บิ๊กตู่ นำครม.ประเดิมสละเงินเดือน ผุดกองทุนโควิด-19 สธ.ประกาศชื่อ 9 ปท.มาถึงไทยต้องกักตัว

กลายเป็นปัญหาระดับโลก  ที่คนไทยไม่พ้นต้องเร่งหามาตรการรับมือ  จากผลกระทบการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19  ด้วยเหตุการทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้้อ 43 ราย โดย 11 ราย รักษาหายดีจนกลับบ้านได้แล้ว 31 ราย ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย  โดยปัจจุบันยังคงมีผู้ป่วยวิกฤต 1 ราย อายุ 70 ปี  ซึ่งแม้จะไม่พบเชื้อของไวรัสแล้ว แต่ยังต้องรักษาอาการของวัณโรคและภาวะแทรกซ้อน  จนกระทั่้งพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  ต้องออกคำสั่งเป็นมาตรการเร่งด่วน  เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระยะเฝ้าระวัง  และชะลอการระบาดของเชื้อไวรัส จากระดับ 2 สู่ ระดับ 3  เหมือนหลายประเทศ  ที่กำลังเป็นปัญหาอย่างหนัก

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :   นายกฯตู่สั่งการตรง ยกระดับมาตรการเร่งด่วน คุมไวรัสโควิด-19 นัดถกรับมือผีน้อยเรือนหมื่น หนีเกาหลีเผ่นกลับ)   

ล่าสุด   นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมครม.มีการหารือถึงมาตรการในการจัดหาและดูแลสิ่งจำเป็นให้กับประชาชนสำหรับสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19  โดยพล.อ.ประยุทธ์   เสนอให้มีการตั้งกองทุนขึ้นมา  เพื่อให้ครม.ร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุน  แต่ยังไม่อยากกำหนดว่าใครจะต้องให้เงินเท่าไร  แต่เบื้องต้นเห็นควรจะสละเงินเดือน 1 เดือน เป็นเบื้องต้นเข้าสมทบการจัดตั้งกองทุน หรือมากกว่านั้นก็ได้แล้วแต่ใครจะบริจาคก็ได้   ซึ่งในส่วนของทีมโฆษกรัฐบาล  ก็แสดงเจตนาร่วมสละเงินเดือนเพื่อนำเงินเข้ากองทุนด้วยเช่นกัน

 

 

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า ในที่ประชุมครม.  รัฐมนตรีส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะตั้งกองทุนดังกล่าว  โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ยินดีที่จะบริจาคเงินเดือนให้   นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการผู้เกี่ยวข้องให้ไปดูเรื่องนี้มา  เพื่อดำเนินการอย่างเร่งด่วน  สำหรับเงินเดือนของ นายกรัฐมนตรี  ที่ได้รับเดือนละ 125,590 บาท  รองนายกรัฐมนตรี   เดือนละ 119,920 บาท  รัฐมนตรีว่าการกระทรวง  รมต.ประจำสำนักนายกฯ  เดือนละ 115,740 บาท และรัฐมนตรีช่วยว่าการ เดือนละ 113,560 บาท

 

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข   ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข   เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19  พ.ศ.2563

 

 

โดยกำหนดให้พื้นที่ 9 ประเทศ เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย ประกอบด้วย 1.ญี่ปุ่น 2.สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 3.สาธารณรัฐเกาหลี 4.สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และฮ่องกง 5.ไต้หวัน 6.สาธารณรัฐฝรั่งเศส  7.สาธารณรัฐสิงคโปร์  8.สาธารณรัฐอิตาลี และ 9.สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

 

ทั้งนี้นายอนุทิน ได้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับประกาศดังกล่าวด้วยว่า “ทุกคนที่เดินทางมาจาก 9 ประเทศ ซึ่งเป็นเขตติดโรค  ต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้น อดทน และ สู้ไปด้วยกัน ครับ”