- 28 มิ.ย. 2562
ชูชาติ อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฏีกา เปิดข้อกฏหมายชี้ชัด!ข้อความพ่อจอห์นหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญ
จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดี กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคําร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 42 จํานวน 2 คําร้อง โดยขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จํานวน 41 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (5) ประกอบ มาตรา 98 (3) หรือไม่ ต่อมาที่ประชุมมีมติไม่รับคําร้องในส่วนของผู้ถูกร้อง จํานวน 9 คน ไว้พิจารณาวินิจฉัย
ทั้งนี้สําหรับคําร้องของผู้ร้องในส่วนของผู้ถูกร้องที่เหลือ จํานวน 32 คน เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาล รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (5) แล้ว ศาลจึงสั่งรับคําร้องของผู้ถูกร้อง จํานวน 32 คน ไว้พิจารณา วินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบพร้อมส่งสําเนาคําร้องให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคนยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสําเนาคําร้อง
นอกจากนี้สําหรับคําขอให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 42 วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่าจะต้อง “ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง” แต่ในคดีนี้ผู้ร้องไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคงมีเอกสารประกอบคําร้องเพียงหนังสือรับรอง ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทระบุรายละเอียดวัตถุที่ประสงค์กับสําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่ปรากฎแบบแสดง รายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท ฯ (แบบ สสช.1) และแบบนําส่งงบการเงินของ ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากการประกอบกิจการใด กรณีจึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องประกอบ ธุรกิจใด ซึ่งศาลจะต้องดําเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้ยุติต่อไป เมื่อยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้อง จํานวน 32 คน มีกรณีตามที่ถูกร้อง ในชั้นนี้ จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคน หยุดปฏิบัติหน้าที่
ต่อมานายโกวิทย์ วงศ์สุรวัฒน์ อดีตอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บิดานายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ หรือ จอห์น พิธีกรรายการชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญด้วย โดยระบุว่า...
ศาลรัฐธรรมนูญ
รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
น่าจะเกินกว่าคำว่า"ด้าน"เสียแล้ว
ล่าสุดนายชูชาติ ศรีแสง อดีตหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุถึงข้อความดังกล่าวของพ่อจอห์น ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญว่า
.....กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รับเรื่อง ส.ส. 32 คนไว้พิจารณาว่ามีคุณสมบัติต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) หรือไม่ แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น
.....ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้กล่าวถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส.32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า เนื่องจากไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่ผู้ถูกร้องถือหุ้นอยู่และไม่มีแบบแสดงงบการเงินว่าห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากกิจการใด กรณีจึงยังไม่มีความชัดเจน ว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงที่ฟังได้ยุติต่อไป เมื่อไม่ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง ในชั้นนี้จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสามสิบสองคนหยุดปฏิบัติหน้าที่
.....ข้อความในข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นภาษาไทย คนไทยที่อ่านภาษาไทยเข้าใจและมีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ครบถ้วนอ่านแล้วน่าจะรู้เรื่องและเข้าใจถึงเหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่สั่งให้ ส.ส. 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่
.....แต่ยังมีบุคคลซึ่งน่าจะเป็นคนไทยแต่ไม่อ่านเหตุผลดังกล่าวหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจหรือเข้าใจ แต่ต้องการด่าศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า
.....ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมหุ้นสื่อ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ น่าจะเกินคำว่า"ด้าน"เสียแล้ว
.....ข้อความที่ว่า "น่าจะเกินคำว่าน่า"ด้าน"เสียแล้ว" เป็นการ ดูหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.....การกล่าวข้อความดังกล่าวในทวิตเตอร์ซึ่งเผยแพร่ไปทั่วประเทศ จึงเป็นการกระทำผิดที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทยและความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ประชาชนทุกคนมีสิทธิไปแจ้งความกล่าวโทษได้
.....ดังนั้นประชาชนไทยคนหนึ่งคนใดจะไปแจ้งความกล่าวโทษบุคคลนี้ต่อพนักงานสอบสวนได้ทุกสถานีตำรวจในประเทศไทย ไม่ว่าภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางหรือภาคใต้
.....อยากขอร้องลูกศิษย์ที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาที่ประกอบอาชีพทนายความหรือทนายความท่านอื่นที่แม้จะไม่ได้เป็นลูกศิษย์ กรุณาช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ด้วย
.....ขอเพิ่มเติมว่า มีผู้ไปแจ้งความกล่าวโทษที่สถานีตำรวจปากเกร็ดแล้วครับ