- 29 มิ.ย. 2562
น่าสนใจใคร่ครวญ! ไพศาลโพสต์ให้คิด สื่อโลกตีข่าวโทษรบ.ทั้งที่ไม่รู้ใครทำจ่านิวชี้ประเทศเสียหาย
จากกรณีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง อายุ 27 ปี ถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัสย่านพระยาสุเรนทร์ ซึ่งน.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ หรือหนึ่งนุช "แม่จ่านิว" แจ้งว่า เมื่อเวลา 11.00 น. สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 4 นายรุมทำร้าย ที่หน้าปากซอยพระยาสุเรนทร์ ซอย 2 ทั้งนี้อาการได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยวินจักรยานยนต์รับจ้าง พบเห็นเหตุการณ์ และได้แจ้งกู้ภัยร่มไทร ก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 และล่าสุดได้ย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลมิชชั่นแล้วนั้น
ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ เอพี เอเอฟพี รอยเตอร์ วอชิงตันโพสต์ ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปทั่วโลก โดย นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เชื่อว่ากลุ่มที่ทำร้ายจ่านิว เป็นกลุ่มเดิมกับที่เคยทำร้ายไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะจ่านิวไม่มีศัตรูที่ไหน ยกเว้นเรื่องการเมือง เพราะจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวต้านรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่วอชิงตัน โพสต์ และรอยเตอร์ รายงานว่า นางพัฒน์นรี ชาญกิจ มารดาของจ่านิว ได้เปิดเผยกับบรรดานักข่าวว่า จ่านิว บุตรชาย อายุ 27 ปี เพิ่งโทรศัพท์หาเธอเมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ 27 มิ.ย.บอกว่ามีคนเตือนจะโดนทำร้ายอีก ก่อนวันรุ่งขึ้น บุตรชายจะถูกทำร้ายร่างกายจนหมดสติ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคณะแพทย์รู้สึกกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บที่ดวงตาของบุตรชายเพราะอาจกระทบต่อเส้นประสาทตา ซึ่งตอนนี้ บุตรชายลืมตาได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบสนองใดๆได้
ล่าสุดวันนี้(29 มิ.ย.62) นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ถึงกรณีดังกล่าวด้วย โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจในการตั้งข้อสังเกตุดังนี้
ผมยึดมั่นในสันติวิธี
คัดค้านการสร้างความแตกแยก แตกความสามัคคีและความรุนแรง
กรณีการทำร้ายจ่านิวครั้งนี้ สะเทือนใจผู้คนจำนวนมาก เพราะเขาจะไปเรียนต่างประเทศอยู่แล้ว
และที่สำคัญ ลุงตู่เดินทางไปประชุม สุดยอดผู้นำของโลกคือกลุ่ม g20 ที่โอซาก้า ไม่ควรจะให้เกิดเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เพราะกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศ และเกียรติภูมิความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เกิดความเสียหายต่อชาติบ้านเมืองโดยรวม
ไม่เห็นหรือว่า ทันทีที่มีข่าวนี้เกิดขึ้น องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ประสานเสียงกันก้องกระหึ่ม และกล่าวหารัฐบาล
ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าใครทำ!!!
ตั้งสติไตร่ตรองกันสักหน่อยก็อาจจะเห็นอะไรมากขึ้น