มองปัจจุบัน ย่ำรอยอดีต  “ปิยบุตร” โดนชำแหละไม่จบสิ้น เจอแฉใหม่ “ปฏิวัติฝรั่งเศส” จมปรักวิธีคิด..ล้มล้าง?

@ต้องเรียกว่าอาการโคม่าจริง ๆ สำหรับแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ที่ก่อพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย จนมีประเด็นให้มีเรื่องร้องเรียนไม่จบไม่สิ้น นอกเหนือจากบางกรณีที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ แถมล่าสุดมีนักเคลื่อนไหวอย่าง จอม เพชรประดับ มาแสดงความชื่นชมเรื่องแนวคิด คัดค้านพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562

@ต้องเรียกว่าอาการโคม่าจริง ๆ สำหรับแกนนำพรรคอนาคตใหม่  ที่ก่อพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย  จนมีประเด็นให้มีเรื่องร้องเรียนไม่จบไม่สิ้น   นอกเหนือจากบางกรณีที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ   แถมล่าสุดมีนักเคลื่อนไหวอย่าง  จอม เพชรประดับ  มาแสดงความชื่นชมเรื่องแนวคิด  คัดค้านพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นหน่วยงานบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562  

ขณะเดียวกัน จอม เพชรประดับ  ยังไปไกลถึงแนวคิดเรื่องสถานะของสถาบันกษัตริย์   ที่ดูไม่ต่างกับมุมมองของนักวิชาการการเมืองอย่าง  ปิยบุตร   แสงกนกกุล    เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่   เคยพูดไว้  ว่า ต้องยึดโยงกับหลักการและอุดมการณ์ประชาธิปไตย   แต่เคสของ จอม เพชรประดับ  ลงลึกถึงขั้นใช้คำว่า ไม่ควรให้สถาบันกษัติย์มีอำนาจหรืออิทธิพลสูงสุดทางการเมือง  ทั้งที่นับเนื่องจากอดีตจนถึงปัจจุบัน  พระมหากษัตริย์ไทยไม่เคยทรงลงมายุ่งเกี่ยวทางการเมือง หรือ ใช้พระราชอำนาจ จนเกินขอบเขตบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  

 

มองปัจจุบัน ย่ำรอยอดีต  “ปิยบุตร” โดนชำแหละไม่จบสิ้น เจอแฉใหม่ “ปฏิวัติฝรั่งเศส” จมปรักวิธีคิด..ล้มล้าง?


@ประเด็นนี้ตรงกันข้าม  จะเห็นจากหลายกรณีที่นักการเมืองเรียกตัวเองว่า  นักประชาธิปไตย   มักฉกฉวยจังหวะอวดอ้างวิชาการความรู้  วิพากษ์วิจารณ์พาดพิงไปถึงสถาบันเบื้องสูง  และกล่าวโทษผู้ปกครองประเทศ หรือ กระบวนการยุติธรรมที่ทำให้ลากดึงสถาบันเบื้องสูง  มาใช้เป็นกลไกทำลายฝ่ายประชาธิปไตย  


วันที่  24   มิถุนายน  2562     ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ   หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อม  ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค  ร่วมกิจกรรมเสวนาหัวข้อ 24   มิถุนา   วันประชาธิปไตย และการคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น    ที่ห้องประชุมวิทยาลัยปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น  ความตอนหนึ่ง  ธนาธร   พูดบางช่วงตอนว่า  "วันที่ 24 มิถุนายน 2475    เป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย  

....   หากแต่ตลอด 87 ปี ที่ผ่านมา   การสถาปนาอำนาจของพลเมืองยังไม่จบ     ยังมีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่มีสิทธิ์เสียงเหนือกว่าประชาชนพลเรือนคนอื่น    ยังมีเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ ยังถูกคุกคาม ถูกละเมิด นี่คือผลจากการที่เราไม่ช่วยกันปกป้องการอภิวัฒน์  หน้าที่พลเมืองที่สำคัญอย่างหนึ่งคือต่อต้านการรัฐประหาร และปกปกป้องประชาธิปไตย แต่เหมือนที่ผ่านมาเราหลงลืมกันไป


อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนกลับมาให้ความสำคัญกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475   แต่การพูดอย่างนี้  ตนเองก็จะโดนคำกล่าวหา  โดนใส่ร้ายป้ายสี เรื่องการสานต่อภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของคณะราษฎร   ดังนั้นจึงขอยืนยันอีกครั้งว่า ภารกิจที่ยังทำไม่สำเร็จในวันนี้   และเราพรรคอนาคตใหม่จะสานต่อนั่นคือ การสร้างประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง


จากนั้นไม่นาน  วันที่ 25  กรกฎาคม  2562    ปิยบุตร    โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  ระบุว่า   การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุด    มิใช่การนำสถาบันพระมหากษัตริย์   มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างทางการเมือง   มิใช่การใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยข้อหา “ล้มเจ้า”


แต่การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุด  คือ  การสร้างประชาธิปไตยให้มั่น  คงมีแต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย  ที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์   ประกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเท่านั้นที่จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่อย่างมั่นคงสถาพร    ประสบการณ์จากหลากหลายประเทศที่สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่อย่างมั่นคงสถาพร   และทรงพระเกียรติยศ    ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น

 

 

มองปัจจุบัน ย่ำรอยอดีต  “ปิยบุตร” โดนชำแหละไม่จบสิ้น เจอแฉใหม่ “ปฏิวัติฝรั่งเศส” จมปรักวิธีคิด..ล้มล้าง?

@ ทั้งหมดทั้งมวล จุดยืนเรื่องสถาบันเป็นประเด็นอ่อนไหว  ดังนั้นแม้ ธนาธร  และ ปิยบุตร จะพูดอ้อมโลก  หรือ ยืนยันอ้างอิงหลักการใด ๆ แต่สิ่งทำไว้ในอดีต ย่อมยากจะทำให้เข้าใจเป็นอื่น  

 

ตัวอย่างเช่น  สิ่งที่เว็บไซต์ประชาไท   เผยแพร่การเสวนาในหัวข้อ “เสรีภาพนิสิตนักศึกษาในพระปรมาภิไธย” เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม  2554   และมีการหยิบยกมาตีความหลายครั้ง  จากสิ่งที่ปิยบุตร  พูดถึงภาพรวมของอำนาจสถาบันพระมหากษัตริย์ในสังคมไทย  โดยมีการใช้ข้อความว่า   " สถานะของสถาบันที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีอำนาจมากเกินควรจะเป็นในระบอบประชาธิปไตย  มิได้เป็นมาแต่ไหนแต่ไรตามที่หลายๆ คนอาจได้รับรู้ เนื่องจากในความเป็นจริง   สถาบันกษัตริย์ถูกยกระดับให้มีอำนาจเท่าที่เป็นในปัจจุบัน   ตั้งแต่สมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นต้นมา 

 

มองปัจจุบัน ย่ำรอยอดีต  “ปิยบุตร” โดนชำแหละไม่จบสิ้น เจอแฉใหม่ “ปฏิวัติฝรั่งเศส” จมปรักวิธีคิด..ล้มล้าง?

นับเป็นเพียง  40-50  ปี  ของการช่วงชิงทางความคิดและอุดมการณ์ระหว่างคู่ขัดแย้งฝ่ายต่างๆ ในประวัติศาสตร์เท่านั้น  เช่นเดียวกับการรัฐประหาร  19  กันยายน 2549  ที่สะท้อนถึงความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองจากการเลือกตั้งและฝ่ายจารีตนิยม ที่ใช้การโฆษณาชวนเชื่อ ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการดำเนินไปของสนามที่ต่อสู้เชิงความ คิดที่ยังไม่สิ้นสุดในสังคมไทย  เพื่อที่จะสร้างและรักษาระบอบประชาธิปไตยให้ธำรงอยู่  

เว็บไซด์ประชาไทย  ระบุด้วยซ้ำว่า  นายปิยบุตร  วิจารณ์ถึงสถาบันกษัตริย์จำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่ได้กับประชาธิปไตย  โดยแยกการใช้อำนาจจากรัฐให้เป็นเพียงหน่วยทางการเมืองหน่วยหนึ่ง  ซึ่งทำให้กษัตริย์ไม่สามารถใช้อำนาจใดๆ ผ่านรัฐได้อีกต่อไป 

 

 โดยในทางรูปธรรมนั้นหมายถึงการไม่อนุญาตให้กษัตริย์สามารถทำอะไรเองได้   เนื่องจากผู้ที่รับผิดชอบคือผู้สนองพระบรมราชโองการ   รวมถึงการไม่อนุญาตให้กษัตริย์แสดงพระราชดำรัสสดต่อสาธารณะ และการสาบานต่อรัฐสภาในฐานะประมุขว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ เป็นต้น

 

@เมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ จึงไม่อาจโทษใครได้ กับสิ่งที่กำลังรุมเร้าพรรคอนาคตใหม่ และตัวแกนนำต้องตกเป็นเป้าหมายวิพากษ์วิจารณ์ทุกมิติ


ดังกรณีล่าสุด    ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ  หรือ "ดร.นิว"  นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  แสดงใจความสำคัญบางช่วงตอน   ถึง ปิยบุตร  แสงกนกกุล  เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่  อีกครั้งว่า  "ปกติปิยบุตรมักจะยกคำพูดของคนอื่น ขึ้นมาโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์   แต่นี่เป็นครั้งหนึ่งที่ปิยบุตรกับภรรยาเปิดหน้าใส่ร้ายในหลวง ร.9 ในประเด็นเกี่ยวกับศาลอย่างบิดเบือนที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในหัวข้อวิกฤตการณ์รัฐพันลึกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559 


และจากสิ่งที่  ปิยบุตร  จึงกลายเป็นที่มาในข้อคำถามว่า  ดังนี้


1.ปิยบุตรที่เป็น รศ.ดร.ไม่มีความรู้เลยหรือว่าการถวายสัตย์ฯก่อนเข้ารับตำแหน่งต่อพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข?  ที่อื่นเขาก็มีเหมือนๆกัน เช่น ประเทศอังกฤษ เป็นต้น

 


2.ทำไมปิยบุตรถึงนำคำถวายสัตย์ฯของผู้พิพากษามาไม่ครบถ้วน? แล้วส่วนที่สำคัญๆ ทำไมปิยบุตรไม่กล่าวถึง หรือตั้งใจให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์กันแน่?  #จงใจนำคำถวายสัตย์ฯมาไม่ครบหรือไม่? 

 

 

3.ทำไมปิยบุตรถึงใส่ร้ายในหลวง ร.9 ทำไมต้องยัดเยียดความวุ่นวายทางการเมืองให้พระองค์ท่าน ทั้งๆที่พระองค์ท่านทรงอยู่เหนือการเมือง?

 


4.ก่อนกล่าวหาผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมุขของประเทศชาติของตัวเอง ปิยบุตรมีหลักฐานหรือไม่ หรือปิยบุตรเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการล้มเจ้า และได้นำชุดข้อมูลคำใส่ร้ายที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใช้ตามๆกันเพื่อโจมตีให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์?

 

 

5.ทำไมคนอย่างปิยบุตรที่ประกาศว่าตนเองจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จงรักภักดีต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ในรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ลับหลังกลับกล้าใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างร้ายแรง???#หน้าไหว้หลังหลอกหรือไม่?

 

 

 
ก่อน ดร.นิว จะจบท้ายว่า  "ในปีเดียวกันพวกเขากได้ร่วมวงสนทนาและพูดในลักษณะเดียวกันที่  กรุงปารีส  ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับรวมดาวเหล่าชังเจ้าหลายๆคน  เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559   ซึ่งอันหลังที่เขาพูดเป็นภาษาฝรั่งเศส    เพื่อนชาวฝรั่งเศสของได้แปลให้ผมฟัง    แถมเขายังบอกว่าแนวคิดของปิยบุตรถอดแบบมาจากกลุ่มฌากอแบ็ง (Jacobin)  ในการปฏิวัติฝรั่งเศสล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นำโดย  มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์ กับ หลุยส์ อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์ ???

 

 

มองปัจจุบัน ย่ำรอยอดีต  “ปิยบุตร” โดนชำแหละไม่จบสิ้น เจอแฉใหม่ “ปฏิวัติฝรั่งเศส” จมปรักวิธีคิด..ล้มล้าง?