรัฐมนตรีคนที่29 สมัยที่2 ก้าวแรกอย่างเป็นทางการของรัฐบาล”บิ๊กตู่ 2 / 1” ภายหลังจากพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.62 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
สิ่งที่ต้องจับตากันต่อจากนี้หน้าตารายชื่อ ครม.ใหม่ ที่กำลังจะคลอดในไม่ช้า เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ จะใช้ดีลเดิมที่มีการเจรจาตั้งแต่ต้น
คือพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการจัดสรร 8 ตำแหน่ง โดยมีบุคคลเข้าปฏิบัติหน้าที่ 7 คน แบ่งเป็น รองนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง, รัฐมนตรีว่าการ 3 ตำแหน่ง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, รัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 ตำแหน่ง คือ รมช.มหาดไทย, รมช.คมนาคม, รมช.ศึกษาธิการ และ รมช.สาธารณสุข
เบื้องต้นรายงานข่าวแจ้งว่า "กัปตันอู๊ดด้า" นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. เป็นรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาฯ พรรคปชป.เป็น รมว.เกษตรฯ ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อยู่ระหว่างการพิจารณาของพรรคคือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนายจุติ ไกรฤกษ์ ส่วนโควตา รมช.มหาดไทย เป็นการแข่งขันระหว่างนายนิพนธ์ บุญญามณี กับนายถาวร เสนเนียม
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ได้รับการจัดสรร 8 ตำแหน่งเช่นกัน คือรองนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง, รัฐมนตรีว่าการ 3 ตำแหน่ง คือ กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงคมนาคม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา, รัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 ตำแหน่ง คือ รมช.มหาดไทย, รมช.เกษตรฯ, รมช.พาณิชย์ และ รมช.ศึกษาธิการ
โดยมีรายงานว่า “เสี่ยหนู”นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะนั่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นั่ง รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามีนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท. นั่ง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนตำแหน่ง รมช. 4 ตำแหน่ง ตัวบุคคลยังไม่นิ่ง
แม้พรรคร่วมจะจัดสรรกันอย่างลงตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ปัญหาของการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ยังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะปัญหาภายใน “คลื่นใต้น้ำ”ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคแก่นหลักในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการเขย่าของกลุ่มสามมิตร ที่นำขบวนโดย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่ยังคงอารมณ์ ผิดหวังจาก กระทรวงคมนาคม-กระทรวงเกษตรฯ ที่ หมายมั่นปั่นมือ ปักธงรอเตรียมขึ้นนั่งคุมเก้าอี้เจ้ากระทรวง แต่ก็ได้ตกไปอยู่ในโควต้าของฝั่งพรรคร่วม ออกมาเคลื่อนไหวส่งสัญญาณ พยายามทวงคืน กระทรวงเกรดเอ เรียกร้องกดดันไปถึงพล.อ.ประยุทธ์อยู่เป็นระยะๆ แต่ทว่าก็ไม่สำเร็จ
เมื่อสามมิตรไม่ได้กระทรวงที่ต้องการ จึงมีการเบนเข็มหาเป้าหมายกระทรวงอื่น ซึ่งตามกระแสข่าวที่ปล่อยออกมาคือ นายสุริยะ นั่ง รมว.พลังงาน - นายสมศักดิ์ นั่งรมว.ยุติธรรม ซึ่งปัญหาสำคัญยังไม่จบเท่านี้ เพราะกระทรวงพลังงาน ก่อนหน้านี้มีชื่อของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค ปรากฏออกมาก่อนแล้ว กระแสข่าวดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่า ได้มีการเสนอให้นายณัฏฐพล ไปนั่ง รมว.ศึกษาธิการแทน ซึ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้นแสดงว่าต้องเกิดการปะลองกำลังในพรรคกันยกใหญ่อย่างแน่นอน ก็เพราะวงในต่างทราบกับดีว่า นายณัฏฐพล เป็นหนึ่งใน”สายตรง”ของ พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนอดีต 4 รัฐมนตรีนั้น นายอุตตม สาวนายน จะนั่ง รมว.การคลัง, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.อุตสาหกรรม, นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม
นอกจากนี้ ยังมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั่ง รมว.มหาดไทย, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.แรงงาน และนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม
ท้ายที่สุดต้องติดตามบทสรุปโฉมหน้าครม.จะออกมาทิศทางใด นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตอนนี้อำนาจเต็มกลับมาอยู่ที่มือ ในการคัดสรรบุคคลที่ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก สำคัญมิใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือพรรคพวก นำพาประเทศไทยให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป ตามเจตนารมณ์ ของพล.อ.ประยุทธ์
“ผมขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ผมพร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย”
ส่วนใครที่ทำตัวเป็นปัญหา เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มาก่อนประโยชน์ งานนี้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องจัดการให้ เบ็ดเสร็จและ เด็ดขาด อย่างนำความเสี่ยงของชาติ มาอยู่ในมือของคนกลุ่มนี้