- 08 ก.ค. 2562
ถือเป็นหนึ่งโครงการฉาวสำหรับ "โครงการบ้านเอื้ออาทร" ในยุครัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งมี "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นหัวเรือใหญ่ แล้วมอบหมายให้รัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบ แต่อย่างที่รับรู้ว่าโครงการดังกล่าวเต็มไปด้วยปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น ทำให้ถึงแม้จะผ่านมาแล้วถึง 16 ปีแต่โครงการบ้านเอื้ออาทรที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2546 ก็ยังไม่แล้วจบสิ้น วันนี้8 ก.ค.62 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานโจทก์ในคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.42/2561 และ 102/2561 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร 2 และสมาชิกพรรคเพื่อไทย, นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 2548–2549, นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย, นายอภิชาติ หรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่, นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อายุ 56 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และกลุ่มเอกชน รวม 14 ราย เป็นจำเลยที่ 1-14
ถือเป็นหนึ่งโครงการฉาวสำหรับ "โครงการบ้านเอื้ออาทร" ในยุครัฐบาลไทยรักไทย ซึ่งมี "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นหัวเรือใหญ่ แล้วมอบหมายให้รัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบ แต่อย่างที่รับรู้ว่าโครงการดังกล่าวเต็มไปด้วยปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น ทำให้ถึงแม้จะผ่านมาแล้วถึง 16 ปีแต่โครงการบ้านเอื้ออาทรที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2546 ก็ยังไม่แล้วจบสิ้น
วันนี้8 ก.ค.62 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานโจทก์ในคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.42/2561 และ 102/2561 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้องนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร 2 และสมาชิกพรรคเพื่อไทย, นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 2548–2549, นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจก่อสร้างที่พักอาศัย, นายอภิชาติ หรือเสี่ยเปี๋ยง จันทร์สกุลพร นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่, นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง อายุ 56 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และกลุ่มเอกชน รวม 14 ราย เป็นจำเลยที่ 1-14
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 , 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91โดยในการเสนอข่าวสำหรับการพิจารณาคดี องค์คณะผู้พิพากษามีคำสั่งให้เสนอข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาคดีโดยใช้ข้อมูลจากเลขานุการองค์คณะผู้พิพากษาเท่านั้น
การไต่สวนพยานในช่วงเช้า ระหว่างเวลา 9.30 – 12.40 น. องค์คณะผู้พิพากษาไต่สวนพยานปากนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และอนุญาตให้พยานตอบคำถามของนายวัฒนา จำเลยที่ 1 และทนายความจำเลยอื่น ซึ่งฝ่ายจำเลยได้สอบถามพยานเกี่ยวกับเหตุผลในการทำโครงการบ้านเอื้ออาทร การอนุมัติโครงการ การเสนอโครงการของผู้ประกอบการ ยอดจองโครงการที่ผู้ประกอบการจะได้รับการอนุมัติ และวิธีการจัดทำโครงการ ว่าในชั้นการไต่สวนของคณะกรรมการ คตส. ได้พิจารณาเรื่องการเรียกรับสินบนและเงินในโครงการ
นอกจากนั้น นายแก้วสรรยังได้เบิกความถึงการสร้างระบบให้มีการเรียกรับเงินในการทำโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยมีการติดตามกระแสเงินและเส้นทางการเงินพบว่า มีการตั้งบริษัทบังหน้าแต่เป็นเพียงร้านขายก๋วยเตี๋ยว ให้รับเงินจากการทุจริต หลังจากนั้นจึงโอนเงินกลับเข้าไปยังกิจการของจำเลยบางคนเป็นเงินค้าข้าว พยานปากดังกล่าวเบิกความต่อไปว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินมีจำเลยบางคนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน แต่บางคนเกี่ยวข้องกับเส้น