- 01 มี.ค. 2563
ติดตามใกล้ชิดกระแสเคลื่อนไหวของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ในการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ เพื่อให้กำลังใจพรรคอนาคตใหม่ ที่เริ่มต้นจาก ลานปรีดีพนนยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อนจะมีการแพร่กระจายข้อมูลส่งต่อผ่านโลกโซเชียล ให้เกิดความรู้สึกร่วมทำตาม ด้วยวิธีการปลุกเร้าต่าง ๆ จนทำให้มีการจัดตั้งกลุ่มชุมนุม เกิดขึ้นในหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
ติดตามใกล้ชิดกระแสเคลื่อนไหวของสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ในการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ เพื่อให้กำลังใจพรรคอนาคตใหม่ ที่เริ่มต้นจาก ลานปรีดีพนนยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก่อนจะมีการแพร่กระจายข้อมูลส่งต่อผ่านโลกโซเชียล ให้เกิดความรู้สึกร่วมทำตาม ด้วยวิธีการปลุกเร้าต่าง ๆ จนทำให้มีการจัดตั้งกลุ่มชุมนุม เกิดขึ้นในหลายสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ
(คลิกอ่านข่าวประกอบ : ทยา ทีปสุวรรณ เตือนนักเรียน นศ. อย่าดึงฟ้าต่ำ ตกเป็นเครื่องมือการเมือง)
เกี่ยวกับเรื่องเดียวกันนี้ เมื่อภาพเหตุการณ์ดังกล่าวได้เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ ทำให้เหล่าเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลายได้ชวงชิงโอกาสนี้โจมตีอย่างหนัก ทั้งการโพสต์ขอความที่ไม่เหมาะสมลงในโซเชียลมีเดีย จนทำให้มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรง
โดยก่อนหน้านี้ อ.ชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า "เห็นป้ายที่นำมาถือในการชุมนุมกันใช้ภาษาที่หยาบคายมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการชุมนุมของนักศึกษามหาวิทยาลัย สมัยเรียนชั้นประถมศึกษาเคยอ่านนิทานชาดกเรื่องโคนันทวิศาล ที่เจ้าของไปท้าพนันกับบุคคลอื่นว่าโคนันทวิศาลลากเกวียน 100 เล่มได้
ครั้งแรกเจ้าของพูดกับโคนันทวิศาลไม่เพราะ โคนันทวิศาลจึงไม่ยอมลากเกวียน เจ้าของแพ้การพนัน ครั้งหลังเจ้าของพูดจาไพเราะอ่อนหวานโคนันทวิศาลจึงลากเกวียนได้สำเร็จ และเจ้าของชนะการพนัน เป็นการสอนให้เด็กๆ ด้วยตนเองรู้ว่า การพูดจาสุภาพเรียบร้อยไพเราะอ่อนหวานเป็นสิ่งที่ควรประพฤติปฏิบัติเพราะผู้ที่ได้ยินได้ฟังย่อมชื่นชอบทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่สัตว์
น่าเป็นห่วงสังคมไทยว่าจะมีแต่คนพูดคำหยาบคายกันทั่วบ้านทั่วเมือง หาคนที่พูดจากันด้วยคำพูดที่สุภาพเรียบร้อยไพเราะอ่อนหวานได้ยากขึ้นทุกวัน เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมในปัจจุบันส่วนหนึ่งมาจากการพูดจาหยาบคาย เพราะเมื่อพูดกันบ่อยๆ เป็นประจำย่อมทำให้จิตใจของคนเหล่านั้นหยาบกระด้างโหดเหี้ยมไปด้วย การทำร้ายกันจนถึงการฆ่ากันจึงเกิดขึ้นได้ง่ายๆ อย่างที่เห็นกันอยู่"
ล่าสุด อ.ชูชาติ ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้งว่า "เมื่อวานเขียนถึงความห่วงใยสังคมไทยที่ปัจจุบันมีคนพูดหยาบคายกันมาก อันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงต่างๆ ขึ้นได้ มีผู้แชร์ 200 ครั้งเศษ มีผู้ใช้ชื่อว่า รัฐตินพันธ์ คนหลัก (JaMes) แชร์แล้วมีการคอมเม้นท์ด้วยข้อความดังนี้ "สลิ่มนี้มันโง่จริงๆ ปิดเม้นต์ด้วย แต่ละตัวเม้นดูรู้เลยนะครับว่าโง่จนโงหัวไม่ขึ้นเลยหนักเขา"
.....ข้อความดังกล่าวน่าจะเข้าข่ายเป็นการหมิ่นประมาทผู้เขียนและผู้เข้ามาคอมเม้นต์ทุกคนโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท การโพสต์ลงในเฟซบุ๊กซึ่งอ่านได้ทั่วประเทศ การกระทำความผิดจึงเกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรไทย ผู้เสียหายมีสิทธิแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่สถานีตำรวจใดหรือฟ้องคดีต่อศาลใดในประเทศไทยไม่ว่าเป็นในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคใต้ก็ได้
อยากให้บทเรียนแก่นายรัฐตินพันธ์ที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งหนึ่งรู้ว่า การพูดจาด่าดูหมิ่นผู้อื่นทั้งๆ บุคคลเหล่านั้นไม่เคยรู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับตนเองมาก่อนเลยจะได้รับผลตอบแทนอย่างไร เมื่อถูกฟ้องคดีและศาลประทับฟ้องแล้ว จะต้องใช้เงินประกันตัวในระหว่างพิจารณาคดี มิฉะนั้นก็ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปศาล ต้องเสียค่าว่าจ้างทนายความในการต่อสู้คดี
และถ้าศาลลงโทษจำคุก ย่อมหมดสิทธิในการเข้ารับราชการ และบริษัทห้างร้านของเอกชนก็ยากที่จะรับเข้าทำงาน เพื่อนๆ ที่เข้ามาคอมเม้นท์ทุกคนต่างก็เป็นผู้เสียหาย หากประสงค์จะดำเนินคดีแก่บุคคลผู้นี้ถ้าต้องการคำแนะนำหรือช่วยเหลือก็ยินดี