- 19 มิ.ย. 2562
ส่องขั้ว-แยกพวกในพรรคพลังประชารัฐ ทำไมยังยุ่งไม่จบ??? วัดกำลัง-แตกหัก บิ๊กตู่ต้องเอาให้อยู่!?!
ฟังจากที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพลังประชารัฐ ส่งรายชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแล้ว ส่วนการพิจารณาครั้งสุดท้าย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ ซึ่งฟังแล้วอาจดูดีมีสัมมาคารวะรู้จักกาลเทศะยิ่ง หากแต่ความเป็นจริงเป็นเช่นนี้หรือไม่??? คงมีประเด็นที่ให้คอการเมืองสภากาแฟได้พูดกัน เพราะที่ผ่านมาในการเรื่องของการจัดสรรเก้าอี้โควตารัฐมนตรีมีแรงกระเพื่อมที่ออกมาจากพลังประชารัฐเสียเป็นส่วนใหญ่ หรืออาจพูดได้ว่าแทบทั้งหมดของข่าวที่ถูกปล่อยออกมาหลุดรอดออกมาจากพลังประชารัฐทั้งสิ้น รวมทั้งล่าสุดที่ว่ากันว่า กระแทกกระทั้นมาถึงพี่น้อง3ป.ด้วยจากกลุ่มสามมิตรเท็จจริงอย่างไร มากน้อยแค่ไหนลองมาติดตามกัน!!!
ก่อนหน้านี้เป็นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หนึ่งในแกนนำกลุ่มสามมิตร ที่ออกมาแก้ตัว-แก้ต่าง ชี้แจงในเรื่องของการแย่งรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้เคลียร์ตัวเองไปเรียบร้อยเมื่อล่าสุดที่ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหาสาระรายละเอียดสังคมได้รับทราบกันแล้ว ในขณะที่นายสุริยะ ก็ออกมาเป็นข่าวอยู่ในห้วงเวลานี้ทั้งตำแหน่งแห่งหนของตนเองที่กลับคำไม่เอาตำแหน่งก็เปลี่ยนมาขอมีเก้าอี้ด้วย ส่วนภาพที่ออกมาเรียกร้องตำแหน่งรัฐมนตรี จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่ นายสุริยะ ก็ตอบว่า คนที่มาทำงานการเมืองบางคนก็อยากได้ตำแหน่ง ตนไม่รู้ว่าการทำงานของพรรคจากนี้จะราบรื่นหรือไม่ เพราะเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรีเสร็จแล้ว ทุกฝ่ายต้องมาช่วยกันทำงาน และเชื่อว่าจะไม่เกิดรอยร้าวภายในพรรค
และเมื่อถามถึงแกนนำกลุ่มสามมิตรที่ถูกกดดันไม่ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรี นายสุริยะ ก็กล่าวว่า ทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ส่วนที่กระทรวงพลังงาน มีชื่อนายสุริยะ ติดโผเป็นรัฐมนตรี แต่ล่าสุดอาจถูกแย่งไปเป็นของคนอื่นนั้นต่อคำถามนี้ นายสุริยะ ตอบว่า “ไม่ทราบ เป็นเรื่องของนายกฯ พิจารณาความเหมาะสม”
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้รับรายชื่อรัฐมนตรีจากทุกพรรคหมดแล้ว และได้แจ้งไปยังพรรคต่างๆถือว่าปิดบัญชีแล้ว แต่ละพรรคจะมีเรื่องอะไรขอให้ไปคุยกันเอง รายชื่อรัฐมนตรีนายกฯจะเป็นผู้ดูเอง เป็นการดูความเหมาะสม จากนั้นส่งรายชื่อให้เลขาฯครม.ตรวจสอบคุณสมบัติ และได้ทยอยส่งไปบ้างแล้วสำหรับรายชื่อคนที่ไม่มีปัญหา ส่วนหากเลขาฯครม.เห็นว่ามีปัญหา จะรายงานให้นายกฯทราบ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการยับยั้งบางราย ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้เวลาถึงสิ้นเดือนมิ.ย. จากนั้นนายกฯสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้
นั่นคือในส่วนขั้นตอนล่าสุดที่รองนายกฯวิษณุ แจกแจงออกมา หากแต่ภายในพรรคพลังประชารัฐยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ โดยมีการถ่ายทอดออกมาผ่านสื่อถึงแรงกระเพื่อมจากนักการเมืองพันธุ์อาชีพกับพี่น้อง3ป. อันเนื่องมาจากการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อาจไม่ได้ร่วมอยู่ในครม. รวมทั้งพลพรรคที่หอบหิ้วเข้าไปในช่วงก่อตั้งพรรค และถึงขั้นกับว่า มีการประลองกำลังกันภายในด้วย เพราะทราบกันดีว่า พลังประชารัฐประกอบด้วยกลุ่มขั้วหลากหลาย ทั้งก๊วน4กุมาร 4รัฐมนตรีสายดร.สมคิด อันประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค
สายกปปส.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรัฐบาลบิ๊กตู่ และนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกมาย้อนเกล็ดพวกทวงเก้าอี้รัฐมนตรี
“ลุงตู่น่าจะทวงบ้างนะครับว่า ถ้าไม่มีผม พวกคุณจะได้มานั่งสลอนกันแบบนี้หรือ”
สำหรับเรื่องโควตารัฐมนตรีตามที่สื่อสำนักหนึ่งพูดถึงบอกว่า อยู่กับกปปส. 2 เก้าอี้ คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ที่ช่วงแรกจะได้คุมกระทรวงพลังงานแต่ตอนหลังออกมาคล้ายยอมรับหากพลาดหวังด้วยเชื่อมั่นต่อตัวผู้นำ นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ อีกหนึ่งคือ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ตัวเต็ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
ขณะที่อีกขั้วใหญ่ในพลังประชารัฐแน่นอนว่าย่อมเป็นกลุ่มสามมิตร ที่มีนายสมคิดเป็นตัวเชื่อมไปยังแก๊ง 4 กุมารอย่างที่บอกไว้ข้างต้น เช่นนี้พอจะเห็นภาพแล้วใช่หรือไม่ ว่าภายในพลังประชารัฐ มีขุมข่ายที่ขึงประลองกำลังกันอยู่ โดยกลุ่มสามมิตร-สี่กุมาร กับอีกฟากนั่นคือ กลุ่ม3ป. ผนึกกปปส.และอาจรวมถึงกลุ่มด้ามขวานไทยด้วย
นอกจากนี้ตามที่สื่อดังกล่าวหยิบมาเขียนไว้ ถึงเบื้องหลังว่าระดับ “พี่ใหญ่” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อสายเคลียร์กับคนพลังประชารัฐที่ถูกหักหลัง “3 ป.” กับ “2 น.” ประเคนเก้าอี้เกรดเอให้ภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ยังถูกปลายสายถามกลับ “ประวิตรไหน”นั้น
ถ้านั่นคือเรื่องที่จะบอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐ ก็อยากจะบอกถึงอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ว่ากันว่า ในวันโหวตนายกรัฐมนตรี ลูกน้องของหนึ่งในแกนนำกลุ่มสามมิตรกับลูกน้องของพี่ใหญ่3ป.เกือบจะฟาดปากกันมาแล้ว ว่าด้วยเรื่องการต่อรอง การไม่เกรงใจกันที่นักการเมืองสายพันธุ์แท้ส่งสัญญาณคำพูดไปถึงพี่ใหญ่คล้ายจะบอกว่า ไม่ใช่ทหารที่จะมาออกคำสั่งได้??? เรื่องนี้ที่เป็นชนวนหนึ่งอันนำมาสู่เกมประลองกำลังภายในที่นับวันจะแตกหักกันมากขึ้น และอาจเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่บิ๊กตู่ จะเข้ามานั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเอง โดยมีพล.อ.ประวิตร มาเป็นประธานที่ปรึกษาใหญ่
ทั้งหมดนี้ที่อยากจะบอกก็คือ มีการเคลื่อนไหวของแกนนำคนสำคัญของกลุ่มสามมิตรผ่านสื่อที่นำเสนอบทความทำนองโจมตี ทิ่มแทงพี่น้อง3ป.และ 2น.มาอย่างอย่าตั้งข้อสังเกต เพราะที่ผ่านมาก่อนเกิดเรื่องราวโผครม. การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ก็มีข้อเขียนสนับสนุนรัฐบาลรวมทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร แต่เมื่อเกิดรอยปริร้าวระหว่างนายสมคิดกับนายกฯว่าด้วยตำแหน่งก็ปรากฏข้อเขียนขึ้นมาราวเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ??? ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ นี่เป็นเพียงข้อสังเกตเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่เท่านั้น
แต่ที่แน่ๆภายในพรรคพลังประชารัฐแบ่งขั้วแยกข้างกันแน่นอน และทำท่าจะแตกหักกันขึ้นเรื่อยๆผ่านรายชื่อรัฐมนตรี ผลประโยชน์ที่ออกมา ซึ่งสำหรับตัวพลเอกประยุทธ์ ย่อมเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า ย่อมยึดประโยชน์สูงสุดไว้กับชาติบ้านเมือง แต่คนอื่น นักการเมืองบางรายจะคิดถึงสิ่งนี้หรือไม่ ย่อมตอบแทนยาก!!!