- 13 ก.ย. 2562
กว่าจะถึงวันที่ 18 กันยายน 2562 ยังไม่รู้ว่าการอภิปรายทั่วไป ครม. ในประเด็นว่าด้วยการถวายสัตย์จะเกิดขึ้นหรือไม่ ภายหลังจากมีความเห็นของนักกฎหมาย และนักวิชาการหลายฝ่าย ออกมาท้วงติงให้ฝ่ายการเมือง คำนึงถึงผลการวินิจฉัยคำร้องในกรณีดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด เพราะไม่ใช่แค่แง่มุมกฎหมาย แต่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงอยู่ด้วย และถ้าผิดพลาดเกินเลยไปจะกลายเป็นการก้าวล่วง ที่ไม่อาจแก้ไขปัญหาในอนาคตได้
กว่าจะถึงวันที่ 18 กันยายน 2562 ยังไม่รู้ว่าการอภิปรายทั่วไป ครม. ในประเด็นว่าด้วยการถวายสัตย์จะเกิดขึ้นหรือไม่ ภายหลังจากมีความเห็นของนักกฎหมาย และนักวิชาการหลายฝ่าย ออกมาท้วงติงให้ฝ่ายการเมือง คำนึงถึงผลการวินิจฉัยคำร้องในกรณีดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด เพราะไม่ใช่แค่แง่มุมกฎหมาย แต่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูงอยู่ด้วย และถ้าผิดพลาดเกินเลยไปจะกลายเป็นการก้าวล่วง ที่ไม่อาจแก้ไขปัญหาในอนาคตได้
ล่าสุด นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิภา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเน้นย้ำให้ตระหนักในผลที่จะเกิดขึ้น หากฝ่ายค้านยังเดินหน้าจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และครม.ในประเด็นดังกล่าว โดยมีสาระใจความว่า #การตรวจสอบปมถวายสัตย์ทำไม่ได้แล้ว "นักกฎหมายมหาชนย่อมรู้กฎหมายดีอย่าตีความเฉไฉบิดเบือนเข้าข้างตน คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรรวมถึงรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาลและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญทุกองค์กร
คำว่าองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หมายถึง องค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญและมีหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จึงเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญแน่นอนครับ และมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องนี้ไว้อยู่เดิมแล้ว ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ2540เป็นต้นมา
คลิกอ่านข่าวประกอบ : ฝ่ายค้านดื้อแพ่ง เมินวินิจฉัยศาลรธน. และนัยข้อกม. ผลผูกพัน ลั่นต้องอภิปราย ถวายสัตย์ ปิยบุตร ยกคำปชช.คือ ผู้ทรงอำนาจสูงสุด?
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า องค์กรใดตามรัฐธรรมนูญ จึงมิใช่แค่องค์กรอิสระหรือองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญเพียง 5 องค์กรเพียงเท่านั้น ตามที่พยายามตีความกัน และเมื่อตรวจถ้อยความในญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านปรากฎชัดเจนว่าฝ่ายค้านต้องการตรวจสอบทั่งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่าการที่นายกรัฐมนตรีกล่าวคำถวายสัตย์ต่อพระมหากษัตริย์ไม่ครบถ้วนจะทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ นำไปสู่ความไม่ชอบของคณะรัฐมนตรีในการบริหารประเทศ และเป็นโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่รับคำร้องพร้อมมีคำวินิจฉัยชัดเจนแล้วว่า ไม่มีองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญตรวจสอบเรื่องนี้ได้ จึงขอเตือนสติทุกฝ่ายว่า การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 เพื่อตรวจสอบเรื่องถวายสัตย์สภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญจะดำเนินการมิได้ ส่วนท่านจะดำเนินการอภิปรายเรื่องอื่นๆเช่นการแถลงนโยบายโดยไม่มีแหล่งที่มาของงบประมาณนั้น คงเป็นเรื่องดุลยพินิจที่ผมคงไม่กล้าก้าวล่วง แต่ขอให้ทุกท่านที่จะอภิปรายนั้น ตะหนักในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกันด้วยแล้วกันครับ ... ด้วยความห่วงใยในฐานะสมาชิกร่วมรัฐสภา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ส.ส.เพื่อไทย ต่อยกันยับ ในห้องหัวหน้าพรรค
-เปิดทุกปมความจริง คดียุบพรรค “อนาคตใหม่” หลัง “ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ พรรณิการ์” ผนึกกำลัง...บลั๊ฟศาลรธน.??
-“ยิ่งลักษณ์” โพสต์ส่งกำลังใจ คนไทยเผชิญน้ำท่วมปี 62 ภาพ “เอาอยู่” ผุดขึ้นมาทันที 8 ปีแล้ว ยังไม่มีใครทุบสถิติทำเสียหาย??
-มาดามเดียร์ ลั่น เอาจริงเรื่องแก้ปัญหาน้ำ ไม่ใช่ดีแต่พูด กรีดฝ่ายค้านมัวแต่ยุ่งปมถวายสัตย์ ไม่ช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อน