บิ๊กตู่ลั่นเอาความดีเป็นที่ตั้ง หลังถูกถามความพร้อมแถลงนโยบายรบ.

จากกรณีวันนี้(24 ก.ค.)ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ว่า ไม่ต้องกังวลเพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นวิถีทางการเมือง ให้เข้าใจว่าวันนี้มีนายกรัฐมนตรีใหม่และรัฐบาลใหม่แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงการรับมือการอภิปรายการแถลงนโยบายว่า จะมาห่วงตนทำไม ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเป็นเรื่องของกลไก ก็ว่ากันไป ซึ่งตนรับฟังได้อยู่แล้ว ทนฟังได้หมด โดยจะเอาความดีและความบริสุทธิ์ใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชี้วัดอนาคต จะเขียนนโยบายดีอย่างไร ?แต่ถ้าไม่มีรูปธรรมดูแลประชาชน "รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์" เหนื่อยแน่ !!

 

 

ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ในขณะนี้ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงต่างๆได้ชี้แจงไปแล้วว่าปัญหาเกิดจากอะไร แต่ปัญหาหลัก คือช่วงที่ผ่านมาปริมาณฝนที่ตกมีน้อยเกินไป เนื่องจากฝนทิ้งช่วง โดยมีสาเหตุเกิดมาจากสภาวะเปลี่ยนแปลงทางอากาศโลก จะต้องระมัดระวังมากขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาปริมาณน้ำในเขื่อนมาก เพราะเกิดจากพายุหลายลูก แต่ที่ได้รับผลกระทบคือเจอพายุเพียงรูปเดียวแล้วสลายตัวก่อน ทำให้ปริมาณฝนที่ตกน้อยลงไปเอง

 

“ยอมรับว่าการเก็บน้ำก่อนหน้านี้ทำได้ แต่มีการทำนาปรัง ที่ปลูกเกินไปกว่า 1 ล้านไร่ ซึ่งจากการคำนวณแล้วสามารถรองรับได้กว่าล้าน 3 แสนไร่ แต่ปลูกไปแล้ว 2 ล้าน 6 แสนไร่ จึงต้องทยอยปล่อยน้ำออกมา เพราะประชาชนเรียกร้อง โดยหากปล่อยถึงขีดจำกัด จะไม่สามารถปล่อยได้อีก เพราะถ้าปล่อยมากกว่านี้จะทำให้ระบบการประปามีปัญหา และจะกระทบต่อน้ำอุปโภคและบริโภค อย่างไรก็ตาม วันนี้ที่มีปัญหามากที่สุดคือการเกษตร จึงต้องกลับมาดูว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร อะไรก็ตามทุกหน่วยงานพยายามอย่างเต็มที่”

 

 

 

 

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ไม่มีอะไรที่ทำในรัฐบาลนี้แล้วจะจบในรัฐบาลนี้ ทุกรัฐบาลต้องทำต่อในทุกเรื่อง และหลังจากผ่านการแถลงนโยบายไปแล้วเปอร์เซ็นต์ทุกคนจะมาทำงานร่วมกัน 100 เปอร์เซ็นต์ และจะเอาเรื่องทั้งหมดมาปรึกษาหารือกันเพื่อหาวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมมีมาตรการที่เหมาะสมแก้ปัญหาลดความเสี่ยง ตนถึงไม่สร้างปัญหาใหม่จากการแก้ปัญหาเดิม เพราะทั้งหมดมีบทเรียนอยู่แล้วในทุกเรื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราเปลี่ยนได้ โดยแผนปฎิบัติราชการนโยบายของรัฐและแผนนโยบายของทุกกระทรวงที่ทุกกระทรวงต้องทำให้สอดคล้องกันให้เกิดเม็ดงานและแก้ปัญหาการทุจริต เรื่องใดที่อยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.)ก็ว่าไป ก็เคารพกันเท่านั้นเอง

 

 

 

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ไปจัดสัมมนา ที่ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ท อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งให้รื้อถอน เนื่องจากบุกรุกป่า ว่า ส่งสอบสวนกันต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีก็รับเรื่องไปแล้ว อะไรที่เป็นปัญหาตรงกับกระบวนการไหนก็รับไป ไม่ใช่เอาอันนี้มาตีอันนั้น ตีอันโน้นที แล้วทำงานไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ แล้วใครจะทำได้ ถ้าไม่ให้รัฐบาลได้แก้ปัญหาแล้วใครจะทำ ทุกเรื่องมีซ้าย มีขวา มีเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยตลอดทุกเรื่อง

 

“นี่คือประชาธิปไตยที่ผ่านมา และเราก็รับฟังทั้งสองฝ่ายเสมอมา เมื่อมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ ก็ใช้อำนาจที่มีอยู่ในการแก้ปัญหา แต่ที่ผ่านมายังทำได้แค่นี้ เพราะประชาชนเขาปฏิบัติและเคารพกฎมายพื้นฐานหรือยัง อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้จะต้องเข้มงวดเรื่องการใช้กฎหมายพื้นฐาน กฎหมายชาวบ้าน ถ้าทุกคนทำตรงนี้ได้อย่างอื่นก็ทำได้หมด”