ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ดูเหมือนกลับมากรุ่นร้อนอีกครั้ง ในช่วงท้ายปี 2562 ด้วยเหตุผลส่วนตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และแกนนำพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากคำร้องยุบพรรคฐานความผิดตามกฎหมาย เรื่องการปล่อยกู้เงินพรรคการเมือง

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ดูเหมือนกลับมากรุ่นร้อนอีกครั้ง  ในช่วงท้ายปี  2562  ด้วยเหตุผลส่วนตัวของ นายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ และแกนนำพรรคอนาคตใหม่     เนื่องจากคำร้องยุบพรรคฐานความผิดตามกฎหมาย เรื่องการปล่อยกู้เงินพรรคการเมือง   

ล่าสุด  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้อยู่ในสถานะนักโทษหนีคดี   ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว  แสดงข้อความว่า  หลายคนคงคิดว่าช่วงนี้ดิฉันทำไมเงียบหายไป   ยังมีความสุขดีอยู่มั้ย บางครั้งการพยายามไม่คิดมาก ทำใจให้สงบ มีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ความสุขเหล่านั้นก็อยู่บนความสุขที่หน้าชื่นอกตรม เพราะนอกจากตัวเองจะต้องพลัดพรากจากลูก จากครอบครัวและจากพี่น้องประชาชนมาอยู่ต่างแดนแล้วยังต้องสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร รวมถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่ตนเองหามาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนมาเป็นนายกรัฐมนตรี และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตอบแทนดิฉัน

ปู ยิ่งลักษณ์ โอดครวญหนัก โดนไล่ยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด แต่ไม่พูดสักแอะ ถึง บุญทรง-ภูมิ รับกรรม(แทน) ติดคุกรวม  90 ปี

 

ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึดและขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉัน  ก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น    ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้  เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา  ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44   ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ  และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่   ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉันโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย   

 

 

 

เพราะจริงๆแล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองที่ถึงที่สุดว่าดิฉันแพ้คดีก่อน   จึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้    เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์    ซึ่งการนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาล    นอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย   ผลกระทบของการใช้ มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย

วันนี้ดิฉันเองจึงอยากจะขออนุญาตเล่าความในใจว่า  ดิฉันเองจะต้องต่อสู้เรื่องของการถูกประมูลทรัพย์สินทุกชิ้นที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง  มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก  แม้กระทั่งทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ให้มา  ดิฉันก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเอาไว้ได้   ดิฉันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและสะเทือนใจทุกครั้งที่รับทราบว่าทรัพย์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้น ทีละชิ้น บางครั้งดิฉันก็ต้องปลอบใจตัวเองและบอกกับตัวเองว่า หากเรายังเศร้าและจมปลักอยู่กับอดีตเราก็จะไม่มีความสุข เรายังต้องมีภาระและดูแลอีกหลายชีวิตที่เขาฝากความหวังไว้กับเรา

 

ปู ยิ่งลักษณ์ โอดครวญหนัก โดนไล่ยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด แต่ไม่พูดสักแอะ ถึง บุญทรง-ภูมิ รับกรรม(แทน) ติดคุกรวม  90 ปี


ดังนั้นดิฉันจึงต้องพยายามยืนและมองไปข้างหน้าโดยมองอดีตเป็นประสบการณ์ และคนเราควรจะอยู่เพื่อวันนี้และเพื่ออนาคต ไม่เอาอดีตมาทำให้เราไม่สามารถจะหลุดพ้นหรือเดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะวันนี้ดิฉันพยายามที่จะบอกว่าดิฉันอยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต เราจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป แต่สิ่งหนึ่งในอดีตที่ดิฉันไม่เคยลืมก็คือความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีต่อดิฉันโดยเสมอมาค่ะ #ม.44กฎหมายเลือกข้าง #กฎหมายเลือกข้าง

 


ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่  26   ม.ค. 2561     ตุลาการศาลปกครอง   ได้มีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา   ในคดีหมายเลขดำที่ 1996/2559  ระหว่าง นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ผู้ฟ้องคดี กับ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) นายกรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 4  คน ผู้ถูกฟ้องคดี

 

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่เรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ทางราชการ     กรณีมีการกล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติกระทำโดยจงใจปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และทำให้ทางราชการเสียหาย เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย     จึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว   ผู้ฟ้องคดีได้มีคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา   โดยขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาบังคับตามคำสั่งพิพาทไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้น

 

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่ศาลจะมีอำนาจออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาท  ในระหว่างพิจารณาคดีได้นั้น ต้องมีเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 3  ประการ เกิดขึ้นครบถ้วนกล่าวคือ
(1) คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

(2) การให้คำสั่งพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง

(3) การทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาท ไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ

 


เมื่อพิจารณาคำขอของผู้ฟ้องคดี  และข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนคำขอวิธีการชั่วคราว จากการชี้แจงของคู่กรณี รวมถึงกรมบังคับคดีแล้ว   

 


กล่าวคือ  ภายหลังจากผู้ถูกฟ้องคดีออกคำสั่งเรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน   ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เสร็จสิ้นภายใน 15  วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว   ซึ่งผู้ฟ้องคดีและผู้ถูกฟ้องคดีให้ถ้อยคำต่อศาลรับกันว่า  นอกจากหนังสือแจ้งเตือนดังกล่าวแล้ว   ผู้ถูกฟ้องคดียังไม่มีการใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึด หรือ  อายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีและขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างใด   ในเมื่อผู้ถูกฟ้องคดียังไม่มีการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง

 


จึงเห็นว่า  "แม้ผู้ฟ้องคดีจะอ้างเหตุของความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งเรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้เงินหลายประการ และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสี่ได้ดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีบ้างไปแล้วก็ตาม แต่ในเมื่อการที่จะวินิจฉัยว่า  คำสั่งพิพาทจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  เป็นประเด็นในเนื้อหาของคดีที่ศาลจะต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาพิพากษาคดีต่อไป"

 

ในชั้นนี้จึงรับฟังไม่ได้ว่า  หากศาลไม่มีคำสั่งทุเลาการบังคับ  ตามคำสั่งพิพาท   จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดีที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง   จึงเห็นว่าเงื่อนไขตามข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีในคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะรับฟังได้   กรณีจึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่ง  ที่เรียกให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้เป็นการชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดี

 


ศาลจึงมีคำสั่งยกคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดี

ประเด็นสำคัญในการโพสต์เรียกร้องความเป็นธรรมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์  ไม่ปรากฏข้อความ หรือ เนื้อหาใด  กล่าวถึง อดีตรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล  อย่าง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์  อดีตรมว.พาณิชย์  และ นายภูมิ สาระผล  รมช.พาณิชย์ ที่ถูกคำพิพากษาจำคุกรวม  48  ปี และ  36  ปีตามลำดับ  ทั้ง ๆ ที่บุคคลทั้ง 2 ราย รับผิดชอบดำเนินโครงการรับจำนำข้าว ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมาย และแนวคิดต้นเรื่องจาก นายทักษิณ ชินวัตร  

 

ปู ยิ่งลักษณ์ โอดครวญหนัก โดนไล่ยึดทรัพย์ ขายทอดตลาด แต่ไม่พูดสักแอะ ถึง บุญทรง-ภูมิ รับกรรม(แทน) ติดคุกรวม  90 ปี